เศรษฐกิจ

โตโยต้า ฉลองครบรอบ 60 ปี ร่วมขับเคลื่อนอนาคต มุ่งสู่ “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” พร้อมเปิดตัวกระบะต้นแบบรุ่นใหม่ครั้งแรกของโลก

โดย nicharee_m

20 ธ.ค. 2565

872 views

โตโยต้า ฉลองการดำเนินงานในประเทศไทยครบ 60 ปี แสดงความขอบคุณต่อทุกภาคส่วนผู้มีส่วนร่วมในความสำเร็จ พร้อมร่วมขับเคลื่อนอนาคต และ ความสุขของผู้คน แนะนำนวัตกรรมการขับเคลื่อนยุคหน้า ตอบสนองทุกรูปแบบของความสุขในการเดินทาง เพื่อร่วมเติมเต็มเป้าหมาย “ความเป็นกลางทางคาร์บอน”



มร. อากิโอะ โตโยดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และ มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมเปิดงาน “โตโยต้า ฉลองการดำเนินงานในประเทศไทยครบ 60 ปี” เพื่อแสดงความขอบคุณต่อทุกภาคส่วนผู้มีส่วนร่วมในความสำเร็จตลอด 60 ปี ที่ผ่านมา



โดยภายในงานที่จัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้เน้นย้ำวิสัยทัศน์และพันธกิจในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญซึ่งรวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า พร้อมกับการขยายผลแนวทางการมุ่งสู่เป้าหมาย “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” ผ่านการแนะนำต้นแบบนวัตกรรมยานยนต์ยุคหน้าในทุกระบบส่งกำลังเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภค พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นสานต่อเจตนารมณ์ในการมีส่วนร่วมเติบโตเคียงข้างสังคมไทยอย่างยั่งยืนต่อไป



โดยได้รับเกียรติจาก นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน  ได้ร่วมงานแสดงความยินดี บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่ได้มีส่วนร่วมในการวางรากฐานให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้เติบโตได้อย่างมั่นคง พร้อมกับขับเคลื่อนหลากหลายกิจกรรมที่มีส่วนในการกระตุ้นภาคเศรษฐกิจ และตอบสนองต่อนโยบายภาครัฐเพื่อความสุขของผู้คนและสังคมอย่างต่อเนื่อง



บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ก่อตั้งในวันที่ 5 ตุลาคม 2505 โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการลงทุนขยายธุรกิจและการผลิตรถยนต์ ส่งผลให้ในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้องเกิดการเจริญเติบโตและมีบทบาทสาคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 12% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ โดยบริษัท โตโยต้าฯ มียอดผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในประเทศสะสมกว่า 7 ล้านคัน รวมถึงผลักดันประเทศไทย ให้เป็นที่ยอมรับในฐานะฐานการผลิตเพื่อส่งออกสู่ตลาดโลกด้วยยอดการส่งออกกว่า 5 ล้านคัน  



นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำในด้าน เทคโนโลยียานยนต์และคุณภาพการให้บริการภายใต้แนวคิด “Best in Town” เพื่อตอบสนองทุก ความต้องการของลูกค้าในทุกยุคสมัย ตลอดจนเป็นหนึ่งในองค์กรบรรษัทภิบาลชั้นนำของประเทศด้วยการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านหลากหลายโครงการและนวัตกรรมเพื่อสังคม

ทั้งนี้ ในโอกาสการดำเนินงานในประเทศไทยครบรอบ 60 ปี บริษัทฯ ได้มีการนำเสนอถึงแนวทางการดำเนินงานที่ยั่งยืนและเป็นรูปธรรม ในการบรรลุเป้าหมายการสร้าง “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Carbon Neutrality) อันเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักของกลุ่มบริษัทโตโยต้าทั่วโลก โดยโตโยต้าในฐานะ “องค์กรแห่งการขับเคลื่อน ที่มุ่งมั่นในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกรูปแบบ” หรือ “electrification full line-up car maker” ด้วยการเตรียมความพร้อมในหลากหลาย




ด้วยแนวทาง หรือ “Multi - Pathway” เพื่อทุกความเป็นไปได้ที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการเดินทางของผู้คน ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งปรัชญาของโตโยต้าที่จะเป็น “ผู้นำพาการขับเคลื่อนสำหรับทุกคน” เพื่อมอบทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เป็นไปได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบไฮบริด (HEV) รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV)

เพื่อเป็นการเน้นย้ำถึงการเตรียมความพร้อมการขับเคลื่อนยุคหน้าภายใต้แนวทาง Multi – Pathway โตโยต้ายังได้นำต้นแบบยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (HICEV : Hydrogen Internal Combustion Engine Vehicle) มาเผยโฉมต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของโตโยต้าในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อเพิ่มทางเลือกแก่ผู้คนโดยไม่จำกัดที่การใช้พลังงานใดพลังงานหนึ่ง ด้วยแนวคิดนี้ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของโตโยต้าสะสมในประเทศไทยจนถึงปัจจุบันมีมากกว่า 150,000 คัน มีส่วนช่วยในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 800,000 ตัน เทียบเท่ากับปลูกป่าบนพื้นที่ขนาด 97,000 ไร่ หรือ เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 2.4 ล้านต้น



“การแนะนำรถกระบะไฮลักซ์ วีโก้ภายใต้โครงการไอเอ็มวียังคงเป็นความทรงจำที่ประทับใจมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตการทำงานของผม เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ ผมจึงตัดสินใจที่จะสร้างรถไอเอ็มวีแบบใหม่ เพื่อให้เป็นรถกระบะสำหรับประเทศไทย ได้แก่รถต้นแบบใหม่ล่าสุด IMV 0 และ รถต้นแบบไฮลักซ์ รีโว่ ที่มาในระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ทั้งสองรุ่นนี้ แสดงถึงแง่มุมที่แตกต่างในเชิงยนตรกรรม ซึ่งตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันและเหมาะกับลูกค้าคนละกลุ่ม รุ่นหนึ่งถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่วนอีกรุ่นถูกพัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริม การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน และรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น” มร. อากิโอะ โตโยดะ กล่าว



ภายในงานในส่วนของงานนิทรรศการ THE 60 th ANNIVERSARY MEMORABLE MOMENT  ยังได้มีการจัดแสดงประวัติของโตโยต้าและบทบาทของโครงการ IMV (Innovative International Multi-purpose Vehicles) ที่มีต่อการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปสู่ตลาดโลก และเพื่อเป็นการสานต่อบทบาทของประเทศไทยในฐานะ ‘ดีทรอยต์แห่งเอเชีย’ และ ‘เมืองหลวงศูนย์กลางรถกระบะโลก’ พร้อมทั้งนำเสนอทางเลือกในการเดินทางสำหรับชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม โตโยต้าได้ทำการเปิดตัวต้นแบบของรถกระบะอเนกประสงค์ภายใต้ชื่อ “IMV-0 Concept” ที่มุ่งเน้นความสะดวกในการปรับรูปแบบการใช้งานเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าชาวไทย มาให้รับชมเป็นครั้งแรก ณ โอกาสนี้ด้วย


ในส่วนของเรื่อง แนวทางการดำเนินงานขององค์กรในยุคหน้า เพื่อขับเคลื่อนอนาคตแห่งความสุขของลูกค้าและผู้คน และ ส่งเสริมวิสัยทัศน์และพันธกิจในการขับเคลื่อนประเทศของภาครัฐ “ทั้งนี้อุตสาหกรรมยานยนต์โลกกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่รัฐบาลไทยจึงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable-Development-Goal : SDGs) โดยมีเป้าหมายสำคัญคือประเทศไทยจะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality : CN) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในประเทศให้เกิดเป็นรูปธรรมตามแนวนโยบาย 30@30”




ทั้งนี้ นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้กล่าวเสริม“ในนามของโตโยต้า ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณประเทศไทย รัฐบาลไทย เครือข่ายธุรกิจ และประชาชนชาวไทยสำหรับการสนับสนุนและความกรุณาอย่างดียิ่งที่มีให้แก่เรา ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้โตโยต้าเติบโตในระดับโลก เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตของโตโยต้า มียอดการผลิตสูงเป็นลำดับที่ 4 รองจากญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา และได้รับเลือกให้เป็นผู้ริเริ่มบุกเบิกหลากหลายพันธกิจสำคัญในภูมิภาคอาเซียน เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เติบโตจนยิ่งใหญ่เป็นลำดับที่ 10 ของโลกตลอดจนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการพัฒนาสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม”


นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้วยแนวคิด Closer to customer (ใกล้ชิดกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น) โดยร่วมกับเครือข่ายทางธุรกิจในการนำเสนอนวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดียิ่งขึ้นสู่ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ อาทิ การผสมผสานเทคโนโลยีแห่งการเชื่อมต่อเพื่อสร้างความสะดวกสบายในการเดินทาง (Connected) การบริการการขับเคลื่อนในรูปแบบของการแบ่งปันการใช้งาน (Sharing) เป็นต้น

มร. อากิโอะ โตโยดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “วันนี้ ผมขอขอบคุณทุกท่านจากใจจริง โตโยต้าได้เติบโตในประเทศไทยโดยมีคนไทยทุกท่านเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราได้มีโอกาสได้เฉลิมฉลองในวันนี้ สำหรับตัวผมเอง มันไม่ใช่เรื่องของ จำนวนยอดขายรถที่เราทำได้ที่นี่  สิ่งที่เราต้องการมอบให้ประเทศนี้มีมากกว่าแค่รถยนต์ เช่น การช่วยสนับสนุนโอกาสทางเศรษฐกิจ ดังเช่น ความตั้งใจที่เราเลือกให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถรุ่นใหม่ระดับโลกภายใต้โครงการไอเอ็มวี”



“ผมอยากขอขอบคุณทุกท่านในฐานะสมาชิกคนสำคัญของครอบครัวโตโยต้าในระดับโลก เมื่อเราร่วมมือกัน ผมเชื่อว่าทุกอย่างก็จะเป็นไปได้ เราจะสามารถช่วยทำให้โลกใบนี้เป็นที่ที่ดียิ่งขึ้นและค่อยๆ เพิ่มรอยยิ้มไปด้วยกัน”


“โตโยต้า ร่วมขับเคลื่อนอนาคต”



รวมทั้งยังให้ความสำคัญสูงสุดกับการแสดงความรับผิดชอบของธุรกิจ ผ่านการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม อาทิ การรณรงค์ด้านความปลอดภัยบนท้องถนนผ่านโครงการ  “โตโยต้า ถนนสีขาว” ที่ดำเนินการต่อเนื่องกว่า 30 ปี การมีส่วนร่วมในการส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการรายย่อยเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากผ่านโครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” การพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ผู้ด้อยโอกาสผ่านการดำเนินงานของ “มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย” รวมถึงการกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางพันธสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า 2050 “Toyota 6 Environment Challenge 2050”

ขยายผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมสู่สังคมผ่านหลากหลายกิจกรรม ภายใต้โครงการ “โตโยต้า เมืองสีเขียว” หรือ การศึกษาแนวทางการเปลี่ยนผ่านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการคมนาคมในยุคหน้าผ่านโครงการ “การจัดตั้งเมืองที่ยั่งยืนโดยปราศจากมลภาวะ” (Decarbonized Sustainable City)

และนี่คืออีกหนึ่งก้าวแห่งความสำเร็จของตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา ที่โตโยต้ามุ่งมั่นที่จะเติบโตเคียงคู่สังคมไทย และทางบริษัทฯ ได้กำหนดแผนการดำเนินงานในมิติต่าง ๆ โดยคำนึงถึงบริบทที่เหมาะสมกับสังคมไทยอยู่เสมอ  พร้อมปลูกฝังแนวคิดการส่งมอบงานที่เปี่ยมด้วยคุณภาพจากความทุ่มเท ทักษะ และความมุ่งมั่นของพนักงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์จะเป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพ ความทนทาน และความน่าเชื่อถือ เพื่อสร้างความอุ่นใจตลอดการใช้งานแก่ลูกค้า  การเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง ร่วมขับเคลื่อนอนาคตเคียงคู่สังคมไทย

คุณอาจสนใจ

Related News