เศรษฐกิจ

เซ็นทรัลจัดใหญ่! ทุ่ม 500 ล้าน จัดเคานต์ดาวน์ปีใหม่ ดึง 'เรน' ซูเปอร์สตาร์เคป็อป ขึ้นเวที

โดย petchpawee_k

20 ธ.ค. 2565

128 views

เมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.) นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน)หรือCPN เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่ม 500 ล้านบาท จัดเคานต์ดาวน์ ภายใต้ชื่อ “เซ็นทรัลเวิลด์ แบงค็อก เคานต์ดาวน์ 2023” ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์์ พร้อมกับ 7 สาขาทั่วประเทศ ได้แก่ เซ็นทรัลภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ มารีน่า หาดใหญ่ อยุธยา และโคราช โดยร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชน ในการจัดงานผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้จ่าย และการท่องเที่ยวที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก


ทั้งนี้ในปีนี้เตรียม 7 ไฮไลต์ ประกอบด้วย


1.The World artist of the century เซอร์ไพรส์ศิลปินระดับโลก THE RETURN OF K-POP KING “RAIN”

2.มันส์อันลิมิเต็ดกับ 10 ศิลปินติดท็อปชาร์ต ได้แก่ โบกี้ ไลอ้อน, วิโอเลต วอเทียร์, โอ๊ต ปราโมทย์, โจอี้ บอย, 4 EVE, พีพี กฤษฎ์, บิวกิ้น, ทรีแมนดาวน์ และนนท์ ธนนท์

3.กราฟฟิคสเตจใหญ่สุดหน้าเซ็นทรัลเวิลด์

4.โชว์เลเซอร์

5.จุดพลุอลังการ 15 นาที ใจกลางแลนด์มาร์ก ไทม์สแคร์ออฟเอเชีย

6.ผนึกกำลังของย่านการค้าและการท่องเที่ยวย่านราชประสงค์ ถ่ายทอดวินาทีเคานต์ดาวน์ทั่วกรุงเทพ ช่วง 15 นาทีสุดท้ายของปี 23:50-00:15 ตั้งแต่แยกสาธร แยกนานา ชิดลม อโศก

7.พบกับเทศกาลดนตรี 10 ศิลปินดัง 10 วัน 10 คืน ตั้งแต่วันที่ 21-30 ธันวาคมนี้และมีมาตรการคุมเข้มด้านความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาร่วมงาน จำกัดจำนวนคน ลดแออัด จัดทางออกมากกว่า 10 ช่องทาง เตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่พยาบาล และรถพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบบกล้องซีซีทีวี ครอบคลุมทั่วพื้นที่ศูนย์การค้าและตรวจบุคคล และยานพาหนะทุกทางเข้า-ออกของศูนย์เป็นต้น


“เคานต์ดาวน์ปีนี้จะเป็นการกลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่ หลัง 2 ปีที่ผ่านมาเราจัดทางออนไลน์ แต่ปีนี้โควิดคลี่คลาย จะส่งมอบความสุขให้กับคนไทย และเป็นการฉลอง 40 ปีของเซ็นทรัลด้วย โดยอยากให้เซ็นทรัลเวิลด์เป็นแลนด์มาร์กของการเคานต์ดาวน์ ที่จะนำไปปักหมุดในCNN และเป็นไทม์สแควร์ ออฟ เอเชีย”


นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า ประเมินจุดเคานต์ดาวน์หหน้าเซ็นทรัลเวิลด์และแยกราชประสงค์ จะมีคนเข้าร่วมงานกว่า 5 แสนคน โดยเป็นคนไทย 80% และต่างชาติ 20%หรือ 1 แสนคนและเกิดเงินสะพัดกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับการจัดเคานต์ดาวน์พื้นที่อื่นๆ ททท.อยู่ระหว่างรวบรวมทั่วประเทศ ซึ่งสังเกตุได้ว่าปีนี้มีการตื่นตัวเพื่อจะจัดเคานต์ดาวน์ให้กลับมาคึกคักอีกครั้งในรอบ 3 ปี


นายอภิชัยกล่าวว่า ทั้งนี้เชื่อว่าเคานต์ดาวน์จะเป็นบรรยากาศที่จุดประกายสะท้อนถึงการฟื้นตัวของบรรยากาศใช้จ่ายและอออกมาทำกิจกรรมอีกครั้งหลังเกิดการแพร่ระบาดกว่า 2 ปี ทั้งนี้ททท.ได้คาดการณ์ปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยไม่น้อยกว่า 20 ล้านคน และคนไทยจะเพิ่มการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งจะเกิดรายได้สะพัดในภาคท่องเที่ยวรวมกว่า 2.38 ล้านล้านบาท ขณะนี้ได้เห็นจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยมาอย่างต่อเนื่อง และหลากหลายประเทศ เช่น รัสเซีย ยุโรป ตะวันออกกลาง


 “หากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการช้อปดีมีคืนและเราเที่ยวด้วยกัน แต่เริ่มในเดือนมกราคม2566 ส่วนตัวมองว่าจะไม่กระทบต่อการใช้จ่ายในช่วงฉลองปีใหม่ เนื่องจากคนอั้นใช้จ่ายและออกมาร่วมกิจกรรมนอกบ้านมากว่า 2 ปี เมื่อมีการเปิดประเทศ เชื่อว่าคนยังอยากออมาผ่อนคลายและใช้จ่าย ส่วนมาตรการรัฐจะใช้ในช่วงโลว์ซีซั่่น จะช่วยพยุงการใช้จ่าย และกระตุ้นการเดินทาง ในช่วงนั้นได้มาก”นายอภิชัยกล่าว


นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่ายราชประสงค์ กล่าวว่า การจัดเคานด์ดาวน์ปีนี้เป็นการกลับมาในรอบ 3 ปีนับจากโควิดระบาด ล่าสุดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจองห้องพักย่านราชประสงค์เพื่อมาท่องเที่ยวและเข้าร่วมบรรยากาศเคานต์ดาวน์ในไทย มีอัตราการจองแล้วประมาณ 70-80% ใกล้เคียงกับช่วงก่อนปี 2562 มีการจองห้องพักเต็ม 100%


เนื่องจากต่างชาติเห็นถึงศักยภาพการจัดงานและเทียบค่าใช้จ่ายกับประเทศในเอเชียถือว่าไทยยังอยู่ในอัตราที่ดีกว่า เช่น ฮ่องกงและสิงคโปร์ที่ขณะนี้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าไทย และเชื่อว่าบรรยากาศฉลองปีใหม่ในปีนี้จะมีความคึกคัก ซึ่งในส่วนของความปลอดภัย ผู้ประกอบการมีการเตรียมการและได้รับความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรุงเทพมหานคร(กทม.) มีการติดตั้งกล้องซีซีทีวี 120 ตัวในจุดต่างๆ ดูแล 24 ชั่วโมง และมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐกว่า 2,200 นายมาดูแลความปลอดภัยในช่วงของการจัดงาน

“อยากให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ทั้งช้อปดีมีคืน เราเที่ยวด้วยกัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องถึงปีหน้า ให้กลับคักคัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากจีนเปิดประเทศ จะยิ่งเพิ่มบรรยากาศของตลาดค้าปลีกไทยในย่านราชประสงค์ให้มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น” นายชายกล่าว


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/1sTVn4jJJ1s

คุณอาจสนใจ

Related News