อาชญากรรม
เปิดพฤติการณ์สังหารโหด ‘สจ.โต้ง’ - ‘บิ๊กอ้อ’ ชี้มีการวางแผนล็อกเป้าล่วงหน้า จ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม ‘โกทร-ลูกน้อง
โดย petchpawee_k
7 ชั่วโมงที่แล้ว
804 views
“บิ๊กอ้อ” ยัน สังหาร “สจ.โต้ง” บงการจัดฉากพร้อม-วางแผน-ล็อกเป้า-ปิดประตูยิงซ้ำ ตรวจวิถีกระสุนพบความผิดปกติ ส่วน กล้องไม่มีปัญหาการสอบสวน
วานนี้ (13 ธ.ค.67) เวลา 13.40 น. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกภายหลังการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจสอบสวนกลาง โดยตำรวจกองปราบปราม นำโดย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม
โดย พล.ต.ท.อัคราเดช ระบุว่า ผลการสอบสวนในคดีเรียบร้อยดี มีพยานหลักฐานที่สามารถทำการพิสูจน์ทราบต่อไปได้ ส่วนจะขยายผลถึงใครอยู่ระหว่างการสอบสวน
ขณะที่วิถีกระสุน จากการสอบสวน พบว่า เริ่มยิงกันที่ชั้น 2 ของบ้าน ส่วนการจำลองทั้งหมดยังรอพิสูจน์หลักฐานรวบรวมวางแผนการจำลองมาให้ ส่วนจำนวนผู้ยิงมีกี่คนนั้น ตำรวจทราบแล้วแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้
ทั้งนี้ กระสุนในบ้านที่พบ มีหลายจุด โดยเฉพาะชั้นล่าง บ้านหลังนี้มี 3 ชั้น เหตุเกิดชั้น 2 ซึ่งชั้นบน มีร่องรอยการถูกทำร้าย การยิง การใช้อาวุธ ส่วนชั้นล่างพื้นราบ มีปลอกกระสุนและเศษกระสุนจำนวนมาก
โดยจากการตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วน่าเชื่อได้ว่า ‘มีการตามลงมายิงจากชั้น 2 มาชั้นล่าง’ ซึ่งวิถีกระสุนโดยละเอียด ว่ายิงในลักษณะไหน ยิงกดหรือยิงตรง อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์จากพิสูจน์หลักฐาน เพราะมีการยิงจากในบ้านออกไปนอกบ้าน และ นอกบ้านออกไปในบ้าน รวมถึงรอพิสูจน์หลักฐาน สรุปผลการตรวจสอบวงจรปิดด้วยว่าใช้ได้หรือไม่ มีข้อมูลอย่างไรบ้าง
นักข่าวถามว่ามีการวางแผนมาก่อนหรือไม่ พล.ต.ท.อัคราเดช เชื่อว่า มีการวางแผนมาก่อน และวานนี้มีการประชุม ได้สั่งให้แจ้งจ้อหา ‘ร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน’ ซึ่งคำว่าร่วมกัน คือ มีการแบ่งหน้าที่ มีการวางแผนกัน ส่วนรายละเอียดว่าใครทำหน้าที่อะไรอยู่ในสำนวนการสอบสวน และจนถึงขณะนี้ยังไม่ฟันธงว่าใครเป็นคนยิง
ส่วนมีการตกแต่งสถานที่ จัดวางทุกอย่างไว้แล้วหรือไม่นั้น พล.ต.ท.อัคราเดช บอกว่า ตำรวจได้สอบปากคำโดยละเอียดแล้ว และตั้งข้อสันนิษฐานว่า มีการเตรียมการไว้อย่างไร ซึ่งขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่กำลังนำมาพิสูจน์ ซึ่ง ‘ทุกอย่างมีการไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะมีการวางแผน มีการคิดไว้ก่อน ส่วนการบงการ ก็อยู่ในส่วนของการไตร่ตรอง’ ซึ่งจะต้องมาดูสำนวนการสอบสวนว่าคนบงการมีแค่คนคนเดียวหรือมีทีมงานด้วย
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาพยายามจะปิดคดี โดยการเคลียร์พื้นที่ และทำลายพยานหลักฐาน มีข้อเท็จจริงนี้หรือไม่นั้น พล.ต.ท.อัคราเดช ตอบว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น มีลักษณะพยายามเปลี่ยนแปลงสถานที่บางอย่าง แต่สิ่งที่ได้มาจากการสอบปากคำโดยละเอียด ทำให้สามารถมั่นใจว่า การทำคดี การสอบสวน เดินไปได้ถูกทิศทาง
นักข่าวถามว่า เอาช่วงเวลาไหนไปวางแผน เป็นการวางแผนรอบ 2 ที่เดินกลับเข้ามาในบ้านหรือไม่นั้น พล.ต.ท.อัคราเดช ตอบว่า จากการประชุมกัน ‘เชื่อว่าไม่ได้เป็นเหตุฉับพลันในวันนั้น น่าจะมีการวางแผนล่วงหน้ามาก่อน ซึ่งเป็นวันก่อนเกิดเหตุ’
นักข่าวถามอีกว่า มีการล็อกบ้าน ล็อกเป้ายิงเลยหรือไม่ พล.ต.ท.อัคราเดช ตอบย้ำว่า น่าจะมีการตระเตรียมการไว้ก่อน ส่วนวางแผนมานานหรือไม่ต้องพิสูจน์ แต่พยานหลักฐานที่ได้มา ไม่ได้เกิดเหตุในวันนั้น ซึ่งพยานหลักฐานมาจากหลายส่วน
นักข่าวถามอีกว่า วันเกิดเหตุ สจ.โต้ง พยายามจะวิ่งหนีลงมา แล้วมือปืนออกมายิงใช่หรือไม่ พล.ต.ท.อัคราเดช บอกว่า ลักษณะเป็นเช่นนั้น และมีการถูกยิงซ้ำ เพราะดูจากร่องรอยวิถีกระสุน ทั้งนี้ไม่แน่ใจว่าผู้เสียชีวิตเห็นมือปืนปืนก่อน หรือ มือปืนยิงก่อน
ส่วนเป็นการเปิดด้วยลูกซองหรือไม่ พล.ต.ท.อัคราเดช ตอบว่า ถ้าตามยุทธวิธีที่ตนเองฝึกมา จะต้องเปิดด้วยลูกซอง เพื่อเป็นการยับยั้งก่อน และจึงเลือกยิงเหยื่อ จึงเชื่อว่า คนใช้ปืนมีความรู้ “คนใช้ปืนเป็นต้องรู้ยุทธวิธี เปิดด้วยลูกซอง นัดแรกต้องหยุดก่อน นัดต่อไปค่อยเลือกยิง” ส่วนเลือกยิงประชิดที่หัวหรือไม่นั้น รอ พฐ.สรุป และจากการยิงจำนวนมาก คงไม่ปล่อยให้หลุดออกไปนอกบ้านได้แน่นอน โดยยืนยันว่า ‘มีการล็อคเป้าไว้แล้ว’
ทั้งนี้ มือปืน ออกมาจากห้องไหนนั้น ก็อยู่ในสำนวนการสอบสวน ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ ใครจะพูดอะไรอะไรเรารับฟังแต่ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน
พล.ต.ท.อัคราเดช ยอมรับว่า มีตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ในที่เกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่บริเวณด้านนอกมีตำรวจไปดูความปลอดภัยให้กับคนหลายคนในบริเวณนั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า ดูความปลอดภัยให้ใครบ้าง ทั้งบ้านโกทร และความปลอดภัย สจ.โต้งผู้เสียชีวิต
ส่วนทำไมตำรวจถึงไม่ระงับเหตุ ทั้งที่อยู่ในที่เกิดเหตุ พล.ต.ท.อัคราเดช มองว่า ตำรวจเขาอยู่ด้านนอก และเชื่อว่า การมีเสียงปืนเกิดขึ้นแล้วยิงโต้ตอบ สันนิษฐานเบื้องต้นว่า เขาพยายามที่จะเข้าไประงับเหตุ ส่วนขั้นตอนเป็นอย่างไร ขอให้ทางคณะทำงานภาค 2 ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และตนเองยังไม่ทราบว่ามีชื่ออะไรบ้างที่เป็นตำรวจ แต่ทราบว่ามีประมาณ 4-5 ราย
ทั้งนี้ จะต้องรับไปทำคดีต่อหรือไม่นั้น ก็จะต้องขอพิจารณาก่อน เพราะตำรวจภูธรภาค 2 ทำได้ดีอยูาแล้ว แต่หากกองปราบปราม อยากจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นเพิ่มเติม โดยย้ายอำนาจไปพิจารณาในส่วนกลาง ก็ให้ประเมินเรื่องอยู่ และขอให้ความมั่นใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตในเรื่องของความปลอดภัย ว่าเราพร้อมเสมอที่จะพูดคุยและสามารถมาปรึกษาได้เราพร้อมให้ความยุติธรรม และได้แจ้งทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ไปแล้วว่า สามารถร้องขอความช่วยเหลือในการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปให้ความคุ้มครองป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้าย
ส่วนกรณีคลิปเสียงก็เป็นส่วนคลิป ก็ต้องมาแยกแยะว่าได้มาจากใคร บันทึกไว้ช่วงไหน เจตนาของคลิปมีความหมายอย่างไร ส่วนการเกิดเหตุต้องมาดูพยานหลักฐานประกอบกับการวางแผนในการสอบสวน
รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/AfR6Qe-U9eA
แท็กที่เกี่ยวข้อง บิ๊กอ้อ ,สจ.โต้งปราจีน ,สังหารสจ.โต้ง ,โกทร