JSL แจงเงินชดเชย 16% แค่งวดแรก แล้วจะทยอยจ่าย - อดีต พนง.เปิดคลิปเสียงโต้ ยันบริษัทจ่ายแค่ 16%

จากกรณี บริษัท JSL ประกาศปิดตัวบางส่วน แล้วอดีตพนักงานรวมตัว เนื่องจากมีการชดเชยเงินเพียงแค่ 16% จนกลายเป็นข่าวใหญ่

ด้าน JSL ได้ชี้แจงว่า ...

"จากเงินชดเชยทั้งหมด 32 ล้านบาท เราได้แจ้งพนักงานไปแล้วว่าในวันที่บริษัทปิดกิจการลง เราสามารถจ่ายชดเชยให้ได้ในจำนวน 16% ของยอดทั้งหมดซึ่งเป็นยอดกว่า 5 ล้านบาท เราจึงขอให้พนักงานมารับงวดแรก 16% นี้ไปก่อนเพื่อบรรเทาความลำบากของทุกคน

และในสิ้นเดือนก.ค. นี้ ทางบริษัทจะหาเงินมาเพิ่มให้อีก 9% รวมของเดิมจะเป็น 25% ของยอดชดเชยทั้งหมด หลังจากนั้น ทุกๆสิ้นเดือน บริษัทก็จะพยายามหาเงินมาจ่ายชดเชยให้ต่อไปอีกตามกำลังที่มี"

ขณะที่อดีตพนักงาน บริษัท เจเอสแอล บางส่วนมองว่าประกาศของบริษัทฉบับที่ 2 ที่ออกมานั้นไม่มีความจริงใจ เนื่องจากประกาศฉบับแรกไม่มีข้อความใดว่าจะแบ่งจ่ายเงินชดเชยเป็นงวด ๆ และในเอกสารที่ให้พนักงานเซ็นยินยอมก็มีเพียงการจ่ายชดเชย 16 % เท่านั้น จะไม่เรียกร้องอะไรอีก

ส่วนที่บริษัทออกแถลงการณ์มานั้น ไม่ตรงตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งกับพนักงานก่อนหน้านี้ ช็อกไม่คิดว่าบริษัทจะปิดกระทันหัน “การลอยแพพนักงานแบบนี้เราไม่เชื่อมาก่อนว่ามันาจะเกิดขึ้นจริง ๆ ลอยแพปิดบริษัทกระทันหันถือว่าโหดแล้ว การชดเชยด้วยเงิน 16 % โดยไม่มีทางให้ต่อรองหรือเรียกร้องอะไรเลยใจร้ายมาก ทุกคนน้ำตาไหลแต่ต้องจูงมือไปด้วยกัน มันต้องเรียกร้องสิทธิที่เราควรจะได้”

โดยอดีตพนักงานยังได้นำคลิปเสียงของ CEO มาเปิดต่อหน้าสื่อและ รมว.กระทรวงแรงงาน ยืนยันว่าบริษัทจะจ่ายเงินชดเชยเพียง 16% ไม่มีการพูดถึงการชดเชยส่วนที่เหลือแต่อย่างใด แต่หลังเกิดเรื่องจึงมีหนังสือประกาศฉบับที่ 2 ออกมา ส่วนที่บอกว่าจะขอแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ นั้นก็ไม่รู้ว่าจะจ่ายเมื่อไหร่ และจ่ายครบ 100% หรือไม่ ไม่มีอะไรยืนยันได้ชัดเจน

อดีตพนักงานยังระบุด้วยว่า “เพราะเมื่ออยู่บ้านเดียวกันกินข้าวร่วมกันยังเทกันได้ แต่เมื่อปิดบ้านปิดบริษัท จะไปกดกริ่งเรียกใครได้ ซึ่งก่อนที่บริษัทจะปิดตัวลงหนึ่งสัปดาห์ก็ไม่เคยพบไม่เคยเห็นหน้าเจ้านาย แล้ววันนี้บริษัทปิดลงจนถึงวันนี้จะตามตัวเจ้านายได้ที่ไหน”

การมาเรียกร้องวันนี้ ไม่ได้ต้องการทำร้ายเจ้านาย แต่ต้องการรักษาสิทธิ เพราะไม่ได้เรียกร้องอะไรเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และอยากทำให้เห็นว่ากฎหมายฉบับนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ สามารถบังคับใช้ได้จริง จึงมายื่นหนังสือให้รัฐมนตรีแรงงานเพื่อบังคับใช้กฎหมายแรงงานให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ และสัมฤทธิ์ผล  

ตัวแทนอดีตพนักงาน เผยทั้งทั้งน้ำตาว่า “จะมาเล่นแง่กับกฎหมายคุ้มครองแรงงานไม่ได้ คุณเลือกที่จะทำแบบนี้กับเรา ทุกคนร้องไห้นอนไม่เคยหลับ พวกเราต้องก้าวต่อ ทำงาน 40 กว่าปีที่ผ่านมาตนไม่เคยได้ยินคำว่ากำไร ได้ยินแต่ว่าขาดทุน มันแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราแล้ว ถ้าคำว่าขาดทุนมันคือมะเร็งเราคงตายไปเพราะโรคนี้นานแล้ว แต่เราก็ยังยืนหยัดมาได้ มันเจ็บ” ขณะที่อดีตพนักงานคนอื่นๆ ยืนสวมกอดกันร้องไห้

ซึ่งวานนี้ (5 ก.ค. 65) ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ พาอดีตพนักงานบริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย 60 คน แต่งชุดดำ เข้าพบนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หลังบริษัทประกาศปิดตัวกระทันหันและจ่ายค่าชดเชยเพียง 16 เปอร์เซ็นต์ ของเงินชดเชยทั้งหมด ยื่นหนังสือร้องขอความช่วยเหลือให้กระทรวงแรงงานติดตามสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะได้รับตามกฎหมายแรงงาน จากกรณีถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม  

นายสุชาติ กล่าวว่า หลังทราบเรื่องได้รายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้ทราบทันที ซึ่งนายกฯ ได้กำชับให้กระทรวงแรงงาน ดูแลให้ความช่วยเหลือลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์ความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน

โดยสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 ได้มีหนังสือเชิญให้นายจ้างไปพบ โดยปิดประกาศไว้ที่บริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ 15 วันตามกฎหมาย หากนายจ้างไม่มาพบพนักงานตรวจแรงงานจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกคำสั่งให้นายจ้างจ่าย ค่าชดเชย ค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี

ทั้งนี้ให้ปฏิบัติภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับคำสั่ง เมื่อพนักงานตรวจแรงงานออกคำสั่งแล้วจะนำไปส่งให้นายจ้าง หากไม่มาพบจะใช้วิธีการปิดคำสั่ง หากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง พนักงานตรวจแรงงานจะดำเนินคดีทางพนักงานสอบสวน

ส่วนเรื่องการประกันสังคมก็ให้เริ่มจ่ายเงินตามกองทุนว่างงานได้เลย ส่วนเรื่องการจัดหางานก็ขอให้แจ้งความประสงค์ได้เลย พร้อมที่จะเปิดคอร์สพิเศษให้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และหลังจากนี้จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ยืนยันไม่ทอดทิ้ง จะขอยืนอยู่เคียงข้างเพราะทุกคนคือคนที่ถูกกระทำ

ส่วนที่อดีตพนักงานกังวลเรื่องที่เจ้าของบริษัทฯ เป็นผู้มีอิทธิพล อาจจะใช้อำนาจให้หยุดการถูกดำเนินคดีนั้น นายสุชาติ ยืนยัน ไม่มีใครสั่งให้หยุดดำเนินการตามกฎหมายกับบริษัทดังกล่าวได้ เป็นรัฐมนตรีแรงงานต้องยืนเคียงข้างแรงงาน ถ้าหากหยุดดำเนินการไม่อยู่เคียงข้างแรงงาน ก็ไม่ใช่รัฐมนตรีที่ชื่อสุชาติ ชมกลิ่น แล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/pccoiJw1aNU