นักลงทุนหวัง ปลดล็อกอิหร่าน ได้ส่งออกน้ำมันแทนรัสเซีย ช่วยลดราคาน้ำมันโลก

ราคาน้ำมันโลก เริ่มปรับลดลง หลังจากนักลงทุนในตลาดการค้าน้ำมันหวังว่า การเจรจากับอิหร่านจะได้ผล และสามารถปลดล็อกให้อิหร่านส่งออกน้ำมัน เพื่อทดแทนน้ำมันที่ขาดไปจากรัสเซีย

ตลาดไนเม็กซ์ นิวยอร์ก ลดลง 2.93 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 107.67 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

ตลาดเบรนท์ ลอนดอน ลดลง 2.47 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 110.46 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

น้ำมันกลั่นสำเร็จรูป สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 116.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

ด้านไทย วานนี้ (4 มี.ค. 65) นายกรัฐมนตรีได้ประชุมหารือทีมเศรษฐกิจ และคณะที่ปรึกษา โดยนายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้บอกว่า นายกฯได้สังจับตาราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันโลก ที่กระทบต่อประชาชน 

ซึ่งก่อนหน้ามีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไปแล้ว แต่ตอนนี้นายกฯสั่งการเพิ่มเติม ให้หามาตรการช่วยเหลือผู้ใช้น้ำมันเบนซิน โดยจะให้ความช่วยเหลือคนที่บัตรคนจน หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประมาณ 13 ล้านคน ให้กระทรวงการคลังสรุปมาตรการ นำมาเสนอที่ประชุมครม. โดยเร็ว ส่วนจะลดราคาเท่าไหร่ และกลุ่มไหนบ้าง ต้องรอดูอีกที 

ด้านการแถลงข่าวหน้าทำเนียบ เมื่อวานนี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้แถลงว่า จากการที่ยังมีคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และพลังงานราคาสูงขึ้น นายกรัฐมนตรีจึงสั่งการคณะที่ปรึกษา ให้ดำเนินการตาม 3 แนวทางหลัก อย่างเร่งด่วน ดังนี้

1) หาแนวทางลดภาระค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ให้พิจารณามาตรการที่เหมาะสม เพื่อแบ่งเบาภาระของประชาชน 

2) นายกรัฐมนตรีต้องการให้มีหน่วยงานขับเคลื่อนเพื่อให้ดูแลประชาชนทุกคน เพื่อบรรเทาภาระหนี้ให้กับประชาชนไม่ให้มีคนต้องถูกยึดบ้าน ยึดรถ

3) การลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและเพิ่มรายได้ให้ประชาชน ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและเสมอภาค นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เร่งรัดการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ กระจายทรัพยากรสู่ท้องถิ่น และเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

ด้านภาคเอกชน นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 15 ในเดือนมีนาคม 2565 ภายใต้หัวข้อ “ปรับขึ้นค่าไฟ-ก๊าซ กระทบเศรษฐกิจแค่ไหน”

พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. มองว่า กรณีภาครัฐจะมีการพิจารณาปรับอัตราค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯ ขึ้นต่อเนื่องนั้น จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และซ้ำเติมปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการ ที่ต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่อยู่ในระดับสูงในขณะนี้

จนทำให้ผู้ประกอบการมีความจำเป็นจะต้องปรับราคาสินค้าขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชน

ผู้ประกอบการจึงขอให้ภาครัฐพิจารณาคงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ในรอบเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2565 เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบดังกล่าว

นอกจากนี้ ผู้บริหาร ส.อ.ท. ยังได้แนะให้ภาคอุตสาหกรรมเร่งปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อประหยัดพลังงาน และหันมาผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใช้เองภายในโรงงานอุตสาหกรรม