เศรษฐกิจ

ลงทะเบียนแก้หนี้ ยอดทะลุ 1 แสนราย – 'อนุทิน' ถกบอร์ดแก้หนี้ เตรียมปล่อยกู้ลูกหนี้เครดิตดี

โดย thichaphat_d

19 ธ.ค. 2566

15 views

วานนี้ (18 ธ.ค.) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นวันที่ 18 นับตั้งแต่เปิดลงทะเบียน โดยจากข้อมูลของสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เมื่อเวลา 15.30 น. มีมูลหนี้รวม 6,085.977 ล้านบาท ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 100,467 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 88,669 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 11,798 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 71,202 ราย

มีพื้นที่/จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด 5 ลำดับแรก

1. กรุงเทพมหานคร ยังคงมากที่สุด มีผู้ลงทะเบียน 6,322 ราย เจ้าหนี้ 5,253 ราย มูลหนี้ 511.824 ล้านบาท

2. จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน 4,323 ราย เจ้าหนี้ 3,504 ราย มูลหนี้ 262.236 ล้านบาท

3. จังหวัดสงขลา มีผู้ลงทะเบียน 3,986 ราย เจ้าหนี้ 2,817 ราย มูลหนี้ 248.398 ล้านบาท

4. จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 3,884 ราย เจ้าหนี้ 2,428 ราย มูลหนี้ 299.260 ล้านบาท

5. จังหวัดขอนแก่น มีผู้ลงทะเบียน 2,610 ราย เจ้าหนี้ 2,070 ราย มูลหนี้ 190.513 ล้านบาท

----------------------

'อนุทิน' ถกบอร์ดแก้หนี้ เผยรัฐเตรียมปล่อยกู้ลูกหนี้นอกระบบเครดิตดี 50,000 บาท ดอกเบี้ยแค่ 0.75/เดือน

วานนี้ (18 ธ.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ครั้งที่1/2566

นายอนุทิน กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการประชุมนัดแรกหลังนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ต่อไปนี้จะต้องร่วมกันศึกษา วิเคราะห์และจัดทำข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเพื่อนำไปสู่การบรรเทาผลกระทบให้ลูกหนี้ ซึ่งต้องแบกรับภาระไม่ว่าจะเป็นการกู้เงินโดยถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา การถูกข่มขู่โดยใช้ความรุนแรงต่อไป

รองนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงขั้นตอนดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามแนวนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ซึ่งจะเป็นการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นตอนแรกการลงทะเบียน ดำเนินการระหว่าง 1 ธ.ค.66-29 ก.พ.67 มีกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลัก และมีหน่วยงานอื่นเสริมคือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี โดยทั้งหมดเชื่อมโยงข้อมูลกัน โดยประชาชนได้รับหมายเลขอ้างอิง (Reference Number) เพื่อใช้ติดตามความคืบหน้าทางเว็บไซต์ภาครัฐได้ตลอด ขั้นตอนที่ 2 ดำเนินการไกล่เกลี่ยและติดตามผล และ ขั้นตอนที่ 3 การกำหนดระยะเวลาดำเนินการ เป้าหมาย และตัวชี้วัดที่ต้องชัดเจน

โดยนายอนุทิน ยังกล่าวอีกว่า คณะกรรมการชุดนี้ มีภารกิจหน้าที่ครบทุกมิติทั้งในด้านการไกล่เกลี่ย การบังคับใช้กฎหมาย การรักษาความสงบ และการแก้ไขปัญหา โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วมครบทุกหน่วย และเราจะมีการกำหนดไทม์ไลน์และตัวชี้วัดชัดเจน รวมถึงตั้งคณะอนุกรรมการชุดที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานขึ้นมาขับเคลื่อนและติดตามการทำงาน ท่านนายกฯ ได้มีการให้นโยบายในวันที่คิกออฟโครงการว่าขอให้ดำเนินเรื่องนี้ด้วยความรวดเร็ว เด็ดขาด เข้มงวดในการใช้กฎหมาย มีการตั้ง KPI ในการดำเนินงาน ขอให้ทุกท่านซึ่งเป็นหัวหน้าส่วนงาน ได้สั่งการผู้รับผิดชอบในการดำเนินการอย่างรวดเร็วต่อไป” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน ยังระบุอีกว่า ที่ประชุมฯ ได้มีวาระเพื่อพิจารณาและและมีมติดังนี้ เห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งมีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานอนุกรรมการ และผู้แทนหน่วยงานเกี่ยวข้องเป็นอนุกรรมการ โดยชุดนี้จะมีอำนาจหน้าที่ในการติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการช่วยเหลือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ เชิญหน้าหน้าที่รัฐหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ให้ความเห็น หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

เห็นชอบมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ 3 ด้าน ประกอบด้วย

1) ด้านการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ โดยมีกรมการปกครองเป็นเจ้าภาพหลัก และมีสำนักงานอัยการสูงสุดร่วมสนับสนุน โดยนับแต่เริ่มปิดลงทะเบียนจนถึง 18 ธ.ค. 66 (เวลา 11.30 น.) ปรากฏว่ามีลูกหนี้มาลงทะเบียนแล้ว 99,484ราย คิดเป็นมูลหนี้ 5,926 ล้านบาท โดยในระหว่างการลงทะเบียนดังกล่าวก็มีการเชิญเจ้าหนี้ลูกหนี้มาทำการไกล่เกลี่ยโดยใช้กลไกของฝ่ายปกครอง บูรณาการร่วมกับตำรวจและพนักงานอัยการ โดยทางเจ้าหนี้-ลูกหนี้สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ก็จะมีการทำบันทึกประนีประนอมไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 20 ราย

2) ด้านการบังคับใช้กฎหมาย มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ โดยบูรณาการร่วมกับพนักงานฝ่ายปกครอง เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้ช่วยเหลือซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการดำเนินคดีกับเจ้าหนี้ที่มีพฤติการณ์ใช้กำลังประทุษร้ายลูกหนี้ไปแล้วบางส่วน รวมทั้ง เรียกเจ้าหนี้มาทำความเข้าใจนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอีกด้วย

3) ด้านการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน จะมีกระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพ ร่วมกับสถาบันทางการเงินของรัฐในการปล่อยวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เงื่อนไขน้อยและอาจมีระยะเวลาปลอดการชำระคืนเงินต้น และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะได้เข้ามาช่วยเหลือลูกหนี้ตามสาเหตุแห่งการเป็นหนี้ ตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงาน เช่นกระทรวงแรงงาน กระทรวงกระทรวงมหาดไทยให้การสนับสนุนด้าน การหาอาชีพเสริม สนับสนุนปัจจัยการผลิต

นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบตัวชี้วัดการดำเนินการทั้ง 3 ด้าน ประกอบด้วย ตัวชี้วัดการไกล่เกลี่ยของกรมการปกครอง กำหนดการเจรจาไกล่เกลี่ยได้อย่างน้อย ร้อยละ 80 ของลูกหนี้ในระบบและเจ้าหนี้ตามฐานข้อมูล โดยสามารถตกลงกันได้ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 50 ด้านการบังคับใช้กฎหมาย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถดำเนินคดีได้ทั้งหมดร้อยละ 70 ของเรื่องรับดำเนินการ ระยะเวลาดำเนินการหากเป็นสำนวนไม่ยุ่งยากดำเนินการเสร็จใน 3 เดือน กรณีมีความซับซ้อนไม่เกิน 3 เดือน ส่วนของด้านการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน โดย สศค. ซึ่งจะต้องได้รับการให้สินเชื่อโดยธนาคารออมสินและธ.ก.ส. มีเป้าหมายผู้ได้รับความช่วยเหลือที่ร้อยละ 70 ของผู้ลงทะเบียน

โดยการปล่อยวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำธนาคารรัฐมีเงื่อนไขน้อย โดยกำหนดให้รายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่ลูกหนี้เคยเสีย ร้อยละ 2 บาทต่อวัน หรือร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 20 ต่อเดือนก็มี ซึ่งหากไกล่เกลี่ยลงตัว แล้วเจ้าหนี้จะได้เงินคืนอย่างแน่นอน โดยอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ ร้อยละ 0.75 -1.5 ต่อเดือน ขึ้นอยู่แต่ละเงื่อนไข

ทั้งนี้ หากลูกหนี้มีหลักประกัน มีความน่าเชื่อถือมีงานทำมีรายได้แน่นอนอัตราดอกเบี้ยก็จะอยู่ในระหว่างที่กำหนด พร้อมกับระบุว่าเรื่องอัตราดอกเบี้ยนี้ไม่ต้องถามกันแล้วว่าแฟร์หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ลูกหนี้ก็เคยจ่ายร้อยละ 2 บาทต่อวัน รับได้หรือไม่ได้ เพราะร้อยละ 2 บาทต่อวัน ก็เคยจ่ายมาแล้ว หรือร้อยละ 60 ต่อเดือน ก็จ่ายมาแล้ว และอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 720 บาทต่อปี ก็จ่ายมาแล้ว ซึ่งวันนี้เราจะทำให้เหลืออยู่ไม่เกิน ร้อยละ 1.5 ต่อปี ซึ่งนี่คือการช่วยเหลือในการแก้หนี้ของรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขปัญหาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ซึ่งนอกจากใช้กลไก นอกจากจะมีการสนับสนุนเรื่องของสินเชื่อ ดอกเบี้ยยังใช้กลไกของรัฐอย่างกระทรวงแรงงาน และกระทรวงมหาดไทย เข้ามาพัฒนาอาชีพ หารายได้ เพื่อสนับสนุนปัจจัยการผลิตต่อไป


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/8cGD_rop8uY

คุณอาจสนใจ

Related News