อาชญากรรม

‘รองอุ๊’ ร่ายยาวเล่านาทีเกิดเหตุยัน ‘โกทร’ ไม่เกี่ยวยิง ‘สจ.โต้ง’ ด้าน ‘สจ.จอย’ ร้องโอนคดีมากองปราบ หวั่นไม่ปลอดภัย

โดย petchpawee_k

9 ชั่วโมงที่แล้ว

872 views

“สจ.จอย” ร้องโอนคดียิง “สจ.โต้ง” มากองปราบ เชื่อมีผู้ร่วมก่อเหตุ 9 คน วอนคุ้มครองพยานหวั่นไม่ปลอดภัย ลั่นไม่เผาศพจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม  ขณะที่ 'โกทร' พร้อมพวกร่วมฆ่า สจ.โต้ง นอนคุก หลังศาลไม่ให้ประกันตัว หวั่นหลบหนี-ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน  ลั่น  ไม่ได้สั่งฆ่า ยอมรับว่า รัก “สจ.โต้ง” เป็นลูกหลาน ยันเคลียร์ปมสมัครชิงนายกฯ อบจ.กันเรียบร้อยแล้ว  ขณะที่ลูกสาว “กนกวรรณ” รุดเยี่ยม พร้อมยันไม่เคยคิดส่งลูกชายลงชิงนายกอบจ.ปราจีนบุรี เหตุอายุยังไม่ถึง บอกรัก สจ.โต้งเหมือนน้อง


กรณีเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.67 เวลาประมาณ 20.30 น. ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี  ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือชื่อเดิมคือ นายเต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช หรือ สจ.โต้ง อายุ 48 ปี อดีต ส.อบจ.ปราจีนบุรี  ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ และเป็นบุตรบุญธรรมของนายสุนทร นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร นายก อบจ.ปราจีนบุรี ซึ่งพบว่า สจ.โต้ง ถูกยิงหลายนัดก่อนเสียชีวิตที่บันไดบ้าน “วิลาวัลย์“

โดยอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก และปืนลูกซอง 1 กระบอก นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุ ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ในที่เกิดเหตุกว่า 10 นัด  โดยขณะนั้น มีรายงานข่าวแจ้งว่า  ก่อนเกิดเหตุ เวลา 19.30 น. สจ.โต้ง เดินทางมาที่บ้านนายสุนทร และขึ้นไปพูดคุยกับนายสุนทร ที่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน เรื่องการเตรียมลงสมัครสมาชิกสภา อบจ.ปราจีนบุรี แต่สมัยที่แล้ว สจ.โต้ง ไม่ได้ลงสมัครและไปเป็นโปรโมเตอร์มวย ดังนั้นเมื่อจะกลับมาสมัคร ส.อบจ.ปราจีนบุรีอีกครั้งในสมัยนี้  จึงต้องมีการเจรจาเรื่องการจัดสรรผู้ลงสมัคร แต่คาดว่าน่าจะจัดสรรผู้สมัครไม่ลงตัว และตกลงกันไม่ได้ จึงมีปากเสียงและยิงกัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะคุมตัวนายสุนทร พร้อมคนที่อยู่ในบ้านรวม 7 คน คุมไปสอบเข้มที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี

ความคืบหน้าวานนี้ (13 ธ.ค.67) พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผบ.ตร. เดินทางมาโดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 7 คนด้วยตนเอง  เมื่อมาถึงได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ บริเวณบ้านของนายสุนทร  พร้อมกับ ตำรวจภูธรภาค 2 และ ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปราม

ก่อนที่ช่วงเที่ยงตำรวจกองปราบปรามจะคุมตัวนาย ธนภัทร ส่งแสง  นาย อภิสิทธิ์ สดชื่น  และนายสิทธิชัย ศรีภักดี ลูกน้องของนาย สุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ. ปราจีนบุรี ไปชี้จุดภายในบ้านที่เกิดเหตุ ว่าตอนที่เกิดเหตุยิง สจ.โต้ง แต่ละคนอยู่ตรงไหน ทำอะไรอยู่ และเห็นอะไรบ้าง  แต่ไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปบันทึกภาพ ทำได้เพียงสังเกตการณ์จากนอกรั้วบ้านเท่านั้น แต่ระหว่างนำตัวเข้าไป ทีมข่าวอาชญากรรมพยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทั้ง 3 คน ปฏิเสธตอบคำถาม แล้วเดินเข้าไปในบ้านทันที

จุดแรกที่นำชี้ คือ บริเวณทางเข้าบ้าน จุดที่ 2 คือบริเวณห้องโถงกลางบ้าน ซึ่งเป็นจุดที่ สจ.โต้ง นอนเสียชีวิต  จุดที่ 3 ได้คุมตัวผู้ต้องหาขึ้นไปบนชั้น 2 ของบ้าน

ตำรวจใช้เวลาในการคุมตัวผู้ต้องหาชี้จุดเกิดเหตุนานกว่า 1ชั่วโมง จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายกลับไปควบคุมที่ สภ.ปราจีนบุรี โดยไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใดๆ

กระทั่งเวลา 15.40 น. พนังงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี คุมตัว 7 ผู้ต้องหา ร่วมกันฆ่าสจ.โต้ง นำฝากขังศาลจัหวัดปราจีนบุรี ซึ่งมีการแจ้งข้อหาทั้ง 7 ผู้ต้องหา รวม 4 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา / ร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน / ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต / และร่วมกันยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยตำรวจได้จัดขบวนนำผู้ต้องหาแบ่งออก 3 คัน

คันแรกเป็นรถระกระบะควบคุมผู้ต้องหาจำนวน 4 คน ได้แก่ มือปืน 2 คน คือ นายศักดิ์สิทธิ์ ชินวงษ์ อายุ 34 ปี ( ตูน )  นายธนศรัณย์ อายุ 32 ปี (กอล์ฟ)  และผู้ติดตาม คือ นายธนภัทร อายุ 18 ปี ผู้ติดตามโกทร ( อยู่ในที่เกิดเหตุ )  และนายอภิสิทธิ์ อายุ 34 ปี

ต่อมาคันที่ 2 เป็นรถตู้ควบคุมตัวผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ นายภัทรนนท์ อายุ 38 ปี นายสิทธิชัย อายุ 41 ปี ผู้ติดตามโกทร ( อยู่ในที่เกิดเหตุ ) ขึ้นรถตู้ไป เป็นคันที่ 2 ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 6 ไม่ตอบคำถามสื่อฯ

ส่วนคันที่ 3 เป็นรถตู้ควบคุม โดยตำรวจพยุ่งตัวนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร อายุ 85 ปี ขึ้นรถเพียงคนเดียว  ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามโกทร ว่า ความสัมพันธ์ สจ.โต้งเป็นยังไงนั้น โกทร ยอมรับว่ารักเป็นลูกหลาน พร้อมยืนยันว่าคุยเคลียร์เรื่องการลงสมัครชิลนายกฯ อบจ. กันเรียบร้อยแล้ว พร้อมยืนยันไม่ได้สั่งฆ่า ซึ่งช่วงนี้โดยโกทร ตะโกนย้ำ “ฆ่าทำไม บ้าบอเหรอ ผมช่วยเขาตลอด”

ระหว่างโกทรก้าวขาขึ้นรถตู้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าสรุปแล้ว สจ.โต้งทะเลาะกับใคร ทะเลาะกับกอล์ฟจริงหรือไม่ โกทร ตอบสั้น ๆ เบา ๆว่า “ใช่”

นอกจากนี้การคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คนนั้นตำรวจใช้ชุดเฉพาะกิจควบคุมพร้อมอาวุธครบมือ ควบคุมประกบดูแลอย่างแน่นหนา เพื่อนำตัวไปส่งศาลฝากขัง

ภายหลังพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ไปยื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรก เป็นเวลา 12 วัน ที่ ศาลจังหวัดปราจีนบุรี โดย ศาลพิจารณาคำร้องเเล้วอนุญาตให้ฝากขังได้   ต่อมาผู้ต้องหาได้ ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง ซึ่งศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาทั้ง 7  เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง และพฤติการณ์ ตามคำร้องฝากขังเป็นการกระทำที่อุกอาจและเป็นที่สนใจของประชาชน เกรงว่าผู้ต้องหาทั้งหมดจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 7 คน เกรงว่าจะหลบหนี แม้ผู้ต้องหา ที่ 7 มีโรคประจำตัว แต่ทางราชทัณฑ์อนุญาตให้ไปรักษาตัวนอกเรือนจำได้ ในชั้นนี้จึงให้ยกคำร้อง ของผู้ต้องหาทั้ง 7

ย้อนกลับไปช่วงก่อนการฝากขัง  พบว่า บุคคลใกล้ชิด ที่ไปเข้าเยี่ยมโกทร ที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี เมื่อวานนี้  (13 ธ.ค.67) คนแรกคือ นางสาวกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลูกสาวของโกทร โดยนางสาวกนกวรรณ ระบุว่า เรื่องทางคดีขอให้เป็นไปตามกฎหมายและไม่ได้มีความกังวลเรื่องอะไร แต่เป็นห่วงเรื่องสุขภาพมากกว่า เพราะพ่อป่วยมีโรคประจำตัวหลายโรค รวมทั้งเพิ่งผ่าตัดหัวเข่ามา ทำให้เดินไม่สะดวก

ส่วนประเด็นเรื่องการเสียชีวิตของสจ.โต้ง ที่เชื่อมโยงเรื่องการเมือง ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง และตัวเองไม่ได้คิดจะส่งใครลงเป็นขู่แข่งตามที่มีกระแสข่าวลือ โดยเฉพาะกระแสข่าวที่ว่าตัวเองจะมีการส่งลูกชายลงสมัครชิงตำแหน่งนายกอบจ.ปราจีนบุรี ก็ไม่เป็นความจริง เพราะลูกชายตัวเองเกิดปี 2538 ซึ่งอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะลงสมัครได้

นอกจากนี้นางสาวกนกวรรณ ยังบอกด้วยว่า ส่วนตัวก็สนับสนุน สจ.โต้ง ในการลงสมัครรับเลือกตั้งมาโดยตลอด อีกทั้งตัวของพ่อก็สนับสนุน สจ.โต้ง คนเดียวเช่นกัน เพราะพ่อก็รัก สจ.โต้ง เหมือนลูก อยู่ด้วยกันมานาน ตัวเองก็รักเขาเหมือนน้องชาย

ทั้งนี้ นางสาวกนกวรรณ มองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่มีกระแสข่าวเชื่อมโยงเรื่องการเมือง น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน แต่ตัวเองก็ไม่ทราบรายละเอียดของเหตุที่เกิดขึ้น เพราะยืนยันว่า วันเกิดเหตุไม่ได้อยู่ที่บ้าน

อีกคนที่เป็นคนใกล้ชิดของโกทร ที่เดินทางเข้าเยี่ยม ที่ สภ.เมืองปราจีนบุรีด้วย คือ นายสุธรรม กินรี คนสนิทโกทร  โดยได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า เมื่อเดือนที่แล้ว ตนเองได้คุยกับ โกทร แกบอกว่าจะลงสมัครเลือกตั้งนายก อบจ. รอบนี้เอง ซึ่งตนเองถามโกทรว่า ‘โกเอาไงหมดสมัยนี้’  โกทรบอก ‘จะลงเอง’ ตนเองก็ถามว่าสุขภาพไหวเหรอ โกทรก็บอกว่า ‘ไหว โกทรแข็งแรง’ ส่วนที่จะสนับสนุนให้ ภรรยา สจ.โต้งลงนั้น ตนเองไม่ทราบ เพราะโกทรไม่ได้พูดให้ฟัง พูดแค่ว่าแกจะลงเอง

พร้อมยืนยันว่า โกทรไม่เคยพูดว่าจะให้คนอื่นลงแทน ในการสมัครนายกอบจ. รู้แค่ว่า โกทรจะลงเองในสมัยนี้ และไม่ได้พูดว่าจะสนับสนุนใครลงด้วย รวมถึงโกทรก็ไม่เคยพูดให้ฟังว่าจะสนับสนุนภรรยาสจ.โต้ง เพราะทาานบอกท่านจะลงเองก็จบ ส่วนโกทรเตรียมตัวลงสมัครในวันที่ 23 ธ.ค.นี้แล้วหรือไม่ ตนเองมองว่า ก็น่าจะเป็นแบบนั้น

ส่วนโกทร กับ สจ.โต้งเคยมีปัญหาอะไรกันมั้ย ตนเองไม่ทราบเพราะ โกทรไม่เคยเล่าให้ฟัง และที่ตนเองเจอในงานสังคม ก็ไม่ค่อยเห็น สจ.โต้ง กับโกทรไปด้วยกัน ส่วนมาก โกทรจะไปของเขา สจ.โต้งจะไปของเขา นานๆทีจะไปเจอกันแต่น้อย  ทั้งนี้ส่วนตัว ไม่ได้สนิทกับ สจ.โต้ง จึงไม่ทราบว่าอยากจะมาแข่งกันหรือไม่ แต่รู้ว่าเป็นลูกบุญธรรม โกทร ส่วนมองว่าเลือดกว่าน้ำหรือไม่ ตนเองก็ไม่ทราบ เพราะส่วนมาก จะคุยกันเรื่องอื่นทั่วไป เรื่องการเมืองไม่ค่อยได้คุย และตนเองจะเจอโกทรแค่งานสังคม

-----------------------------------

รองนายกฯ อุ๊ บุกพบสื่อ ร่ายยาวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังเห็นข้อมูลที่นำเสนอคลาดเคลื่อน ยันไม่เห็นคนยิง สจ.โต้งซึ่งย้อนเข้ากราบขอโทษ “โกทร” รอบสอง เพราะประตูใน-นอกบ้านถูกอัตโนมัติด้วยรีโมท แต่รู้มีลูกน้องนอนในบ้าน ยอมรับโกทร โทรหาบอกได้ยิน กอล์ฟ-สจ.โต้ง ทะเลาะกันก่อนได้ยินเสียงปืน


วานนี้ (13 ธ.ค.67) เวลา 12.50 น. นายกฤษฏิ์ กษมพันธุ์ รอง นายกอบจ. ปราจีนบุรี หรือ สจ.อุ๊ ได้เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี พร้อมตั้งใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนด้วยตัวเองหลังเห็นข่าวปรากฎออกไปมีหลายอย่างที่บิดเบี้ยว โดยยอมรับว่าคนในคลิปเสียงบุคคลที่ 3 เป็นตัวเอง ก่อนเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นว่า สจ.โต้ง โทรมาหาตนช่วงเย็น ถามว่าพี่อุ๊อยู่ไหนครับ ซึ่งฐานะพี่น้องก็คุยกันแบบนี้ โดย สจ.โต้งบอกว่า จะต้องเข้าไปคุยกับโกทร เรื่องการลงสมัคร อบจ. ว่าโกทรจะช่วยหรือไม่ พอไปถึงบ้านปรากฎว่าโกทรขึ้นไปพักผ่อนบนบ้านแล้ว สจ.โต้งจึงย้ำให้ตนช่วยโทรฯ ไป โกทร ว่าน้องจะคุยด้วย แต่โกทรบอกว่าไปหาหมอมา ค่อยคุยได้ไหม แต่ตนก็พยายามบอกให้ทั้งสองฝ่ายมาคุยกันให้รู้เรื่อง โดยย้ำว่า “นาย ลงมาเหอะน้องไม่มีอะไร น้องก็มาคุยเรื่องเดิม ๆ” ก่อนที่จะมาคุยกัน


ส่วนคลิปเสียงที่ออกไปนั้น ทาง สจ.โต้ง บอกไปแล้วว่า “จะกดสายหาท่านธรรมนัส นะครับ” ซึ่งคลิปเสียงทั้งหมดมีความยาว 22 นาที ไม่มีการตัดต่อ และได้ส่งให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยาไป หลังจากที่ได้โทรศัพท์พูดคุยกันเสร็จแล้ว


ก่อนจะเล่าต่อว่า ตอนที่เถียงกันก็ถือโทรศัพท์อยู่ด้วย และเป็นการเถียงกันตามปกติ และตนก็ช่วยกันเถียง หากพบว่าพูดไม่ถูก แต่เถียงเพื่อช่วยน้องว่า โกทรจะเอายังไง แต่สิ่งที่พูดคุยกันในวันนั้น คือ สจ.โต้ง ต้องการให้ โกทร ยืนยันว่าจะช่วยแน่นอนหรือไม่ โกทรก็ยังย้ำว่ามึงก็กวนตีนกูยังงี้ และก็มีการโต้เถียงกัน เรื่องหัวคะแนน


นายอุ๊ ยังบอกว่า ตอนนั้นตนเองไม่ได้อยากให้ 2 คนทะเลาะกันเลย แต่ทั้งคู่มีการทะเลาะกันเป็นประจำ การเข้าไปก็ไม่อยากให้ 2 คนทะเลาะกัน และตอนนั้นก็อ้างถึงบุญคุณที่เคยได้ช่วยเหลือกันมา และทั้งคู่ก็เหมือนเป็นพ่อลูกทะเลาะกันและสุดท้ายในคลิปตนยังย้ำเลยว่า “ถ้ามีอะไรผิดก็มาลงที่ผมแล้วกัน” ก่อนโกทรก็ยอมรับว่าจะช่วยเหลือกันในการเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้


จากนั้น สจ.โต้ง ก็เลยกอดโกทร เพราะไม่เคยเห็นโกทร ร้องไห้เลย และสจ.โต้ง ก็ได้กราบเท้าโกทร แล้วก็จบเรื่องไป ก่อนที่จะขึ้นไปส่งโกทร บนบ้าน จากนั้นโกทรก็รู้สึกเครียด และร้องไห้อยู่ จากนั้นก็ได้ปิดบ้านชั้นล่างด้านข้าง

จากนั้น ก็เดินออกจากบ้านพร้อมกับ สจ.โต้ง แต่ประตูเป็นรีโมท เปิดไม่ได้ จึงไปตะโกนให้คนในบ้านเปิดประตูให้ โดยเรียกหาน้องดราฟ ลูกชายนางกนกวรรณ  แต่ก็ไม่มีคนได้ยิน  ตนยืนคุยอยู่กับ สจ.โต้งด้านล่าง แต่สักพักประมาณ 10 นาที สจ.โต้ง ก็ขึ้นไปกราบโกทรข้างบนบ้านอีกครั้ง  จึงทันได้เห็นคนในบ้าน ว่า มีพี่ดาว ลูกเขยโกทร  น้องดราฟ  และพี่ติ๋ม ในห้องรับแขก  ตอนที่เห็นคือยังอยู่ในรั้วบ้าน ดังนั้นรอบ 2 ไม่ได้มีการเดินตามไปด้วยแล้ว และอยู่ด้านนอก


ต่อมาเห็นดราฟพอดี เลยให้รีบกดรีโมทเพื่อเปิดประตูเนื่องจากปวดปัสสาวะมาก เมื่อออกไปได้ก็ยืนคุยนายกฯ ตุ๋ย จากนั้น 10 นาที ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ประมาณ 10 กว่านัด จึงบอกย้ำพี่ตุ๋ยใจเย็นก่อน “เพราะคิดว่า สจ.โต้งคุยโกทรไม่รู้เรื่องเลยโมโหคงยิงขึ้นฟ้าเพื่อระบาย”


จากนั้นก็มีเสียงปืนชุดที่ 2 ห่างกัน 20-30 วินาที แล้วโกทร โทรมาหาตัวเอง  ตนจึงถามว่านายยิงปืนกันทำไม แต่โกทร ถามกลับกูจะยิงทำไม มึงมายิงบ้านกูทำไม  ซึ่งตอนนั้นตนเรียกตำรวจให้แล้ว  แล้วบอกกับโกทรว่า “นายปิดห้องก่อน” 

ทั้งนี้ ยอมรับว่าตัวเองไม่เห็นในตอนยิง  ไม่รู้ว่าใครยิง  ได้ยินแต่เสียงปืน 2 ชุด ประเด็นยิงก็ต้องถามคนยิง เพราะมันไม่ยาก และเอาตามข้อเท็จจริง ยืนยันมันไม่มีอะไรเลย และย้ำตอนแรกไม่มีอะไรเลย

เมื่อถามว่าเห็นนาที สจ.โต้ง หล่นลงมาหรือไม่นั้น  รองนายกฯ อุ๊ บอกว่า ไม่เห็นตอน สจ.โต้ง หล่นลงมา ส่วนยิงจากตรงไหนตนไม่รู้ และย้ำว่าไฟเปิดตามปกติ ตามที่ตาเห็น ซึ่งตนไม่ได้เข้าไปเลย ให้ตำรวจเคลียร์พื้นที่ สภาพศพ สจ.โต้ง  ก็ได้ดูจากภาพมือถือเพื่อนตำรวจ เห็นสภาพศพนอนหงาย


ส่วนการยิงโต้ รองนายกฯ อุ๊ พูดว่าขอไม่ให้ความเห็นดีกว่า เพราะไม่เห็นไม่ทราบจริง ๆ    ส่วนจำนวนคนย้ำว่ามีคนของ สจ.โต้ง 10 กว่าคน มีชุดเดินตามอยู่ในรั้ว 4-5 คน  ส่วนลูกน้องตน 3-4 คน  พร้อมย้ำว่าการเดินเข้าไปแบบไม่มีลูกน้องด้วย เพราะมันไม่จำเป็นต้องมีลูกน้องเข้าไป ตัวเองไว้ใจถึงขั้นเดินใส่กางเกงในตัวเดียวในบ้านได้เลย


สำหรับในคลิปเสียงนั้น ย้ำเป็นช่วงก่อนเกิดเหตุ ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ซึ่งปกติแล้วการเดินเข้าออกบ้านนั้น เป็นไปตามปกติอยู่แล้ว ส่วนลูกน้องที่อยู่ในบ้านนั้น ก็พักอยู่ในบ้านตามปกติ  เนื่องจาก โกทร อายุมากแล้ว และเพิ่งกลับมาจากหาหมอ แต่ย้ำว่านาทีเข้าไปคุยกันตั้งแต่ตอนแรก ไม่เห็นลูกน้องแม้แต่คนเดียว ไม่รู้ว่าอยู่โซนไหน และนอกจากคนในบ้าน ด้านนอกมีตำรวจจริง ก็คือ “ดาบใจ” และไม่มีนักการเมืองท้องถิ่น


ส่วนอาวุธปืน เป็นปืนลูกซอง ไม่ใช่อาวุธสงคราม  และปืนที่พกอยู่นั้นเป็นของลูกน้องที่ต้องใช้ไว้ป้องกันตัว นักการเมืองอยู่แล้ว


ขณะที่ปมการก่อเหตุ ขอย้ำว่า เรื่องการเมืองคุยกันจบแล้ว ปมที่นายกอล์ฟกล้ายิงก็เพราะความสัมพันธ์ กอล์ฟ กับ สจ.โต้ง เคยมีเหตุสั่งสอนกัน     


ส่วนที่นายกอล์ฟยิง สจ.โต้ง  โกทรโกรธหรือไม่ ตนได้ถามโกทร ซึ่งโกทร บอกว่านอกจากได้ยินเสียงปืนแล้ว ยังได้ยินเสียง สจ.โต้งทะเลาะกับนายกอล์ฟ   ซึ่งนายกอล์ฟเป็นเด็กที่ซื้อข้าวให้โกทร   โกทร ยังย้ำว่า มันทะเลาะกับกอล์ฟ  ไม่รู้มันทะเลาะอะไรกัน   โกทรยังถามว่ายิงมันทำไม ถ้าถามโกทรรู้สึกยังไง ตนย้ำว่าความรู้สึกจิตใจของโกทร ตนคงตอบไม่ได้ แต่รู้ว่าโกทรถามนายกอล์ฟว่า “ไปยิงเขาทำไม”


สำหรับเหตุครั้งนี้  ตนลองนึกเอาเองว่ามันต้องเกิดเหตุยังไงถึงยิงกัน ถ้าโกทรจะปิดบ้านยิง จะยิงทั้งที่ลูกหลานก็อยู่ในบ้านทำไม และโกทรก็รัก สจ.โต้ง ไม่น้อย


ส่วนเรื่องกล้องในบ้านเสีย ตนไม่รู้ แต่พี่ดาวบอกว่ากล้องชำรุด   ส่วนกล้องในพื้นที่ไม่เกี่ยวกับ อบจ. เพราะเป็นความรับผิดชอบเกี่ยวกับเทศบาล    



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/DZNtmqiLOnw

คุณอาจสนใจ

Related News