เศรษฐกิจ

เคาะแก้หนี้ในระบบข้าราชการ ให้เหลือเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 30% - ปล่อยกู้เกิน 30 ล้าน ฟันโทษอั้งยี่

1 ธ.ค. 2566

200 views

เคาะ แก้หนี้ข้าราชการ ในระบบสินเชื่อสวัสดิการ 3 ล้านคน ให้เหลือเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 30% หากไม่ถึงเกณฑ์ ขยายงวดชำระถึงอายุ 75 ปี พร้อมเงินกู้พิเศษ ดีเดย์ ม.ค.67 ‘กิตติรัตน์’ ขอเวลาพิจารณาปรับดอกเบี้ยบัตรเครดิต ก่อนชงนายกฯแถลง ‘หนี้ในระบบ’ 12 ธ.ค.


วานนี้ (30 พ.ย. 66) ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู เปิดศูนย์ปราบปรามหนี้นอกระบบ เป็นวาระแห่งชาติ ด้วย 'ชุดปฏิบัติการ 5 เสือ plus' ใช้อำเภอเป็นกลไกไกล่เกลี่ยหนี้ทางแพ่ง โดย ชุดปฏิบัติการ 5 เสือ plus' จะเป็นระดับตำบล มีกำนัน ผูํใหญ่บ้าน ชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังสอกส่องบุคคล/กลุ่มที่กระทำความผิด


ทั้งนี้ วันที่ 8 ธ.ค. 2566 นายอำเภอกับ ผกก. จะมาประชุมร่วมกันที่อิมแพ็ค เพื่อรับนโยบาย

-----------

วานนี้ (30 พ.ย.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม // นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย // พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองประธานกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินฯ ร่วมแถลงข่าวผลการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องหนี้นอกระบบ


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการรับฟังปัญหาหนี้ของข้าราชการ

พบว่า การหักเงินเดือน และการชำระหนี้ ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของระบบสินเชื่อสวัสดิการ ทำให้ข้าราชการมีเงินเดือนไม่ถึง 30%


ดังนั้น คณะกรรมการชุดนี้ จึงพิจารณาร่วมกันว่า จะทำให้ข้าราชการมีเงินเดือนเหลือไม่น้อยกว่า 30% ของเงินเดือน


สำหรับแนวทางการแก้ไขหนี้สินข้าราชการ จะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สามารถให้ข้าราชการปลดหนี้ได้อย่างรวดเร็ว


แต่ถ้าบางรายไม่สามารถทำให้เงินเหลือมากกว่า 30% ของเงินเดือนได้ จะใช้วิธีการขยายงวดชำระเงินต้นออกไปให้อายุถึง 75 ปี  จะส่งผลให้เงินต้นลดลงโดยอัตโนมัติ


นอกจากนี้ จะหาเงินกู้พิเศษจากสหกรณ์ออมทรัพย์ของตัวเอง ในอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม


และหากสมมุติว่า ยังเหลือเงินไม่ถึง 30% อีก ซึ่งเชื่อว่าจะเหลือแค่บางรายเท่านั้น เราจะนำมาวิเคราะห์ และแก้ไขเฉพาะราย เพื่อให้เกิดการปลดหนี้ ให้มีสภาพชีวิตที่อยู่ด้วย


โดยจะเดินหน้า และเกิดผลสัมฤทธิ์ ในเดือน ม.ค. 67 เป็นต้นไป แต่ต้องขอความร่วมมือจากกรมบัญชีกลาง และต้นสังกัดของข้าราชการ

-------------

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย กล่าวถึงภาพรวมหนี้ของข้าราชการทั้งระบบว่า


ข้าราชการที่อยู่ในระบบเงินกู้สหกรณ์ มียอดรวมทั้งสิ้น 3 ล้านคน

  • กระทรวงศึกษาธิการ ประมาณ 8 แสนคน
  • กระทรวงสาธารณสุข 2 แสนกว่าคน
  • ตำรวจ 2.3 แสนคน


สำหรับแนวทางการแก้ไขหนี้สินของข้าราชการนั้น เราจะดูแลข้าราชการในระบบสวัสดิการ และรัฐบาลจะดูแลเรื่องการหักเงินเดือนให้ทุกหน่วย


เมื่อถามถึง การแก้ไขหนี้บัตรเครดิตที่มีเก็บดอกเบี้ย 18% ต่อปี ขณะที่ นายกรัฐมนตรีระบุในการแถลงข่าวแก้หนี้นอกระบบ ให้เก็บดอกเบี้ยในอัตราที่ไม่เกิน 15% ต่อปี ทางคณะกรรมการฯจะมีแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างไร

นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า เรื่องบัตรเครดิตอัตราดอกเบี้ยตามข้อตกลงเดิมบวกกับเบี้ยปรับในรายการผิดชำระ ตรงนี้มีการอ้างอิงประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ทำได้ไม่เกินร้อยละ 3


ฉะนั้น การประชุมแก้ไขหนี้ในส่วนที่เหลือจะมีแนวทาง ตอนนี้ขอพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อให้พร้อมที่จะเสนอนายกฯ เพื่อแถลงในวันที่ 12 ธ.ค.นี้


เมื่อถามย้ำว่า มีแนวโน้มที่จะเก็บดอกเบี้ยบัตรเครดิต 15% หรือไม่

นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ก็มีแนวโน้ม

-------------
เมื่อวานนี้ (30 พ.ย. 66) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองประธานกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินฯ ร่วมแถลงข่าวผลการประชุมฯ ว่า


ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องหนี้นอกระบบ ซึ่งได้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติ ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เรื่องนี้ถือเป็นวาระที่สำคัญ


โดยมีการนำเอาหนี้นอกระบบไปอยู่ในท้ายพระราชบัญญัติคดี ดังนั้น ต่อไปนี้ การปล่อยกู้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดคือ ร้อยละ 15 ต่อปี และไม่มีกฎหมายกำหนด


ส่วนที่จะเป็นคดีพิเศษเครือข่ายหนี้นอกระบบ เช่น เราตีว่า 30 ล้าน หรือ 50 คนขึ้นไป ที่ปล่อยกู้ โดยเมื่อตรวจสอบกับกรมบังคับคดีก็จะพบกับกรณีนี้ ซึ่งพบว่ามีเป็นหมื่น ๆ คน


วันนี้ จึงสั่งให้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มาเป็น ผอ.การแก้ปัญหาลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และเป็นท้ายหนี้นอกระบบ ที่มีสำนักเข้าไปดูแล โดยดีเอสไอจะทำร่วมกับตำรวจ ซึ่งจะใช้วิธีเข้าไปสอบสวน สืบสวนเครือข่าย ซึ่งจะทำให้บรรเทาเรื่องหนี้นอกระบบ


ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเจ้าหนี้ ปล่อยกู้เกิน 30 ล้านบาท เครือข่าย 50 คน กำหนดเป็นเกณฑ์แล้วใช่หรือไม่ว่า จะนับเป็นคดีพิเศษ ใช่หรือไม่

รมว.ยุติธรรม ระบุว่า ใช่ กำหนดแล้ว


ถามว่า หากนำมาเป็นคดีพิเศษแล้วจะมีโทษอย่างไรบ้าง

รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า จะมีโทษอั้งยี่ด้วย โดยจะมีการยึดทรัพย์


เมื่อถามว่า 16 ล้านล้านบาทนั้น เป็นมูลหนี้ปัจจุบันใช่หรือไม่

รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เป็นมูลหนี้ที่อยู่กรมบังคับคดี ซึ่งต้องบังคับคดีไปตามกฏหมาย ที่จะต้องให้ความเป็นธรรม เป็นการไปช่วยบรรเทา

-------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/pFVnItYzzQQ


คุณอาจสนใจ

Related News