เศรษฐกิจ
'พิพัฒน์' เปิดงาน MOL Oversea matching ขยายตลาดแรงงานไทยสู่ญี่ปุ่น
โดย panwilai_c
19 ธ.ค. 2567
76 views
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ยังต้องการแรงงานใน 16 สาขาวิชาชีพสูงมากถึงกว่า 820,000 อัตรา โดยเฉพาะในภาคการบริบาล และ อุตสาหกรรม ขณะที่ช่วง 2-3 ปีที้ผ่านมา ไทยส่งแรงงานไปยังญี่ปุ่นอย่างถูกต้องตามกฎหมายเฉลี่ย 2,000 คนเท่านั้น ดังนั้นตลาดแรงงานในญี่ปุ่นจึงยังเปิดกว้างเป็นอย่างมาก
โดย กระทรวงแรงงานได้จัดงาน MOL Oversea matching ขึ้นเป็นครั้งแรกที่กรุงโตเกียว เพื่อให้บริษัทรับและส่งออกแรงงานของไทยและญี่ปุ่นได้เจรจาข้อตกลงร่วมกัน สู่การขยายตลาดแรงงานในฯญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในอนาคต
ตัวแทนจาก 21 บริษัทผู้ส่งแรงงานไทย และ ตัวแทนจาก 24 บริษัทจัดหางานในญี่ปุ่น เข้าพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลและกระบวนการจัดส่งผู้ฝึกปฏิบัติงานด้านเทคนิคแรงงานไทย ในงาน MOL Overseas Matching จัดโดยสำนักงานแรงงานในประเทศญี่ปุ่น เพื่อโอกาสของแรงงานไทยในตลาดแรงงานญี่ปุ่น
โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ / ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน / องค์กรด้านการสนับสนุนของญี่ปุ่น
ตัวแทนผู้รับแรงงานจากศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่รับผู้ฝึกงานคนไทยในญี่ปุ่น 2 รายนี้ ได้เข้าร่วมแมชชิ่งกับบริษัทจากไทย โดยเน้นลูกจ้างที่มีคุณสมบัติในการบริการ ซึ่งมองว่าคนไทยมีอัธยาศัยดี ยิ้มเก่ง มีปฏิสัมพันธ์ที่ดี จึงสามารถทำงานด้านการดูแลผู้สูงอายุได้ดี
ขณะเดียวกันก็พร้อมสนับสนุนการเพิ่มทักษะ และ ค่าใช้จ่ายการสอบใบอนุญาค รวมทั้งภาษา ซึ่งตอนนี้งานด้านบริบาล กำลังเป็นที่ต้องการสูงในตลาดแรงงานญี่ปุ่น
โครงการ MOL Overseas Matching จัดขึ้นภายใต้นโยบายของกระทรวงแรงงาน ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่ไทยนำกลยุทธการจับคู่มาใช้โร้ดโชว์ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการขยายตลาดแรงงานเชิงรุก ในต่างประเทศ โดยส่งเสริมให้แรงงานไทยมีโอกาสไปทำงานในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ตามเป้าหมาย 100,000 คน ในปีงบประมาณ 2568 ซึ่งก่อให้เกิดการสร้างรายได้ และการส่งเงินกลับประเทศ ให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจต่อเนื่อง ซึ่งสำหรับงานนี้ก็เกิดความต้องการทางตลาดแรงงานสูงถึง 2,027 อัตรา มากที่สุดคือด้านบริบาล โรงแรม ร้านอาหาร งานด้านตัดเฉือนโลหะ และงานก่อสร้าง
นอกจากนี้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานยังได้ร่วมออกบูธนำเสนภารกิจที่สำคัญในการสนับสนุนการขยายตลาดแรงงานเชิงรุกด้วย
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า จากการหารือกับ นาย Takamaro FUKUOKA รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ญี่ปุ่น
ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยทางญี่ปุ่นพร้อมสนับสนุนการจ้างงานอย่างเต็มที่ให้กับแรงงานต่างชาติ ซึ่งกระทรวงแรงงานเล็งเห็นว่าเป็นโอกาสที่สำคัญในการส่งเสริมการจ้างแรงงานไทยในประเทศญี่ปุ่น
โดยผลักดันให้มีการจัดสอบทักษะในสาขาเหล่านี้ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ตลอดจนสร้างความพร้อมของแรงงานไทยต่อระบบใหม่ จากแรงงานทักษะเฉพาะ หรือ Specified skill worker SSW เป็น แรงงานฝึกปฏิบัติด้านเทคนิคหรือ Employment for Skill Development (ESD) ซึ่งเมื่อปฏิบัติงานครบ 3 ปี จึงจะเปลี่ยนสถานภาพเป็น SSW ได้ เป็นการเปลี่ยนแปลงการรับแรงงานชาติเข้ามาทำงานในประเทศญี่ปุ่น โดยคุ้มครองไม่ให้แรงงานต่างชาติถูกเอารัดเอาเปรียบและปลอดภัยจากการเป็นแรงงานบังคับ รวมทั้งปัญหา/การค้ามนุษย์
ปัจจุบันรัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกมาตรการกระตุ้นการจ้างงานแรงงานต่างชาติ เช่น การอนุญาตให้แรงงานต่างชาติ เข้ามาทำงานในประเทศญี่ปุ่นด้วยสถานภาพประเภทแรงงานทักษะเฉพาะ หรือ SSW มากขึ้น โดยรัฐบาลญี่ปุ่น ได้ประมาณความต้องการแรงงานทักษะเฉพาะในอีก 5 ปี ข้างหน้า ใน 16 สาขาอาชีพ ไว้ทั้งหมด 820,000 คน
ซึ่งจะเห็นได้ว่า ณ ตอนนี้แรงงานไทยที่ไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาน ยังมีโอกาสสูงที่จะได้งานในประเทศญี่ปุ่น เพียงแต่ต้องก้าวผ่านอุปสรรคด้านภาษาเท่านั้น