น้ำมันก็แพง แก๊สก็แพง! ร้านปาท่องโก๋แบกไม่ไหว ต้องขายตัวละ 3 บาท - ผักชีเชียงรายโหด ราคาพุ่ง 160 บาทต่อกก.

วานนี้ (วันที่ 10 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจร้านทอดปาท่องโก๋ในตลาดสดศรีราชา ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พบว่าร้านค้าหลายราย ต่างพากันบ่นถึงราคาน้ำมันพืชที่ปรับตัวแพงขึ้นต่อเนื่อง  จนทำให้กำไรที่ได้ลดน้อยลงเป็นอย่างมาก ได้รับความเดือดร้อนกันทั่วหน้า ซึ่งแบกรับไม่ไหว เพราะต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น จึงได้ติดป้ายประกาศบอกลูกค้า ปาท่องโก๋ตัวละ 3 บาท จากเดิมตัวละ 2 บาท

จากการสอบถามนายสังคม หารโงน อายุ 56 ปี เจ้าของร้านปาท่องโก๋ ภายในตลาดสดศรีราชา กล่าวว่า ตอนนี้ร้านปาท่องโก๋ของตนได้รับผลกระทบอย่างมาก จากราคาน้ำมันพืชที่ปรับขึ้นราคามาอย่างต่อเนื่อง โดยร้านของตนเองนั้นใช้น้ำมันพืชในการทอดปาท่องโก๋เฉลี่ยวันละ 12-18 ลิตร ถ้าตอนนี้ราคาปี๊บละ 1 พันบาท และก๊าซก็มีการปรับราคาขึ้น

ดังนั้น จึงอยากวอนให้รัฐบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือทำให้ราคาน้ำมันพืชลดลงกว่านี้หน่อย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน และคนทำมาหากินแบบตน

ส่วนราคาพืชผัก วานนี้ (วันที่ 10 พ.ค.) ที่ตลาดสดเทศบาลนครเชียงราย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าราคาผักหลายชนิดมีการปรับราคาขึ้นซึ่งเป็นผลกระทบมาจากสภาพอากาศหลังฝนตกลงอย่างหนัก รวมทั้งการปรับราคาขนส่งเพิ่มจากสวนต้นทางในการขนส่งผัก โดยพบว่าราคาผักชีไทยได้มีการปรับราคาขึ้นสูงถึง 160 บาทต่อกิโลกรัม คะน้า มีการปรับราคาขึ้นจากเดิมกิโลกรัม 25 บาท ปรับราคาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 40 บาท ส่วนพริกหยวกจากราคา 40 บาท ต่อกิโลกรัม ปรับขึ้นเป็น 60 บาท ต่อกิโลกรัม

ซึ่งขณะนี้ถือว่าในส่วนของราคาผักนั้น ยังคงมีการปรับราคาขึ้นและลงไม่คงที่ ซึ่งสาเหตุที่ราคาผักบางชนิดมีราคาสูงนั้น เพราะผักที่ส่งมาขายจากต่างจังหวัดนั้นลดปริมาณลง และเกิดน้ำท่วมสวนของเกษตรกรทำให้ผักเสียหาย และราคาจากสวนต้นทางก็มาสูงจากราคาน้ำมันในการขนส่งจึงต้องมีการขึ้นราคาตาม

จากการสอบถาม ถึงการปรับราคาขึ้นนั้นพบว่าเนื่องจากในระยะนี้สวนของเกษตรกรถูกฝนตกลงมาอย่างหนักพืชผลผักทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากโรคซึ่งเป็นผลจากสภาพอากาศที่แปรปวนทำให้ผักที่ปลูกมีสภาพไม่สมบูรณ์และไม่ยอมให้ผลผลิต ทำให้เกษตรกรต้องเพิ่มการดูแลเป็นพิเศษทางสวนจึงมีการปรับราคาขึ้นเมื่อมาถึงปลายทางหากรวมกับค่าขนส่งแล้วจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผักมีราคาแพง

อย่างไรก็ตาม จากที่มีการปรับราคาผักขึ้นนั้นทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่นำผักมาจำหน่ายได้หยุดรับผักที่มีราคาต้นทุนสูงมาจำหน่ายรวมทั้งผักที่ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน เนื่องจากเกรงว่าหากนำมาผักที่มีราคาสูงมาจำหน่ายจะทำให้ขาดทุนเนื่องจากไม่ลูกค้าซื้อ ขณะที่ลูกค้าที่มาซื้อผักไปบริโภคก็ออกมาเลือกซื้อผักน้อยลงจากเดิมเพราะราคาผักที่ปรับสูงขึ้นลูกค้าส่วนใหญ่จึงเลือกซื้อผักที่มีราคาไม่สูงไปรับประทานแทน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Qbcos7Iqy0U