อาชญากรรม

เมีย ‘สจ.โต้ง’ ไม่อยากเห็นหน้า ‘โกทร’ ลั่นไม่เผาศพจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม เชื่อมีผู้ร่วมก่อเหตุ 9 คน

โดย petchpawee_k

7 ชั่วโมงที่แล้ว

593 views

“สจ.จอย” ร้องโอนคดียิง “สจ.โต้ง” มากองปราบ เชื่อมีผู้ร่วมก่อเหตุ 9 คน วอนคุ้มครองพยานหวั่นไม่ปลอดภัย ลั่นไม่เผาศพจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม

วานนี้ (13 ธ.ค.67) น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ จอย (สจ.จอย) ภรรยาของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง พร้อมด้วยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และทนายนิติศักดิ์ มีขวด เข้ายื่นหนังสือขอโอนสำนวนคดีการตายของ สจ.โต้ง มาที่กองบังคับการปราบปราม เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยและเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม อีกทั้งยังมีผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้อง จึงเกรงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะถูกแทรกแซง โดยมี พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม รอง ผบก.ป. ลงมารับหนังสือดังกล่าวด้วยตัวเอง

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ตนมาในฐานะเป็นพี่คนสนิทของ สจ.โต้ง ยืนยันว่าจะไม่ให้ สจ.โต้งตายฟรีแน่นอน โดยจะมีการตั้งทีมทนายความทั้งหมด 2 ชุดมาดำเนินการ และยังได้มีการประสานทาง บก.ป.ไว้แล้วเรียบร้อย  จึงมายื่นเอกสารอย่างเป็นทางการเพื่อให้โอนคดี

ส่วนอีกประเด็นหนึ่งคือ ตนตั้งข้อสงสัยว่าในที่เกิดเหตุมีบุคคลที่อยู่ในบ้านมากกว่า 7 คนที่ถูกจับ คือลูกเขยและหลานชายของนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี โดยลูกเขยทำหน้าที่ใช้ปืนจี้ข่มขู่ลูกน้องของ สจ.โต้งซึ่งเป็นตำรวจ ขณะที่เข้าไปช่วยเหลือหลัง สจ.โต้งเสียชีวิตแล้ว ส่วนหลานชายทำหน้าที่ล็อกประตูเพื่อไม่ให้ลูกน้อง สจ.โต้ง เข้าไปช่วยเหลือได้ ซึ่งสองคนนี้จะอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องได้อย่างไร ในเมื่อก็อยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เคยสอบปากคำทั้ง 2 คนดังกล่าว ตนจึงมองว่าถ้าหากให้ สภ.เมืองปราจีนบุรีดำเนินการอยู่ จะไม่ได้รับความเป็นธรรม

นายอัจฉริยะ พูดเสริมถึงสภาพศพ ของทส.จ.โต้ง บอกว่า จากสภาพศพของ สจ.โต้ง ถูกยิงจากกระสุนปืนลูกซอง ที่ยิงมาจากด้านหน้า ส่วนที่มีกระสุนจากด้านหลัง นายอัจฉริยะ บอกว่า เมื่อศพถูกยิงไปล้มคว่ำไปแล้ว เขาก็มีเวลาจัดฉากได้ เขาจะยิงที่หัว ยิงที่หลัง ก็ได้ เพราะจุดหลัก คือ กระสุน 17 เม็ดที่ยิงมาจากด้านหน้า และเขาก็อยากให้เห็นว่า มีรอยเลือดจากบันไดขั้นที่ 6 ไล่ลงมา แสดงให้เห็นว่าถูกยิงจากด้านบน แต่ สจ.โต้งเข้าไปไม่นานก็ถูกยิงเลย และการที่จะไปส่งนายสุนทรเข้านอน ก็ต้องมีการเดินคู่กันไป ประเด็นนี้จะกระจ่างว่าส่งเข้านอนแล้วหรือยังก็ต้องตรวจ DNA จากเสื้อของทั้งคู่ ซึ่งต้องรอผลจาก พฐ.

เมื่อผู้สื่อข่าวถาม สจ.จอยว่า ก่อนหน้านี้ สจ.โต้งและนายสุนทรได้มีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนหรือไม่ สจ.จอย กล่าวว่า ปกติ สจ.โต้ง ก็มีปัญหากับนายสุนทร ซึ่งเป็นพ่อบุญธรรมเป็นประจำอยู่แล้ว  แต่ที่ผ่านมาก็สามารถตกลงกันได้ ทำให้ในวันเกิดเหตุ สจ.โต้งจึงเข้าไปเคลียร์ใจกับนายสุนทร ซึ่งครั้งแรกที่เข้าไปเคลียร์ใจนั้น มีลูกน้องของ สจ.โต้งเข้าไปด้วย  และเปิดเผยว่ามีการพูดคุยกันถึงขั้นที่นายสุนทรร้องไห้ และสจ.โต้งได้ก้มกราบเท้า ซึ่งการคุยครั้งแรกเคลียร์ใจกันเรียบร้อยแล้ว และสจ.โต้งก็กลับเข้าไปอีกรอบ เพื่อไปส่งนายสุนทรเข้านอน และการเข้าไปครั้งที่ 2 สจ.โต้ง เข้าไปเพียงคนเดียว  เพราะฝั่งคู่กรณีมีการปิดประตูรั้วไม่ให้ผู้อื่นเข้า  โดยขณะเข้าไป สจ.โต้งไม่มีอาวุธปืน และยังเอาโทรศัพท์ฝากลูกน้องไว้ ดังนั้นเสียงปืนที่ดังขึ้นจะมาจาก สจ.โต้งได้อย่างไร

สจ.จอย ยอมรับว่ากังวลและเป็นห่วงลูก และต้องการให้กองปราบเป็นผู้รับผิดชอบคดี เพราะรู้ว่าในจังหวัดปราจีนบุรีตนไม่สามารถทำอะไรได้

เมื่อถามว่ามีการบงการหรือไม่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สจ.จอย กล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีการบงการหรือไม่ แต่การที่ สจ.โต้งเข้าไป  ก็ไปคนเดียว ไปด้วยความไว้ใจ แต่กลับโดนยิงเข้าหน้า เข้าหัว ใครเป็นคนทำ มันโหดร้ายเกินไป ยิงแบบที่ สจ.โต้งไม่มีทางต่อสู้ได้ ซึ่งปกติ สจ.โต้ง ก็ไม่เคยพกอาวุธหรือลูกน้องเข้าไป เพราะคิดว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัย และไว้ใจ

เมื่อถามว่า สจ.จอยเชื่อหรือไม่ว่า 2 ผู้ต้องหาที่รับสารภาพจะเป็นคนยิง ไม่ใช่เป็นการมารับสารภาพแทน สจ.จอย กล่าวว่า เหตุมันเกิดขึ้นในบ้านของนายสุนทร จึงไม่มีใครรู้ว่าเป็นคำสั่งหรือไม่ โดยตนไปถึงหลังจากที่สจ.โต้ง เสียชีวิตแล้ว และไปถึงก็ไม่สามารถเข้าบ้านได้ต้องโทรให้แม่บ้านเปิดประตูให้

นายอัจฉริยะ ได้พูดเสริมอีกว่า สิ่งที่ตำรวจพูดว่า สจ.โต้งขึ้นไปข้างบนแล้วถูกยิงลงมา ยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะ สจ.โต้งแค่ก้าวบันไดเพียงขั้น 2 ก็ถูกยิงจากด้านหน้า และมีการยิงซ้ำอีกหลายครั้งหลังตายไปแล้ว ซึ่งสจ.โต้งยังขึ้นไปไม่ถึงห้องนอนเลย

ส่วนเรื่องคลิปเสียงที่หลุดมานั้น เป็นเหตุการณ์วันเกิดเหตุ ก่อนที่ สจ.โต้งจะก้มกราบเท้า ซึ่งเป็นการคุยต่อหน้า แต่คลิปเสียงที่มีการอัดมานั้น สจ.โต้ง ได้โทรไลน์หาบุคคลหนึ่งซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่ไว้ใจมาก ซึ่งปลายสายก็ได้บันทึกเสียงไว้ เพื่อเป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังอีกมีหลายคลิปและมีพยานอีกเยอะที่อยากให้สอบปากคำ โดยที่ผ่านมาทุกคนก็ห้ามไม่ให้สจ.โต้งเข้าไป เพราะรู้อยู่แล้วเข้าไปจะโดนอะไร

ถามต่อว่าการตายของ สจ.โต้ง เป็นการสั่งเก็บหรือไม่ นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า หากไม่สั่งแล้วใครจะกล้ายิง

เมื่อถามอีกว่าตอนนี้ สจ.จอย ห่วงอะไรหรือไม่ สจ.จอย กล่าวว่า ห่วงเรื่องคดี และห่วงตัวเอง อยากให้คดีสจ.โต้งได้รับความยุติธรรม ไม่อยากให้ตายฟรี  ที่ผ่านมา สจ.โต้งเป็นเสาหลักของครอบครัวที่คอยดูแลทุกคน ใจดีมีแต่ให้  แม้บุคคลิกจะดูเป็นคนที่ชอบโวยวาย พื้นฐานเป็นคนชอบช่วยเหลือคน

และเมื่อถามว่าในคลิปเสียงที่ สจ.โต้งพูดว่า ขอให้ตัวเองได้ไปเติบโตด้วยตัวเอง และมีกระแสข่าวว่าจะไปอยู่กับพรรคการเมืองใหญ่ สจ.จอยทราบหรือไม่ว่า สจ.โต้งไปขออยู่เองหรือพรรคการเมืองใหญ่มาทาบทาม  สจ.จอย ระบุว่า ไม่ขอตอบเนื่องจาก สจ.โต้ง ไม่ค่อยได้พูดคุยหรือปรึกษาเรื่องนี้ ตนคอยสนับสนุนเรื่องหลังบ้านมากกว่า

เมื่อถามว่า ชนวนในการก่อเหตุมาจากการที่ สจ.โต้งไปตบหัวลูกน้องโกธรจึงมีการลั่นไกลปืนหรือไม่ สจ.จอย กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่เพียงแค่ตบหัวจะนำไปสู่การยิงกันเลยหรือ  เชื่อว่าสังคมคิดกันได้ ไม่ต้องให้คู่กรณีมาพูดหลอกพวกตน  นอกจากนี้ตนยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีผลต่อการที่จะตัดสินใจลงเล่นการเมืองท้องถิ่น  แต่อย่างไรก็ตามจะต้องขอปรึกษาพูดคุยกับผู้ใหญ่ก่อน ซึ่งขณะนี้การเป็นอยู่ของตนก็มีญาติและเพื่อนๆมาคอยดูแลและอนู่เป็นเพื่อน  แต่ตนก็อยู่กับลูกชายเป็นหลัก

เมื่อถามต่อว่าหาก สจ.จอย เจอนายสุนทรอยากจะพูดอะไรหรือไม่ สจ.จอย กล่าวว่า ไม่อยากพูด ไม่อยากเจอ ไม่อยากเห็นหน้า

สจ.จอย กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า หลังจากนี้จะมีการเปลี่ยนกำหนดการฌาปนกิจศพของ สจ.โต้ง จากเดิมวันที่ 17 ธ.ค. ไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม.

----------------------------------

ทักษิณ” รับเล็งส่งเมีย สจ.โต้ง ลงชิง นายก อบจ.ปราจีนฯ โยน พท.เปลี่ยนตัวหลังเกิดเหตุสลด ลั่น ตร.ต้องกวาดล้างให้เกลี้ยง

วานนี้ (13 ธ.ค.67) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีการเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรี ที่ค่อนข้างรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ว่า ไม่มีอะไรที่ จ.ปราจีนบุรีเป็นเขตอิทธิพล ของนายสุนทร วิลาวัลย์ มานานแล้ว การเมืองมีทั้งฮั้ว ถ้าฮั้วไม่ลงตัวก็ฆ่ากัน เป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก ตำรวจก็จัดการได้เร็วมาก ล้อมบ้านและจับกุมได้ทั้งหมด ยอมรับว่าตำรวจจับกุมได้เร็วมาก

ส่วนที่มีการเปิดแชท สจ.โต้ง กับคนสนิทของนายทักษิณ นายทักษิณ ระบุว่า ใช่ครับ อยากให้ภรรยาลงในนามพรรคเพื่อไทย และยืนยันว่าได้มีการคุยกับคุณสุนทรแล้ว แต่ถูกเรียกไปอีกครั้งหนึ่ง ก็อาจจะเรียกไปต่อรองกันหรือไม่ก็ไม่รู้ ส่วนตัวไม่รู้ รอผลการสอบสวนก่อน

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะมีการส่งลงชิงเก้าอี้ นายก อบจ.ปราจีนบุรีหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนนั้นได้มาคุยกันว่า สส.เพื่อไทยในเขตปราจีนบุรีจะมีการสนับสนุนภรรยาของ สจ.โต้ง ส่วนที่มีการถอนตัวแล้ว เพราะเขาคงไม่กล้าลง เพราะยังมีอิทธิพลที่ยังไม่จบ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ตำรวจต้องมีการกวาดล้างอิทธิพลปราจีนบุรีให้เกลี้ยง

ส่วนพรรคเพื่อไทยจะมีการส่งผู้สมัครปราจีนบุรีหรือไม่ นายทักษิณ บอกว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบ หรืออาจจะไม่ส่งก็ได้

เมื่อถามว่าจังหวัดเชียงใหม่พรรคเพื่อไทยจะส่งนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ นายกฯ ก๊อง ลงหรือไม่ หรือเป็นเพียงพันธมิตรกัน นายทักษิณ ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ทราบต้องถามพรรคเพื่อไทย รวมถึงสนามอื่น ๆ ด้วย ต้องถามพรรค

ก่อนจะหันมาบอกผู้สื่อข่าวว่า หากพรรคแกนนำรัฐบาลกลัวอิทธิพลก็แย่แล้ว ไม่ต้องไปกลัวหรอก เราต้องปราบอิทธิพลให้เกลี้ยง ก่อนจะพูดย้ำว่าดูปราจีนบุรีสิ เดี๋ยวก็หมด เที่ยวนี้เกลี้ยงแน่ ซึ่งหลายจังหวัดก็เป็นแบบนี้เดี๋ยวตำรวจก็จัดการ เพราะช่วงนี้ตำรวจฟิตไม่ต้องห่วง

เมื่อการเมืองท้องถิ่นมีความรุนแรงขนาดนี้จะมีความกังวลในการเมืองระดับประเทศหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่กังวล วันนี้ต้องทำหน้าที่เมื่อทำหน้าที่แล้วละทิ้งไม่ได้ ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ขณะตอนที่ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี ตนก็พลาดสี่ครั้ง วันนี้เหตุการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ความรุนแรงต่าง ๆ ในระดับประเทศลดลงไปเยอะเหลือน้อยลง



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/5ALRJQMUlyE

คุณอาจสนใจ

Related News