เศรษฐกิจ

ลุ้นรัฐบาลให้ของขวัญปีใหม่ ลดค่าครองชีพ - ฟื้นช้อปดีมีคืน - ลูกหนี้มีวินัย ได้รับเงินคืน

โดย thichaphat_d

29 พ.ย. 2565

325 views

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการแพ็คเกจของขวัญปีใหม่ โดยจะเสนอ 2 ส่วนให้ครม.พิจารณา คือมาตรการทางภาษีกับมาตรการหน่วยงานรัฐและมาตรการจากสภาบันการเงินรัฐ

โดยมาตรการสำคัญที่เป็นตัวชูโรงของปีนี้ จะเป็นมาตรการช้อปดีมีคืน ที่จะเปิดให้นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการ มาลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงวงเงินสูงสุด 4 หมื่นบาท แบ่งเป็นวงเงินซื้อสินค้าและบริการไม่เกิน 3 หมื่นบาท และเพิ่มเติมสำหรับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์อีก 1 หมื่นบาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -15 กุมภาพันธ์ 2566 รวมระยะเวลา 46 วัน

สำหรับรายจ่ายที่ใช้สิทธิได้จะเป็นค่าซื้อสินค้าและบริการเหมือนที่ผ่านมา ยกเว้นค่าซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ รถยนต์ จักรยานยนต์ เรือ ค่าที่พักโรงแรม ค่าไกด์นำเที่ยว ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ต และค่าเบี้ยประกัน

โดยคาดว่าจะทำให้กรมสรรพากรสูญเสียรายได้กว่า 8.2 พันล้านบาท แต่จะส่งผลดีให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 5.6 หมื่นล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจ (จีดีพี)ได้กว่า 0.1-0.2% ต่อปี

ส่วนมาตรการอื่นที่คลังเสนอ อาทิ การขยายเวลาลดภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่นที่ใช้ในประเทศเหลือลิตรละ 0.20 บาท จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และลดค่าครองชีพให้ประชาชนที่เดินทางไม่ให้เสียค่าโดยสารที่สูงจนเกินไป

ขณะเดียวกันต้องจับตามาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ผู้มีรายได้น้อย บัตรคนจน รวมถึงกลุ่มเปราะบาง ขณะที่มาตรการของสถาบันการเงินรัฐ เช่น การให้รางวัลพิเศษสำหรับสลากออมสิน รวมถึงมอบของขวัญปีใหม่สำหรับลูกค้าสินเชื่อที่มีวินัย ผ่อนชำระดีจะได้รับเงินคืนเข้าบัญชี 500-1,000 บาท

นอกจากนี้ อยู่ระหว่างพิจารณาขยายเวลามาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัยที่จะสิ้นสุดปลายปีนี้ออกไปอีก 1 ปี โดยลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% ลงเหลือ 0.01% และลดค่าธรรมเนียมการจำนองจาก 1% ลงเหลือ 0.01% ครอบคลุมที่อยู่อาศัยใหม่และมือสอง ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ และห้องชุด


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/7oEvtJHM2Mc

คุณอาจสนใจ

Related News