เศรษฐกิจ
‘จุลพันธุ์’ พร้อมแจง ป.ป.ช.นโยบายแจกเงิน 1 หมื่น –‘จุรินทร์’ เตือนดิจิทัลวอลเล็ต อย่าซ้ำรอยทุจริตจำนำข้าว
13 ต.ค. 2566
115 views
รมช.คลัง “จุลพันธุ์” ประชุมนัดแรก คณะอนุกรรมการฯ ดิจิทัล วอลเล็ต ย้ำ การดำเนินโครงการแจกเงินdigital 1 หมื่นบาท จะดำเนินการตามกฎหมายการเงินการคลัง อย่างเคร่งครัด และพร้อมชี้แจงต่อ ปปช. ด้าน "จุรินทร์" เชื่อรัฐบาลต้องทำเพราะหาเสียงไว้ เตือนอย่าซ้ำรอยจำนำข้าว
เมื่อวานนี้ (12 ต.ค.66) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 1/2566 กล่าวในระหว่างการประชุมคณะอนุกรรมการ ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สภาพัฒน์ สำนักงบประมาณ และกระทรวงพาณิชย์ โดยระบุว่าโครงการนี้จะดำเนินการด้วยความรอบคอบ และปฏิบัติตาม สามกฎหมายที่สำคัญ คือ พรบ.การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี,พรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ, และพรบ.วิธีการงบประมาณ
สำหรับกรณีที่ ป.ป.ช.แถลงว่าจะติดตามตรวจสอบโครงการนี้นั้น นายจุลพันธุ์ กล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ ปปช.จะเข้ามาร่วมตรวจสอบโครงการนี้ เพราะการที่หน่วยงานของรัฐเข้ามาร่วมตรวจสอบ จะทำให้การดำเนินโครงการเกิดความรอบคอบรัดกุมยิ่งขึ้น ตนพร้อมที่จะเข้าไปชี้แจงโครงการดังกล่าวให้ ปปช.ด้วยตนเอง และพร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมย้ำ ความคุ้มค่าของโครงการนี้ จะต้องมองทั้งความคุ้มค่าของตัวเองที่ใช้จ่าย และความคุ้มค่าทางสังคม
ซึ่งเศรษฐกิจไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ขยายตัวเฉลี่ยเพียง 2 % ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำกว่าประเทศในภูมิภาค ขณะที่เศรษฐกิจไทยควรขยายตัวตามศักยภาพ ที่ 5 % ต่อปี ดังนั้น จำเป็นต้องมีนโยบายเพื่อกระชากเศรษฐกิจ ให้สามารถขยายตัวได้เต็มศักยภาพ
ทั้งนี้ช่วงเวลาของการดำเนินนโยบายนี้ของรัฐบาล จำเป็นต้องเร่งให้สามารถดำเนินการได้ในต้นปีหน้า เพื่อประโยชน์สูงสุดของเศรษฐกิจ เนื่องจากงบประมาณปี 2024 ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนด ทำให้ต้องมีเม็ดเงินเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสหนึ่งของปีหน้า เพื่อทดแทนกับเม็ดเงินงบประมาณปี 2024 ที่ยังไม่สามารถอัดฉีดเข้าระบบเศรษฐกิจ
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง นโยบายดิจิทัลวอลเลตของรัฐบาลว่า รัฐบาลเป็นคนติดกระดุมเม็ดแรกตั้งแต่ตอนหาเสียง เพราะฉะนั้นไม่ทำคงไม่ได้ และตนเคยพูดไว้ตั้งแต่ตอนรัฐบาลแถลงนโยบาย ว่าจะต้องทำตามสิ่งที่ได้พูดไว้ แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อผลที่ตามมาด้วย เพราะตอนหาเสียงมีคำท้วงติงเยอะ แต่มาถึงตอนนี้ไม่ทำไม่ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญ คือ การดำเนินการอย่าซ้ำรอยโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งตนก็เคยเตือนเรื่องนี้ไว้เหมือนกันและหลายฝ่ายก็เป็นห่วง
จนถึงวันนี้ก็สะท้อนว่า รัฐบาลก็ยังมะงุมมะงาหราอยู่ เพราะจะทำอย่างไรกับนโยบายนี้และจะเอาเงินมาจากไหน ยังไม่มีความชัดเจนเต็ม 100% แม้ว่าจะมีการแถลงมาเป็นระยะก็ตาม ยิ่งแถลงก็ยิ่งสะท้อนว่า ความชัดเจนสุดท้ายยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลก็ต้องเร่งทำความชัดเจน ไม่เช่นนั้นในระบบเศรษฐกิจก็ขาดความเชื่อมั่น จะกลายเป็นว่า ยิ่งแถลงยิ่งซ้ำเติมความไม่เชื่อมั่นซึ่ งนี่เป็นเรื่องที่จำเป็นที่รัฐบาลต้องดำเนินการ ส่วนที่ตนเตือนว่าอย่าให้ซ้ำรอยกับจำนำข้าวนั้นเพราะจำนำข้าวก็เริ่มต้นแบบนี้ท่ามกลางเสียงทักท้วง รวมถึงทั้ง ป.ป.ชและประชาชนก็ติดตามเหมือนกัน
ทั้งนี้ ตนเองจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการสามัญพัฒนาเศรษฐกิจ ที่ตนเองเป็นประธานอยู่ เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าตามนโยบายรัฐบาลและขณะเดียวกันก็จะต้องไม่ให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้นต่อไป
ส่วนกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ร้องเรียนไปที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในเรื่องนี้ด้วยนั้น ตนไม่ขอวิจารณ์เพราะมีความเห็น 2 ฝ่าย พร้อมย้ำว่าเมื่อรัฐบาลติดกระดุมเม็ดแรกแล้วก็ต้องติดกระดุมเม็ดต่อไป ถ้าผิดก็ต้องรับผิดชอบ เพราะตอนแถลงนโยบายหลายฝ่ายก็ท้วงติงฉะนั้นเรื่องนี้ก็ต้องติดตามต่อไปอย่าให้มีการทุจริต อย่าให้เสียหายเหมือนจำนำข้าว ซึ่งเป็นบทเรียนมาแล้วอย่าให้ซ้ำรอย
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/bxGI4t2xN8w