พ่อเฒ่าแค้นแทนเมียพิการ ยิงเจ้าของที่ร่างพรุน อ้างถูกไล่หวั่นไม่มีที่อยู่ เจ้าตัวหลั่งน้ำตาลาเมียคาเตียง

เมื่อเวลา 15:00 น. วานนี้ (29 พ.ย.) ตำรวจ สภ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่บ้านพัก หมู่ที่ 5 ตำบลมหาสอน อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ที่เกิดเหตุพบมีชาวบ้านมุงดูอยู่เป็นจำนวนมาก


บริเวณจุดเกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตนางอุไร แสงทอง อายุ 58 ปี นอนหงาย ศีรษะพาดอยู่บนเสาปูน หลังรถบรรทุก 6 ล้อ โดยมีนายอำพัน ปานกล่ำ อายุ 73 ปี ซึ่งเป็นมือปืนได้นั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ พร้อมกับอาวุธปืนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 มม. และปลอกกระสุนที่ยิงไปแล้วจำนวน 6 ปลอก ตกกระจายเกลื่อนที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เก็บรวบรวมไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการประกอบคดี และได้ควบคุมตัวทำการสอบสวนในเบื้องต้นนายอำพัน กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า แค้นมันมานาน พูดเจรจาขอซื้อคืนก็แล้วขอประนอมหนี้ก็แล้ว อย่างไรมันก็ไม่ยอมอยากได้บ้านและที่ดินของภรรยาตนเอง ที่จำนองไว้จำนวน 30,000 บาท แต่กลับไปฟ้องบังคับคดีให้คืนเงินต้นดอกเกือบล้านบาท


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงประเด็นสาเหตุ ที่ต้องลงมือยิง เป็นเพราะเหตุใด ซึ่งได้รับคำตอบในเบื้องต้นว่า ผู้ตายกำลังจะมาปักเสา เกรดที่ดิน ตัดต้นไม้ และยึดบ้านยึดที่ดินของภรรยาตนไป ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ จึงได้ไปนำอาวุธปืนที่ซุกซ่อนไว้ใต้เตียงนอนของภรรยาซึ่งป่วยติดเตียงลงมากระหน่ำยิง ไม่รู้ว่ายิงไปกี่นัด แต่ยิงไปหมดรังเพลิง ซึ่งจากการตรวจสอบอาวุธปืนพบว่าถูกยิงออกไปจำนวน 6 นัด ยังเหลือค้างรังเพลิงอยู่จำนวน 1 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บรวบรวม อาวุธพร้อมปลอกกระสุนปืน ไว้เพื่อตรวจสอบและเป็นพยานหลักฐานในคดี พร้อมได้นำตัวนายอำพัน ทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่เกิดเหตุ


ด้านนางสมหวัง งามขำ อายุ 63 ปี ผู้ป่วยติดเตียง มานานกว่า 10 ปี เล่าด้วยน้ำตาว่า สามีของตนคงคับแค้นถึงที่สุดแล้วถึงได้ตัดสินใจทำลงไป เนื่องจากตนเองได้นำที่นาไปจำนองไว้กับนางอุไร ไว้นานแล้ว พร้อมได้เงินมาจำนวน 30,000 บาท หลังจากนั้นตนเองก็ประสบเคราะห์กรรม เป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานกว่า 10 ปี เลยไม่ได้คืนต้นจ่ายดอกเบี้ยกับนางอุไร ผู้ตาย ซึ่งผู้ตายพยายามจะยึดที่นาในครั้งแรก แต่ไม่สามารถยึดได้เนื่องจากเป็นที่ดิน สปก. จึงได้หันเห มายึดบ้านที่ดินจำนวน 2 งานเศษ ที่ตนเองอาศัยอยู่กับครอบครัวในช่วงสุดท้ายของชีวิต


โดยล่าสุดมีหมายบังคับคดีมาถึงตน เป็นจำนวนเงินถึง 800,000 บาทเศษ โดยไม่รู้เหตุผลเลยว่าทำไม่มันถึงได้มากมายขนาดนี้ จึงได้พยายามให้ผู้ตายมาเจรจา ขอไถ่ถอนจำนองโดยธรรม อย่าได้คิดดอกเบี้ยมากจนตนเองรับไม่ไหวเพราะเป็นคนพิการไม่มีรายได้ แต่จะพยายามให้สามีและลูกนำเงินมาชดใช้ แต่การเจรจาไม่เป็นผล ซึ่งมีนายอำพันสามีรับฟังอยู่ด้วย จนถูกขับไล่ออกจากบ้านและที่ ล่าสุดคณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่มีความเมตตา สงสาร สร้างบ้านผู้ป่วยติดเตียงให้ และเพิ่งรับมอบเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา


เมื่อช่วงบ่าย ตนเองแอบมองนางอุไร ผู้ตาย พร้อมคนงาน ที่ได้เดินทางมาเพื่อล้อมรั้ว ปักเขตยึดเอาที่บ้าน และที่ดินของตน โดยไม่ทราบว่าตนเองก็มองที่ดินและบ้านของตนเองด้วยความเสียดาย ร้องให้ด้วยความเศร้าใจ ไม่รู้จะพึ่งใคร มองดูเขายึดบ้านที่ดินไป และไม่ทันได้คาดคิดว่าสามีของตน ได้ซ่อนอาวุธปืนไว้ใต้เตียง จู่ๆ สามีได้คว้าปืน ออกไปกระหน่ำยิงนางอุไร จนตายคาที่ดินดังกล่าว โดยไม่หลบหนี ขอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมกับมาขอลาตนเองเพื่อชดใช้กรรมที่ก่อ


ด้านนายยงยุทธ ษรจันศรี อายุ 31 ลูกชายของนางสมหวัง กล่าวว่า ลุง (มือปืน) เป็นสามีใหม่ของแม่ซึ่งอยู่กันมากว่า 10 ปี เป็นคนดีรักครอบครัว ซึ่งประเด็นสาเหตุนั้น ตนได้ยินเสียงก่อนเกิดเหตุว่า มันจะเอาที่เราไปไม่ได้ โดยไม่คิดว่าลุงจะกล้ามาก่อเหตุเช่นนี้ ซึ่งคิดว่าแกคงสะสมบ่มความแค้นถึงที่สุด ที่ต้องถูกยึดที่ยึดบ้านไปโดยไม่ชอบธรรม


ล่าสุดตำรวจได้ควบคุมตัวนายอำพัน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหมี่เพื่อดำเนินคดี ส่วนผู้ตายได้นำส่งพิสูจน์ที่ รพ.อีกครั้ง

https://youtu.be/4KqKXMflFCM