เศรษฐกิจ
ผลสำรวจเผย คนไทยต้องมีรายได้หลังเกษียณ 15,000-25,000 บาท/เดือน ถึงจะพอต่อการใช้จ่าย
โดย paweena_c
25 มี.ค. 2567
260 views
ผลสำรวจดัชนีความพร้อมเพื่อการเกษียณแห่งชาติเผย คนไทยต้องมีรายได้หลังเกษียณ 15,000-25,000 บาท/เดือน ถึงจะเพียงพอต่อการใช้จ่าย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รัฐชัย ศีลาเจริญ หัวหน้าภาควิชาการธนาคารและการเงิน คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความพร้อมเพื่อการเกษียณแห่งชาติ (National Retirement Readiness Index :NRRI) ประจำปี 2566 พบว่า ดัชนีชี้วัดความพร้อมเพื่อการเกษียณ หรือ NRRI ซึ่งจัดทำทุก 2 ปี เริ่มครั้งแรกในปี 2564 ครั้งนี้ ปี 2566 เป็นครั้งที่ 2 ทำการสำรวจจากประชากร 2,464 คน ผลปรากฎว่าความพร้อมเพื่อการเกษียณมีค่าเฉลี่ยที่ 49.30 คะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 48.60 คะแนน แสดงว่าคนไทยมีความพร้อมเพื่อการเกษียณอยู่ในระดับปานกลาง
ผลสำรวจสะท้อนต่อไปว่า คนไทยยังออมเงินไม่พอ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กอายุ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่น่ากังวล เนื่องจากกลายเป็นกลุ่มที่มีหนี้เร็ว และติดหนี้นานขึ้น เพราะเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย ทำให้การออมเพื่อเกษียณถูกบั่นทอน และส่วนใหญ่ยังเป็นหนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคซึ่งไม่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต ดังนั้นกลุ่มนี้ต้องเน้นมาตรการเชิงป้องกัน โดยสอดแทรกเข้าไปในหลักสูตรการเงินส่วนบุคคลในโรงเรียน และสถาบันการศึกษา แต่ต้องปรับโจทย์ใหม่มุ่งไปที่กระตุ้นการออมโดยตรง รวมถึงต้องให้ทักษะด้านดิจิทัลไปพร้อมกัน
รองศาสตราจารย์ ดร.อนิรุต พิเสฎฐศลาศัย คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ข้อมูลตัวเลขรายได้หลังเกษียณที่จะทำให้ประชาชนคนไทยมีเงินใช้จ่ายต่อเดือนเพียงพอ ต้องอยู่ระหว่าง 15,000-25,000 บาท ซึ่งพบว่ามีกลุ่มคนจำนวนมากที่ไม่มีรายได้ถึงช่วงดังกล่าว แม้แต่ผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมก็มีรายได้หลังเกษียณเพียง 3,500-7,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น
ดังนั้นสิ่งที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน คือ การเพิ่มการรอบรู้ด้านการเงินและสุขภาพเพื่อนำไปสู่การวางแผนจัดการด้านการเงินส่วนบุคคลให้ดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่มีทั้งความมั่นคงทางการเงิน และความมั่นคงด้านสุขภาพ คุณภาพชีวิตในระดับต่ำ ได้แก่ กลุ่มอาชีพอิสระ ลูกจ้าง และคนทำงานรับจ้าง อยู่ในพื้นที่ภาคกลาง อายุระหว่าง 18-29 ปี ขณะที่กลุ่มคนที่มีความพร้อมสูง ได้แก่ เจ้าของกิจการ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ
นางสุขมีนา ภาสะวณิช ผู้อำนวยการกองนโยบายการออมและการลงทุน สำนักงานเศรษฐกิจคลัง กระทรวงการคลัง กล่าวว่า มีประชาชน 11.53 ล้านคน ที่มีสวัสดิการชราภาพในช่วงเกษียณอายุซึ่งรัฐจัดให้ฝ่ายเดียว หรือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600-1,000 บาทต่อเดือน ส่วนที่ได้สวัสดิการขั้นพื้นฐานได้รับจากกองทุนประกันสังคม จำนวน 13.6 ล้านคน ปัญหาที่เกิดขึ้นคือประชาชนจำนวนมากมีเงินออมไม่พอหลังเกษียณ
