เศรษฐกิจ

กสทช.พิรงรอง ชี้เงิน 1,600 ล้าน ซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก ทำสังคมเสียโอกาส แนะใช้งบกองทุนกีฬาแทน

โดย thichaphat_d

9 พ.ย. 2565

184 views

ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต หนึ่งในกรรมการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โพสต์บัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ที่มีการเสนอให้ใช้เงินเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) มูลค่า 1,600 ล้านบาท ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ถึงความคุ้มค่าในการใช้งบดังกล่าว โดยใจความโดยสรุประบุว่า



การใช้เงินจำนวน 1.6 พันล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ย่อมจะกระทบสภาพคล่องของกองทุน กทปส.

หากนำเงินจำนวน 1.6 พันล้านบาท ที่จัดเก็บจากผู้ประกอบการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ตามกฎหมายไปใช้เพื่อซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกหมดในคราวเดียว โอกาสที่จะได้ส่งเสริมเนื้อหาที่มีคุณค่าทางสังคมแต่ขาดทุนสนับสนุน และการเสริมศักยภาพผู้ผลิตเนื้อหาของไทยให้สามารถเรียนรู้และแข่งขันได้ในระดับนานาชาติก็จะต้องสูญหายไปด้วย

นอกจากนี้ การใช้เงินจำนวน 1.6 พันล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ย่อมจะกระทบสภาพคล่องของกองทุน กทปส. และอาจส่งผลให้เกิดภาวะสุญญากาศในการสร้างองค์ความรู้ การพัฒนาบุคลากรในกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์หรือกิจการโทรคมนาคม ตลอดจนการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ควรจะได้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

เทียบกับโครงการที่กองทุนฯ ให้การสนับสนุนที่ผ่านมาจะสามารถ

• ให้การสนับสนุนสถานพยาบาล/โรงพยาบาลในโครงการต่อสู้สถานการณ์ "ไวรัสโคโรนา" สายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้มากกว่า 166 โครงการ คิดเป็นสามเท่าของทุนที่ให้การสนับสนุน

• ให้ทุนแก่ชุมชนหรือองค์กรวิชาชีพเพื่อดำเนินโครงการตามวัตถุประสงค์กองทุนฯ โครงการละ 1 ล้านบาท ได้มากถึง 1,600 โครงการ

• ผลิตรายการสำหรับเด็กปฐมวัย (3 -5 ปี) ความยาว 5 นาที และออกอากาศทางทีวีได้ 14,953 ตอน

• ส่งเสริมการผลิตรายการที่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มชาติพันธุ์ ผู้มีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่แตกต่าง กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ฯลฯ

ทั้งนี้หากไม่มีเอกชนซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก ใครควรเป็นผู้ดูแล และจะบริหารจัดการอย่างไร?

พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 จัดตั้งการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และมีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติขึ้นในการกีฬาแห่งประเทศไทย มีหน้าที่ส่งเสริมกีฬา จัดช่วยเหลือ แนะนำ และร่วมมือในการจัดและดำเนินกิจกรรมกีฬา ติดต่อร่วมมือกับองค์การหรือสมาคมกีฬาทั้งในและนอกราชอาณาจักร ประกอบกิจการอื่นๆ อันเกี่ยวแก่หรือเพื่อประโยชน์ของการกีฬา

ส่วน พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารกองทุนทำหน้าที่บริหารกองทุน กทปส. ด้วยการเสนอความเห็นเกี่ยวกับการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ของกองทุนต่อ กสทช.โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ดังนี้

-เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์อย่างทั่วถึง การวิจัยและพัฒนาทรัพยากรสื่อสารผู้พิการ ผู้สูงอายุ หรือผู้ด้อยโอกาส พัฒนาบุคลากรและองค์กรวิชาชีพ ตลอดจนสนับสนุนกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

-เพื่อใช้สำหรับกิจกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์อย่างทั่วถึง

-เพื่อใช้สำหรับกิจการโทรคมนาคม ซึ่งจะต้องมีการใช้จ่ายตามแผนการให้บริการอย่างทั่วถึงในกิจการโทรคมนาคม

-เพื่อสนับสนุนการใช้คลื่นความถี่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งสนับสนุนการเรียกคืนคลื่นความถี่ที่มีผู้ได้รับอนุญาตไปเพื่อนำมาจัดสรรใหม่ และสนับสนุนการทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนการถูกเรียกคืนคลื่นความถี่

หากพิจารณาจากอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย จะเห็นได้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทยถือเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่ส่งเสริมกีฬา จัด ช่วยเหลือ แนะนำ และร่วมมือในการจัดและดำเนินกิจกรรมกีฬา ติดต่อร่วมมือกับองค์การหรือสมาคมกีฬาทั้งในและนอกราชอาณาจักร ประกอบกิจการอื่นๆ อันเกี่ยวแก่หรือเพื่อประโยชน์ของการกีฬา โดยมีกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติสนับสนุนการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม และมีรายได้อันเกิดขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมด้านการกีฬาของประเทศโดยตรง ส่วน กสทช. เป็นองค์กรกำกับดูแลด้านการกระจายเสียง โทรทัศน์ และโทรคมนาคม ซึ่งเป็นภารกิจด้านการสื่อสารและการแพร่ภาพและเสียงไปสู่สาธารณะ  

ดังนั้น กรณีการถ่ายทอดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระตุ้น ส่งเสริม ให้คนไทยมีความรักในกีฬา พัฒนาทักษะด้านการกีฬาฟุตบอลของคนไทย ผ่านการรับชมรายการแข่งขันระดับโลกเช่นนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทยจึงถือเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่หลักในการดูแลการได้รับสิทธิการถ่ายทอด ซึ่งหากการกีฬาแห่งประเทศไทยได้รับสิทธิมาแล้วการบริหารจัดการเพื่อการถ่ายทอดสดในประเทศไทยก็จะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายการแพร่ภาพกระจายเสียงในประเทศไทยที่ กสทช. เป็นผู้กำกับดูแล

บทบาทของ กสทช. ในการสนับสนุนนั้น มีข้อควรพิจารณาว่า หาก กสทช. จะให้การสนับสนุนเงินผ่านการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในกำกับของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อันเป็นผู้รับใบอนุญาตดำเนินการช่องรายการทีวีดิจิทัล T Sports หมายเลข 7 ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 นั้น ตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลประเภทบริการสาธารณะของช่อง T Sports 7 ได้มีการกำหนดว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาต้องไม่ดำเนินการที่ส่งผลหรืออาจส่งผลกระทบต่อการแข่งขันของผู้รับใบอนุญาตโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลประเภทบริการทางธุรกิจ และต้องไม่เข้าแข่งขันเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินทางปัญญา เว้นแต่ไม่มีผู้รับใบอนุญาตโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลประเภทบริการทางธุรกิจรายใดประสงค์จะดำเนินการเพื่อให้ได้รับสิทธิถ่ายทอดในรายการนั้น

ซึ่ง T Sports 7 ยังต้องยื่นข้อเสนอขอให้บริการถ่ายทอดการแข่งขันดังกล่าวต่อ กสทช. ด้วย ดังนั้นการสนับสนุนให้ กกท. ดำเนินการอาจส่งผลให้กลายเป็นผู้มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับการบริหารจัดการการถ่ายทอดได้ และอาจขัดกับเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตซึ่งถือเป็นกฎหมายเฉพาะที่ กสทช. เป็นผู้บังคับใช้เอง

คุณอาจสนใจ

Related News