ปั๊มแจงเหตุน้ำมันหมด ยันไม่มีการกักตุน โต้กลับรัฐไม่ชดเชยส่วนต่าง ที่ปรับลดราคารุนแรง

บริษัท ปตท.นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)   และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับลดราคาน้ำมันในกลุ่มเบนซิน แก๊สโซฮอล์  โดยปรับลดราคาน้ำมันลง 40 สตางค์/ลิตร ส่วนน้ำมันในกลุ่มดีเซลราคาคงเดิม มีผลวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ราคาที่ประกาศเป็นราคาขายปลีกในกรุงเทพมหานคร ที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่น

ราคาน้ำมันขายปลีก (ใหม่) จะเป็นดังนี้

แก๊สโซฮอล์ E85 อยู่ที่ 34.29 บาทต่อลิตร

แก๊สโซฮอล์ E20 อยู่ที่ 34.14 บาทต่อลิตร

แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 34.48 บาทต่อลิตร

แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 36.25 บาทต่อลิตร

เบนซิน อยู่ที่ 44.04 บาทต่อลิตร

ซูเปอร์พาวเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 44.04 บาทต่อลิตร

-------------

ราคาน้ำมันโลก มีดังนี้

• น้ำมันกลั่นสำเร็จรูป สิงคโปร์ ลดลง 3.72 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 105.92 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

-------------

จากกรณี มีการแชร์ภาพปั๊มน้ำมันหลายแห่งติดป้ายว่าน้ำมันหมด จนทำเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า พอน้ำมันลดราคา ทางปั๊มน้ำมันก็กักตุนน้ำมัน เพื่อเก็บเอาไว้ขายตอนที่ราคาน้ำมันเพิ่ม

ซึ่งผู้ประกอบการปั๊มน้ำมัน ยืนยัน ไม่มีการกักตุนน้ำมัน คาดหลายปั๊มน้ำมันหมดถึง 10 พฤศจิกายน

จากการสอบถามสถานีบริการน้ำมัน ได้รับการยืนยันตรงกันว่า ไม่ได้กักตุนน้ำมัน สาเหตุที่น้ำมันหมด เพราะปั๊มลดสต๊อกน้ำมัน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เพื่อขายราคาเดิมให้หมด ลดสต๊อกของปั๊มตนเองให้เหลือน้อยที่สุด ก่อนที่รัฐบาลจะประกาศลดราคาในวันที่ 7 พฤศจิกายน เพราะรัฐบาลไม่ได้ชดเชยส่วนต่างที่ปรับลงอย่างรุนแรงให้ บางปั๊มคำนวณผิดพลาด ทำให้ปั๊มข้างเคียงขายมากกว่าปกติ สุดท้ายน้ำมันจึงหมดตามกันไปทุกปั๊ม

ขณะที่การสั่งน้ำมัน ต้องรอคิวรถจ้างวิ่งที่มีคิวยาวทั่วประเทศ ที่สั่งน้ำมันพร้อมกันทั้งประเทศ ซึ่งข้อมูลตอนนี้คิวยาวไปถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน เพราะความสามารถในการโหลดน้ำมันแต่ละคลังแตกต่างกัน สั่งเข้ามาพร้อมกันทุกปั้ม ต้องใช้เวลาในการโหลด 2-3 วัน จึงจะหมดคิวรถ นอกจากนี้ผลจากราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน ที่ลดราคาวันนี้อีก 60 สตางค์ต่อลิตร จะยิ่งทำให้ประชาชนแห่เติมมากขึ้น
--------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/a_FmyYDadQM