เศรษฐกิจ

หุ้นไทยตกเกือบ 20 จุด เหตุกังวล 'ท่าที่ ส.ว. - รอฟอร์มทีมเศรษฐกิจ - นโยบายก้าวไกล - หน้าใหม่ในการเมือง'

โดย nattachat_c

16 พ.ค. 2566

48 views

วานนี้ (15 พ.ค. 66) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ลดลง 19.97 จุด (-1.28%) โดยมีผลมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน


ความไม่มั่นใจในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

เพรากังวลกับท่าที่ของ 250 สว.


นักลงทุนรอการฟอร์มทีมรัฐบาล

โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ อยากจะรู้ว่าใครเข้ามาดูแลกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)

--------------

ตลาดหุ้นที่ลดลงชัดเจนแบบทั้งกระดาน คือหุ้นเกี่ยวกับโรงไฟฟ้า เนื่อจากว่ากังวลผลการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลที่ได้คะแนนสูงสุด มีนโยบายเรื่องทุนผูกขาด ที่อาจจะกระทบกับธุรกิจโรงไฟฟ้าในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงการลดค่าไฟทันที 70 สตางค์


  • GULF ลดลง 4.50 บาท
  • ADVANC ลดลง 10.00 บาท 
  • SIRI ลดลง 00.14 บาท

-----------

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและนักกลยุทธ์ฝ่ายวิเคราะห์หลัทรัพย์ บล.ยูโอบี (ประเทศไทย) ได้วิเคราะห์ว่า 


การเลือกตั้งมักเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทย แต่ระยะสั้นตลาดอาจเกิดความกังวลหลายอย่าง ทั้งเรื่องการชนะของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นสิ่งที่เกินความคาดหมาย และสร้างความไม่แน่นอนเรื่องแนวโน้มฟอร์มทีมเศรษฐกิจ


แม้ว่าภาพรวมตลาด คาดหวังให้ 2 พรรคการเมืองใหญ่ ทั้งก้าวไกลและเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง แต่ในฐานะทีมเศรษฐกิจ ต้องยอมรับว่าทีมก้าวไกลยังเป็นหน้าใหม่ในฐานะผู้นำการเมือง ซึ่งอาจสร้างความกังวล


การอภิปรายในเรื่องธุรกิจไฟฟ้า-สื่อสาร ที่จะหยุดเอื้อทุนใหญ่-สัมปทาน 


ความไม่แน่นอนของนโยบายของพรรคเพื่อไทย เช่น นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะไม่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความกังวล

-----------

รอยเตอร์ส รายงานความเห็นนักวิเคราะห์ต่างชาติจากหลายแหล่ง หลังผลการเลือกตั้งไทย ที่ฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้ง และจะเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล แต่ทว่า...ยังมีความซับซ้อนอย่างมากในการจับขั้วตั้งรัฐบาล


วิชัย วิกรม คันนัน จาก ธนาคาร โซซิเอต เจเนราล

"หากสามารถจับขั้วการเมืองตั้งรัฐบาลได้เร็วมากเท่าไหร่ ก็จะส่งผลดีต่อบรรยาการของตลาดมากขึ้นเท่านั้น สำหรับเงินบาทนั้น คาดว่าเงินบาทจะยังคงเปราะบางต่อไป จนกระทั่งความเสี่ยงต่างๆ ในการจัดตั้งรัฐบาล จะได้รับการแก้ไขในที่สุด"


เกรซ ลิม จาก มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส

"คาดว่ารัฐบาลชุดใหม่ จะเป็นรัฐบาลผสมขนาดใหญ่ และมีความหลากหลายทางนโยบายอย่างยิ่ง  ซึ่งจะต้องรอดูอีกทีว่า จะมีนโยบายใดที่จะเห็นพ้องกันจากทุกฝ่าย และดำเนินนโยบายนั้นได้จริงๆ


เราคาดว่า นโยบายทางเศรษฐกิจที่สำคัญๆ จะได้รับการสานต่อ เช่นกการพัฒนาโครงการ ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) เพื่อยกระดับการลงทุน"


เจย์ แฮร์ริมาน จาก กลุ่ม เบาเออร์ กรุ๊ป เอเชีย

"ผลการเลือกตั้งที่ออกมา เห็นได้ชัดว่าคนไทยได้ปฏิเสธระบบการเมืองแบบเก่า ที่นำโดยรัฐบาลประยุทธ์ แม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยเอง ก็ยังสูญเสียเก้าอี้เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงการพ่ายแพ้ที่เชียงใหม่ บ้านเกิดของนายทักษิณ ชินวัตร เอง


ภาคธุรกิจกำลังตั้งหน้าตั้งตารอคอย การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองที่ราบรื่น ด้วยนโยบายการปฏิรูปที่จะพัฒนาระบบการทำธุรกิจให้ผ่อนคลายขึ้น รวมไปถึงการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ และการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น”


ซูซานนา แพตตัน จาก สถาบัน โลวี อิสสติติวท์ (Lowi Institute)

"ผลการเลือกตั้งที่ออกมา แสดงให้เห็นว่าชาวไทยต้องการความเปลี่ยนแปลง หลังจากที่ปกครองโดยทหารมานานเกือบทศวรรษ แต่กระนั้น...ผลการเลือกตั้งที่ออกมา ซึ่งพรรคก้าวไกลทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมนั้น จะทำให้การจับขั้วรัฐบาลยากขึ้นไปอีกระดับ เนื่องจากอาเจนด้าของพรรคนี้คือ การแก้ไขกฎหมาย 112 ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้เลย สำหรับกลุ่มอนุรักษ์นิยมในวุฒิสภา


อาเจนด้าของพรรคก้าวไกล นั้นจะทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้น ถ้าหากรัฐบาลชุดนี้จะดำเนินนโยบายตามที่หาเสียงเอาไว้อย่างแข็งขัน”


ทามาราส จากมหาวิทยาลัย คอร์แนล มหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐ

"ขณะนี้ถือเป็นช่วงเวลาอันดี ที่พรรคการเมืองต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ รวมถึงพล.อ.ประยุทธ์ จะยอมรับในความต้องการของประชาชน ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงแล้ว"  

-----------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/cQBcxPvHvrM





คุณอาจสนใจ