‘สุวรรณภูมิ’ แจงข้อมูลคลาดเคลื่อน หลัง ‘การบินไทย’ ประกาศให้นทท.เผื่อเวลา 4 ชม. เหตุสนามบินปิดจุดตรวจขาออก

วานนี้ (วันที่ 13 มี.ค.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก รายหนึ่งโพสต์ภาพผู้โดยสาร ขาออกนอกประเทศ สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่รอตรวจสัมภาระ โดยระบุข้อความว่า “3hr before departure time is really required at Bkk airport now. All procedures (Check-in, baggage inspection, immigration) have long queue.

ตั้งแต่เช็คอิน ตรวจสัมภาระ ไปจนผ่าน ตม.อย่างน้อยๆ ก็ชั่วโมงครึ่ง คนไทยผ่าน ตม. ด้วยเครื่องอัตโนมัติอาจจะเร็วกว่าหน่อย คนต่างชาติจะตกเครื่องกันมั้ย ทุกคนดูกระวนกระวาย

ควรจะดีใจหรือเสียใจกับประเทศไทยดี แอบคิดว่าถ้าไม่เสียเวลาเยอะขนาดนี้ คนต่างชาติคงได้ใช้เงินกันที่สนามบินซื้อของฝาก ของกินกันได้อีก

ปล. เหมือนว่าอ่านข่าวเจอ ต้นตอคือการปรับปรุงบริเวณส่วนตรวจสัมภาระ ทำให้ช่วงตรวจลดลง (ในช่วงที่ ผดส. เพิ่มขึ้น) ถ้า นทท. จีนมาเยอะกว่านี้คงสนามบินแตก”

ทั้งนี้ผู้โพสต์ให้ข้อมูล เพิ่มเติมว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลา 17.00 น. โดยพบว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติตกเครื่องเยอะมาก โดยเฉพาะไฟล์ทกลางคืน ระบบการจัดการช้า และมีผู้โดยสารบางคนพยายามแทรกแถว ลัดคิวเนื่องจากใกล้เวลาขึ้นเครื่อง

ขณะที่ ต่อมา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ออกเอกสารชี้แจง กรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Thai Airway ของสายการบินไทย แจ้งผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างประเทศ เผื่อเวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง เนื่องจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปิดจุดตรวจค้นขาออกระหว่างประเทศ โซน 3 เพื่อติดตั้งระบบส่งคืนถาดใส่สัมภาระอัตโนมัติ ระหว่างวันที่ 1-29 มี.ค. จึงขอชี้แจงว่า ข้อมูลที่การบินไทยแจ้งดังกล่าวเป็นข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อน


ปัจจุบัน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ติดตั้งระบบที่เครื่องเอกซเรย์ บริเวณจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โซน 3 (ด้านทิศตะวันตก) เสร็จแล้ว 2 เครื่อง ผู้โดยสารสามารถใช้บริการจุดตรวจค้นขาออกระหว่างประเทศครบทุกโซนตามปกติ จึงไม่มีความจำเป็นต้องเผื่อเวลานานถึง 4 ชั่วโมงตามที่การบินไทยแจ้ง

ทั้งนี้ จะทยอยดำเนินการโดยปิดเครื่องเอกซเรย์เฉพาะจุดที่ดำเนินการติดตั้งระบบ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาติดตั้งช่วงสั้นๆ จุดละไม่เกิน 10 วัน ทั้งนี้ขอความร่วมมือผู้โดยสารที่จะเดินทางเที่ยวบินขาออกระหว่างประเทศ ควรเผื่อเวลาก่อนการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง


สำหรับระบบส่งคืนถาดใส่สัมภาระอัตโนมัติ หรือ ARTS อยู่บริเวณจุดตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระ จะทำให้การตรวจสัมภาระของผู้โดยสารรวดเร็วขึ้น เจ้าหน้าที่ไม่ต้องรวบรวมถาดใส่สัมภาระของผู้โดยสารที่ใช้แล้วกลับมาใส่คิวใหม่อีกครั้ง รองรับการให้บริการได้ 6,650 คนต่อชั่วโมง จากเดิมก่อนติดตั้ง 3,300 คนต่อชั่วโมง มีการติดตั้งระบบฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสบนถาดรองสัมภาระ ซึ่งมีประสิทธิภาพถึง 99.9%

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/wJaSjJtgCZU