เศรษฐกิจ
ราคาน้ำมันโลกพุ่ง หลังโอเปกพลัส เพิ่มเพดานการผลิต - กพช.เคาะกู้เพิ่มกองทุนน้ำมันฯ 4 หมื่นล้าน
โดย thichaphat_d
6 พ.ย. 2564
119 views
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกซื้อขายล่วงหน้าเมื่อวานนี้ (5 พ.ย.64) พุ่งขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์ หลังกลุ่มโอเปกพลัส ที่ประกอบด้วยกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมัน (โอเปก) กับชาติผู้ผลิตน้ำมันสำคัญ ๆ นอกกลุ่ม นำโดยรัสเซีย เพิ่มเพดานการผลิตน้ำมันเพียงวันละ 4 แสนบาร์เรลเช่นเดิม
ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ล่วงหน้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.46 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 2.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันโอเปกพลัส ได้ประชุมกันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมตกลงกันว่า จะเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันป้อนสู่ตลาดโลกในเดือนธันวาคมในปริมาณเท่าเดิมคือ เพิ่มวันละ 4 แสนบาร์เรล โดยไม่สนคำร้องขอของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯที่ขอให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตในช่วงนี้มากขึ้นอีก เพื่อชะลอราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น
นักวิเคราะห์ชี้ว่า การระบาดของโควิด-19 ทำให้โอเปกพลัสระมัดระวังมากขึ้นในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน เนื่องจากกังวลว่า อุปสงค์น้ำมัน (Demand) อาจทรุดตัวลงอีก ท่ามกลางการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในจีนและยุโรป
ขณะที่ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานว่า
กพช.อนุมัติปรับลดอัตราการส่งเงินเข้ากองทุน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันดีเซลหมุนช้า และน้ำมันเตา ในอัตรา 0.005 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 1 ปี และอัตรา 0.05 บาทต่อลิตร ระยะเวลา 2 ปี มีผลทันทีหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา
อีกทั้ง ยังเห็นชอบแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 - 2567 ปีละ 4,000 ล้านบาท และให้คณะกรรมการกองทุนฯ มีอำนาจปรับปรุงแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ และการจัดสรรเงินตามแผนและกลุ่มงานต่างๆ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสมภายในวงเงินรวม 12,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้ทบทวนแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2563–2567 เพื่อรับรองกรณีมีการเปลี่ยนแปลงวงเงินกู้ โดยให้การบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องมีจำนวนเงินเพียงพอเพื่อใช้ในการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อรวมกับเงินกู้ต้องไม่เกิน 40,000 ล้านบาท ตามพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงพ.ศ. 2562
คาดว่าจะเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดือน ธ.ค.2564 โดยงวดแรกจะกู้ 20,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับเงินในช่วงกลางเดือนม.ค.2565 และงวดถัดไปอีกกว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เงินกองทุนน้ำมันฯ ปัจจุบันเหลืออยู่ราว 7,000 ล้านบาท จึงทำให้ต้องกู้เพิ่มราว 30,000 กว่าล้านบาท
แท็กที่เกี่ยวข้อง ราคาน้ำมันโลก ,ราคาน้ำมัน ,กพช. ,ภาษีน้ำมัน ,กองทุนน้ำมัน ,โอเปกพลัส