เศรษฐกิจ

ทำความรู้จัก “หวย L6” มันคืออะไร? ลุ้นรวย 180 ล้าน เริ่มใช้งวดแรก 1 ต.ค.นี้

โดย JitrarutP

29 ก.ย. 2566

13.1K views

ทำความรู้จัก “หวย L6” สลากฯ รูปแบบใหม่ ทั้งแบบใบและแบบดิจิทัล ลุ้นรวย 180 ล้าน เริ่มใช้งวดแรก 1 ต.ค.นี้ ส่วนสลากแบบ N3 แบบสมทบเงินรางวัล คาดเริ่มใช้ต้นปีหน้า (2567)

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จัดทำสลากรูแบบใหม่ 2 รูปแบบ  L6 และแบบ N3 เพื่อลดการซื้อขายหวยใต้ดิน และการพนันนอกระบบ โดยแบบ L6 จะเริ่มใช้งวดแรก 1 ตุลาคม นี้ ขณะที่แบบ N3 คาดการณ์ว่าจะเริ่มใช้ต้นปี 2567

สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (L6) มีสลาก 2 แบบ คือ แบบใบ และ แบบดิจิทัล

- สลากแบบใบ เป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีการพิมพ์ออกมาเป็นใบ โดยมีการพิมพ์หมายเลขสลากกำกับไว้บนใบสลาก ผู้ซื้อจะได้รับสลากฉบับจริง ที่ระบุหมายเลขสลาก งวดวันที่ ชุดที่ รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ ที่พิมพ์ไว้บนใบสลาก เพื่อใช้ในการตรวจสอบความถูกต้องของสลากฉบับนั้นๆ และเป็นหลักฐานในการขอรับเงินรางวัลในกรณีสลากฉบับนั้นถูกรางวัล

- สลากแบบดิจิทัล เป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีการกำหนดหมายเลขสลากกำกับไว้ในระบบดิจิทัล ออกจำหน่ายผ่านช่องทางดิจิทัล ผู้ซื้อต้องลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์มที่กำหนด (เป๋าตัง) สำนักงานจะเปิดให้ซื้อ 06.00 – 23.00 น.ของทุกวัน เว้นวันออกรางวัลจะเปิดให้ซื้อถึง 14.00 น.

สลาก L6 เป็นประเภทสลากแบบ “ไม่สมทบเงินรางวัล”

สลากแบบ L6 หากการออกรางวัลในงวดใดไม่มีผู้มีสิทธิเรียกร้องเงินรางวัล และไม่ได้นำไปสมทบเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลในงวดถัดไป ให้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน

การจัดสรร – จ่ายเงินรางวัล แบบสลาก L6

สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก ราคา 80 บาท จะจำหน่ายออกเป็นชุด ชุดละ 1,000,000 ฉบับ แต่ละฉบับ ประกอบด้วย หมายเลข 6 หลัก ตั้งแต่ 000000-999999 ในแต่ละชุดเป็นการกำหนดหมายเลขไว้ล่วงหน้า (มีหมายเลขจำกัด) ไม่สามารถเลือกเลขซ้ำกันได้ การจัดสรรรางวัลในแต่ละชุด มี 9 รางวัล จำนวนรางวัลทั้งหมด 14,168 รางวัลต่อสลาก 1 ชุด


“สลาก L6” มีรางวัลอะไรบ้าง

รางวัลที่ 1 จำนวน 1 รางวัล เงินรางวัลร้อยละ 12.50
รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 จำนวน 2 รางวัล เงินรางวัลร้อยละ 0.42%
รางวัลที่ 2 จำนวน 5 รางวัล เงินรางวัลร้อยละ 2.08
รางวัลที่ 3 จำนวน 10 รางวัล เงินรางวัลร้อยละ 1.67
รางวัลที่ 4 จำนวน 50 รางวัล เงินรางวัลร้อยละ 4.17
รางวัลที่ 5 จำนวน 100 รางวัล เงินรางวัลร้อยละ 4.17
รางวัลเลขหน้า 3 ตัว จำนวน 2,000 รางวัล เงินรางวัลร้อยละ 16.66
รางวัลเลขท้าย 3 ตัว จำนวน 2,000 รางวัล เงินรางวัลร้อยละ 16.66
รางวัลเลขท้าย 2 ตัว จำนวน 10,000 รางวัล เงินรางวัลร้อยละ 41.67
รวมทั้งสิ้น 14,168 รางวัล  เงินรางวัล 100.00%


ด้าน พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เผยว่า “สลาก L6 ทุกชุดทั้ง 30 ล้านใบ ทุกใบราคา 80 บาท มีรางวัลที่ 1 หากมีคนถูกรางวัลที่ 1 จากทุกชุด ก็ได้เงินรางวัลสูงสุด 180 ล้านบาท ซึ่งประชาชนที่ถูกรางวัลสามารถขึ้นเงินรางวัลได้ 3 ช่องทางคือ การโอนเงินผ่านแอปเป๋าตังที่สามารถโอนผ่านไปยังแบงก์ต่าง ๆ ได้ หรือโอนผ่านธนาคารกรุงไทย หรือนำบัตรประชาชนมาขึ้นเงินที่สำนักงานสลากฯ”


ส่วนสลากอีกรูปแบบคือ สลาก N3 (Numbers 3)  คาดว่าจะเปิดขายต้นปี 2567


สลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเลข 3 หลัก เป็นสลากแบบดิจิทัล ไม่มีการกำหนดหมายเลขสลากกำกับไว้ในระบบดิจิทัล ผู้ซื้อสามารถเลือกหมายเลขที่ตนเองต้องการได้ทุกหมายเลข ตั้งแต่ 000 – 999 ออกจำหน่ายผ่านช่องทางดิจิทัล


สลาก N3 ประเภทสลากแบบ “สมทบเงินรางวัล”

หากการออกรางวัลในงวดใดไม่มีผู้มีสิทธิเรียกร้องเงินรางวัล จะนำเงินที่จัดสรรไว้ไปสมทบเพื่อจ่ายเป็น เงินรางวัลในงวดถัดไปก็ได้ แต่ไม่เกินหนึ่งงวด

ทั้งนี้เงินที่ได้นำไปสมทบเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลในงวดถัดไป ถ้าไม่มีผู้มีสิทธิเรียกร้องเงินรางวัลดังกล่าว ให้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน


การจัดสรรรางวัลของ สลากแบบ N3 กำหนดไว้ 4 รางวัล  

- รางวัลสามตรง (ตรงเลข-ตรงหลัก) คือ ตัวเลขที่เลือกตรงกับผลการออกรางวัล และหลักตรงกัน สัดส่วนเงินรางวัล 30%

- รางวัลสามสลับหลัก (ตรงเลข-สลับหลัก) คือ เลขที่เลือกตรงกับผลการออกรางวัลแต่ละหลักสลับกัน สัดส่วนเงินรางวัล 30%

- รางวัลสองตรง (ตรงเลข-ตรงหลัก) คือ ตัวเลขที่เลือกตรงกับผลการออกรางวัลและหลักตรงกัน สัดส่วนเงินรางวัล 39%

- รางวัลพิเศษ  สัดส่วนเงินรางวัล 1%





ผู้ซื้อสลากแบบดิจิทัลสามารถสืบค้นสลากผ่านแพลตฟอร์มได้สองวิธี โดยสืบค้นหมายเลขสลากผ่านแพลตฟอร์ม หรือ สืบค้นหมายเลขจากร้านค้า เมื่อผู้ซื้อได้เลือกหมายเลขเรียบร้อยแล้ว ให้ทำรายการชำระเงินค่าสลาก หากไม่ชำระเงินภายในเวลาที่กำหนด แพลตฟอร์มจะนำสลากแบบดิจิทัลที่เลือกไว้กลับสู่ระบบการจำหน่ายต่อไป เมื่อทำการซื้อขายเสร็จเด็ดขาดแล้ว กรรมสิทธิ์ตกเป็นของผู้ซื้อ ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ไปยังผู้อื่นได้

โดยผู้ขายสลากินแบ่งรัฐบาลหกหลัก (L6) ทั้งแบบใบ และแบบดิจิทัล ต้องขายในราคาตามที่กำหนดในสลาก รวมทั้งต้องไม่ขายในสถานศึกษา และไม่ขายแก่บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เริ่มตั้งแต่งวดวันที่ 1 ต.ค. 2566 เป็นต้นไป



คุณอาจสนใจ