อาชญากรรม

หญิงต้องสงสัย ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมฆ่าตัดนิ้วแม่อัยการ ขณะที่สามีหายตัว

โดย weerawit_c

17 พ.ย. 2567

359 views

กรณีที่เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง รับแจ้งพบศพหญิงนอนเสียชีวิตปริศนา ที่สวนปาล์มแห่งหนึ่ง ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง

ที่เกิดเหตุพบ หญิงสาว มีลักษณะอวบอ้วน ผมสั้น อายุประมาณ 50 ปี สภาพศพพบนิ้วนางทั้งสองข้างถูกตัดออก บริเวณหน้าผากถูกของมีคมฟันเป็นแผลฉกรรจ์ลึกถึงกะโหลก ในตัวศพนั้นไม่มีเอกสารใดๆ ที่จะระบุตัวตนได้ว่าเป็นใคร และในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยกำลังตรวจสอบพื้นที่ในจุดที่พบศพมีการคุ้ยในน้ำที่เฉอะแฉะเจอเศษนิ้ว, กิ๊ฟ,แว่น ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของผู้ตาย โดยสภาพศพของผู้ตายร่างกายเริ่มแข็งตัว คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4-6 ชั่วโมง


นายสาย คนงานในสวนปาล์มชาวลาว ผู้เจอศพเป็นคนแรก เล่าว่า ประมาณ 17.00 น ตนนั้นได้ขับรถ จักรยานยนต์ออกไปตลาด เพื่อซื้อกับข้าว ช่วงขณะออกไปนั้นไม่ทันได้สังเกตจึงไม่เห็น แต่ขากลับมา ตนขับรถผ่านมาพอดีสังเกตเห็นว่ามีคนนอนอยู่ข้างถนน ทีแรกไม่คิดว่าเสียชีวิตคิดว่าเขาเป็นลม ตนจึงรีบโทรแจ้งเจ้านายซึ่งเป็นเจ้าของส่วนปาล์ม


ความคืบหน้าเมื่อวานนี้ (16 พ.ย.) เวลา 14.30 น. ที่ สภ. วังจันทร์ จ.ระยอง น.ส.วรรณรันต์ แสงแก้ว อายุ 35 ปี เผยว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา เวลา 11.30 น. ตนได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สัตหีบ จ. ชลบุรี เนื่องจากนางวรรณา คือท์เนอร์ อายุ 67 ปี ผู้เป็นแม่ รับราชการสำนักอัยการแห่งหนึ่ง


โดยมีสามีเป็นอัยการ เดินทางไปงานกฐินที่สำนักสงฆ์ ซอยเย็นฤดีและกลับมาที่บ้านพักของเพื่อน ในหมู่บ้านเคหะ ต.สัตหีบ จ.ชลบุรี จากนั้นไม่สามาถติดต่อได้อีกเลย จนมาทราบจากข่าวและเห็นทรัพย์สินจำได้ว่าเป็นของแม่ จึงเดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม ตนยังไม่สามารถทำใจได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น มันโหดร้ายกับแม่ตนมากไป แม่ตนพึ่งไปทำบุญมา


ด้านนายวงศ์สรณ แทนวิบูลย์ อายุ 42 ปี พี่ชายคนโต เผยว่า แม่ตนถูกลวงไปจากหน้าบ้าน หลังจากที่กลับมาจากสำนักสงฆ์แล้ว จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย


ขณะที่นายสยาม มาลาเวช อายุ 42 ปี หลานผู้เสียชีวิต เผยว่า หลังจากผู้ตายไปที่สำนักสงฆ์ และกลับมาถึงบ้านพร้อมเพื่อนบ้านตอนเที่ยง ยังไม่ทันจะเดินเข้าบ่านได้มีโทรศัพท์โทรมาหาผู้ตาย แล้วก็มีคนมารับไป โดยไม่ทราบว่าเป็นใครมารับไป แล้วก็ติดต่อไม่ได้ โดยตนและผู้ตาย นัดกันไว้ว่าตอนเย็นจะไปลอยกระทงด้วยกัน แต่พอเย็นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ทั้งนี้ ทางญาติทางลูกเคยเตือนไม่ให้ใส่ทอง เพราะอันตราย แต่ก็ไม่ฟัง เสียใจมากกับการกระทำอันโหดร้าย ขอให้ตำรวจจับคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว


ด้าน พ.ต.อ.พัฒนา รอบรู้ ผกก.สภ.วังจันทร์ จ.ระยอง เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุดสืบสวน สภ. วังจันทร์ ระยอง ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัว


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลเชิงลึก ว่าคนร้ายตัดนิ้วนางทั้ง 2 ข้าง เพื่อหวังชิงแหวนเพชรจากผู้เสียชีวิต โดยตัดตั้งแต่ข้อนิ้วในสุดจากฝ่ามือจนขาด ซึ่งเป็นการกระทำหวังชิงทรัพย์ที่โหดเหี้ยมมาก ส่วนลูกสาวลูกชายและ หลานชายเมื่อเห็นทรัพย์สินของผู้ตาย จากการพิสูจน์หลักฐาน เชื่อมั่นและแน่ใจว่าเป็นศพของแม่


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรโรงพยาบาลตำรวจเพื่อพิสูจน์ตัวตนที่แน่ชัดต่อไปส่วนในทางคดีขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ก่อเหตุ


ต่อมา น.ส.วรรณรันต์ ลูกสาว เปิดเผยอีกครั้งว่า ตนนัดกับแม่ว่าจะไปลอยกระทงกันช่วงเย็น หลังจากที่แม่ตนกลับมาจากงานกฐิน แต่ช่วงบ่ายก็ไม่สามรถติดต่อได้ ตนจึงออกตามหา และสอบถามตามบ้านของเพื่อนบ้านก็ไม่มีใครทราบ ตนอยากถามคนร้ายว่า ทำไมต้องลงมือทำกับแม่ตนขนาดนี้ แม่ตนใจดี ขอดีๆ แม่ตนก็ให้อยู่แล้ว สามีของแม่ เป็นชาวเยอรมัน เขาบอกว่าหลังจากนี้เขาจะอยู่กับใคร เขาเกษียณมาเพื่อมาอยู่กับแม่ และตอนนี้ ตนจะรับเขาไปอยู่ด้วย เพราะปกติตนและพี่ชายทำงานอยู่ที่ กทม.


ทั้งนี้ แม่ของตนค่อนข้างเฟรนลี่คุยกับคนไปทั่ว แต่ก็ไม่รู้ว่าแม่จะไว้ใจใครมากน้อยแค่ไหนบ้าง ส่วนทรัพย์สินที่ติดตัวของแม่นั้นพบว่าหาบไปหมดเลย และแม่ไม่เคยมีศัตรูที่ไหน โดยปกติแล้วแม่จะชอบสวมใส่เครื่องประดับ แต่จะใส่เฉพาะงานที่ปลอดภัย ส่วนเวลากลางคืนหรือไปในที่เปลี่ยวก็จะไม่สวมใส่ไป ส่วนเพื่อนของแม่ทางตนเองก็จะทราบเฉพาะเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด เพราะตนอาศัยอยู่กรุงเทพ จึงไม่ค่อยรู้จักเพื่อนแม่ทุกคน เวลาไปทำบุญแม่ก็จะบอกเพียงว่าไปทำบุญ ส่วนที่มีโทรศัพท์โดทรมาหาแม่ก่อนหายตัวไปคงจะเป็นคนที่รู้จักกันจึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว


ด้านสามีของผู้เสียชีวิต หลักจากเข้าไปดูศพภรรยา ออกมาด้วยความเสียใจร้องไห้กระทืบเท้าด้วยความเจ็บปวด ว่าหลังจากนี้จะอยู่ก้บใคร


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้ดำเนินการเพียงคนเดียว คาดว่าก่อเหตุจากต่างพื้นที่แล้วเอาศพมาทิ้งไว้ และมีข้อมูลจากเจ้าหน้าที่อีกว่า ขณะนี้รู้เบาะแสคนร้ายแล้ว โดยพบว่ามีผู้หญิงไปกับผู้เสียชีวิตก่อนจะหายตัวไป กำลังติดตามตัว เชื่อว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนร้ายที่ร่วมลงมือฆาตกรรมในครั้งนี้


ทั้งนี้ มีข้อมูลด้วยว่าก่อนที่ผู้เสียชีวิตหายตัวไป ได้ใส่สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท สร้อยข้อมือหนัก 3 บาท แหวนเพชร 2 วง และมีเงินในกระเป๋าอีกจำนวนหนึ่ง คาดว่าคงจะถูกคนร้ายเอาไปทั้งหมด  


โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว นางกมลวรรณ โวลฟ์ เพื่อนสาว ที่มารับผู้ตาย และเป็นเจ้าของรถเก๋งคันดังกล่าว และเป็นคนสุดท้ายที่โทรศัพท์หาผู้ตาย ในช่วงวันเกิดเหตุไปสอบสวน


โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคำ ท่ามกลางความตึงเครียด จากสีหน้าผู้ต้องสงสัย ซึ่งทางผู้ต้องสงสัยยังคงให้การปฏิเสธ โดยระบุแต่เพียงว่าไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตไปไหน ไปกับใคร ในขณะที่ทางฝั่งสามีผู้ต้องสงสัย ขณะนี้ไม่อยู่พื้นที่ โดยขับขี่รถยนต์ไปพัทยา


ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดระยอง ได้ออกหมายจับ นางกมลวรรณ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยมีรายงานว่า ตำรวจ สภ.วังจันทร์ ได้นำหมายศาลจังหวัดระยอง ไปควบคุมตัวผู้ต้องหามายัง สภ.วังจันทร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป และรถที่ต้องสงสัยว่าใช้ก่อเหตุได้นำมาตรวจหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดระยอง เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/-Xd2LkSwayc

คุณอาจสนใจ

Related News