เศรษฐกิจ

ขนุนราคาร่วง หน้าสวนเหลือโลละ 2 บาท - ชาวสวนมังคุดยิ้มออก ล้งเปิดรับซื้อส่งขายจีน

โดย thichaphat_d

13 พ.ค. 2565

83 views

วานนี้ (12 พ.ค. 65) นายชูชาติ ยางนอก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสระว่านพระยา อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์ผลผลิตขนุน ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดนครราชสีมาในขณะนี้ กำลังอยู่ในภาวะราคาตกต่ำอย่างมาก เนื่องจากมีปัจจัยปัญหาเรื่องการส่งออก อันเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด เศรษฐกิจตกต่ำ รวมถึงเริ่มมีผลไม้ชนิดอื่นออกสู่ตลาดจำนวนมาก ทั้งเงาะ มังคุด และทุเรียน


ทำให้ราคาขนุนแก่ มีการรับซื้อที่หน้าสวนสูงสุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 2 บาท เท่านั้น จากที่เคยมีราคาสูงสุดถึงกิโลกรัมละมากกว่า 40 บาท


ซึ่งล่าสุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังหาทางช่วยกันแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพื่อกระตุ้นราคาขนุนให้ดีขึ้น ลดความเดือดร้อนของเกษตรกรที่กำลังประสบอยู่ในตอนนี้


โดยเบื้องต้น ได้มีการแก้ไขปัญหาด้วยผลักดันให้ชาวสวนนำผลผลิตไปจำหน่าย ที่ตลาดนัดเกษตรกร ที่บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดฯ เพื่อระบายสินค้า ซึ่งได้กระแสตอบรับดี สามารถระบายสินค้าได้แล้วกว่า 10 ตัน และส่งเสริมให้มีการแปรรูปขนุนให้มีความหลากหลาย โดยทำเป็นแยมขนุน หรือขนุนทอด เป็นต้น เพื่อให้มีช่องทางการจำหน่ายมากขึ้น


นอกจากนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลสระว่าพระยา ยังเตรียมจะจัดงาน เทศกาลขนุนโลกหนุนนำ หมากมั่งมี ครั้งที่ 1 ในวันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม 2665 ที่กำลังจะถึง เพื่อกระตุ้นราคาขนุน ยกระดับสินค้าและเปิดแหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น


ซึ่งภายในงาน จะจัดให้มีกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การประกวดเทพีขนุน ธิดาหมากมั่งมี การเสวนาบรรยายให้ความรู้ด้านการเกษตร การประกวดขนุนคุณภาพหลากชนิด พร้อมชิมขนุนฟรี อีกทั้ง ยังมีการจัดบูธแสดงสินค้าด้านการเกษตรที่สำคัญอีกด้วย


ทั้งนี้ในพื้นที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ปัจจุบันมีพื้นที่การปลูกขนุนเป็นพืชเศรษฐกิจรวมประมาณ 2,000 ไร่ มีขนุนออกสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมกว่า 1,000 ตันต่อปี สามารถสร้างเม็ดเงินได้หลายสิบล้านบาทต่อปี โดยเฉพาะในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก

------------

วานนี้ (12 พ.ค. 65) นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีข่าวราคามังคุดปรับตัวลดลง กรมฯ ได้มีการติดตามสถานการณ์การผลิตการตลาดผลไม้มาอย่างต่อเนื่องทั้งในแหล่งผลิต ตลาดค้าส่ง-ค้าปลีก ปัจจุบันเป็นช่วงฤดูการผลิตผลไม้เศรษฐกิจสำคัญของประเทศออกสู่ตลาด เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ เป็นต้น


โดยผลไม้ของภาคตะวันออก ได้เริ่มทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 เป็นต้นมา แต่ปริมาณยังไม่มากนัก และจะออกกระจุกตัวมากในช่วงเดือนพฤษภาคม ประมาณร้อยละ 50 ของผลผลิต


สำหรับผลผลิตมังคุดทั้งประเทศ คาดว่ามีปริมาณรวม 373,378 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 38 เนื่องจากปีที่ผ่านมา ผลผลิตได้รับความเสียหายจากสภาพอากาศแปรปรวนและคุณภาพไม่ดี ทำให้มังคุดได้พักต้น ต้นมังคุดมีความสมบูรณ์จึงให้ผลผลิตในปีนี้มากขึ้น แต่จากการติดตามสถานการณ์การผลิตมังคุดในภาคใต้ที่ประสบปัญหาสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย คาดว่าผลผลิตในภาพรวมปีนี้มีแนวโน้มจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้


อย่างไรก็ตาม จากปริมาณมังคุดที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวออกสู่ตลาดได้มีมากขึ้น ประกอบกับการใช้มาตรการ ZERO COVID ของจีน ทำให้จีนมีการปิดด่านโม่ฮานชั่วคราว ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 เพื่อทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อฯ ส่งผลให้มีสินค้าส่งออกตกค้างที่หน้าด่านเป็นจำนวนมาก


ขณะที่ผู้ส่งออกไทย/ล้ง หยุดรับซื้อชั่วคราวเพื่อทำความสะอาดพื้นที่และคัดกรองสุขภาพของแรงงานที่จะปฏิบัติงานในโรงคัดบรรจุ 1-2 วัน ซึ่งตรงกับช่วงที่ราคามังคุดอ่อนตัวลงตามข่าว


ทั้งนี้ ปัจจุบัน (11 พ.ค.65) ผู้ส่งออก/ล้ง ได้เปิดรับซื้อตามปกติแล้ว มีผลทำให้ราคามังคุดผิวมันรวม (เกรดส่งออก) ที่เกษตรกรขายได้ ปรับตัวสูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน (2-8 พ.ค.65) ที่มีราคาเฉลี่ย กก.ละ 50 - 55 บาท เป็นเฉลี่ย กก.ละ 60 – 70 บาท สำหรับราคาประมูล เฉลี่ย กก.ละ 80-85 บาท ส่วนราคามังคุดคละ (กาก) ปรับตัวสูงจาก กก. 30 – 35 บาท เป็น กก.ละ 40-45 บาท


สำหรับกรณีการเทียบเคียงราคามังคุดตามข่าว ที่เทียบเคียงราคาขายในตลาดปลายทางประเทศจีนกับราคาที่เกษตรกรขายได้ในช่วงเดียวกันนั้น ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงในกระบวนการรับซื้อผลไม้เพื่อการส่งออกไปยังตลาดปลายทาง เนื่องจากการส่งออกต้องใช้ระยะเวลาในการขนส่งจากไทยไปจีนหลายวัน เช่น การขนส่งทางบก ใช้เวลา 7 - 10 วัน หากจะเทียบเคียงความเหมาะสมของราคาส่งออกกับราคาเกษตรกรขายได้ ต้องพิจารณาจากราคาปัจจุบันในจีน เทียบกับราคาที่เกษตรกรขายได้หน้าสวนนับย้อนหลังอย่างน้อยประมาณ 12 - 14 วัน (วันที่รับซื้อรวมเวลาคัดแยก/บรรจุ และระยะเวลาขนส่ง)


เมื่อพิจารณาตามหลักเกณฑ์นี้แล้วจะพบว่า ราคามังคุดตามข่าวในประเทศจีนที่มีราคาสูงมากถึงกก.ละ 167 - 240 บาท จะสอดคล้องกับราคามังคุดที่เกษตรกรขายได้ (ย้อยหลัง 12 – 14 วัน) ที่ราคา กก.ละ 140 – 160 บาท


ในการนี้ กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในและภาคีเครือข่ายได้เตรียมาตรการบริหารจัดการผลไม้ฤดูการผลิตปี 2565 ซึ่งรวมถึงมังคุด ไว้รองรับเป็นการล่วงหน้ากว่า 18 มาตรการ และได้นำมาตรการลงสู่การปฏิบัติแล้ว มีผลการดำเนินการในส่วนของสินค้ามังคุดที่สำคัญ ดังนี้

1. จับคู่เจรจาซื้อขายล่วงหน้า (อมก๋อยโมเดล) รวม 4,700 ตัน

2. สนับสนุนค่าบริหารจัดการในการเชื่อมโยงกระจายออกนอกแหล่งผลิต กก.ละ 3 บาท ปริมาณ 7,800 ตัน

3. เปิดพื้นที่ขายโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ณ ห้างท้องถิ่น ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก ปั้มน้ำมัน รวม 1,000 ตัน

4. จัดสรรกล่องไปรษณีย์ ขนาด 10 กก. ไปยังไปรษณีย์สาขาทั่วประเทศ รวม 300,000 กล่อง

5. กรณีผลผลิตกระจุกตัว ได้จัดเตรียมรถเร่ Mobile เข้าไปเร่งรับซื้อผลผลิตเพื่อจำหน่ายให้กับผู้บริโภคนอกพื้นที่โดยตรง

6. เสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการเพื่อเร่งรับซื้อผลิตได้มากขึ้น โดยสนับสนุนค่าบริหารจัดการ กก.ละ 4 บาท

7. ชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อรวบรวมรับซื้อผลไม้ ในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน


ทั้งนี้ กรมฯ จะได้ติดตามสถานการณ์ราคาผลไม้ทุกชนิดอย่างใกล้ชิด และเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการ โรงคัดบรรจุปิดป้ายแสดงราคารับซื้อให้ชัดเจน ป้องปรามมิให้เกิดพฤติกรรมการโกงตาชั่งน้ำหนักในขั้นตอนการรับซื้อ และพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบทางการค้า โดยเฉพาะการฮั้วราคา หากตรวจพบการกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่สายด่าน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/QXrjEKZCk2c

คุณอาจสนใจ

Related News