สาวผวา ถูกดักซุ่มชิงทรัพย์ในลานจอดรถห้างดัง คนร้ายไหวตัวหนีได้ทัน ตร.เร่งไล่ล่า

สาวหวาดผวาหนัก ถูกคนร้ายดักซุ่มชิงทรัพย์ในลานจอดรถห้างดังย่านแคราย พบหลักฐานคนร้ายเป็นหนี้กว่า 5 แสนบาท จึงตัดสินใจก่อเหตุ


จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เป็นหญิงสาว โพสต์ขอความช่วยเหลือจากโซเชียล ให้ช่วยหาเบาะแสคนร้าย ที่มาก่อเหตุดักชิงทรัพย์ในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี โดยเหตุเกิดวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น.


ผู้สื่อข่าวได้คลิปกล้องวงจรปิดภายในลานจอดรถดังกล่าว บริเวณชั้น 3A จับภาพชายคนร้าย รูปร่างสูงใหญ่ อายุประมาณ 48-50 ปี สวมแว่นตา สวมเสื้อยืดและเสื้อเชิ้ตแขนยาวทับอีกชั้น สวมกางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบ สะพายกระเป๋าใบใหญ่ เดินเข้าไปบริเวณจุดจอดรถของผู้เสียหาย


ซึ่งผู้เสียหายขับรถมาจอดที่ลานจอดรถของห้าง เปิดท้ายรถเพื่อหยิบกระเป๋าสำหรับฟิตเนสและรองเท้า แล้วปิดรถ  แต่นึกขึ้นได้ว่าลืมของ จึงเดินกลับมาเปิดรถเพื่อเอาของอีกรอบ โดยไม่ทันสังเกตว่ามีชายคนหนึ่ง เดินตามหลังมา จากนั้นชายคนดังกล่าวบีบคอ และดันตัวหญิงสาวเข้าไปในรถ  ทำร้ายร่างกาย แต่หญิงสาวพยายามขัดขืน และกรีดร้องเพื่อขอความช่วยเหลือ จนมีคนเดินผ่านมา ทำให้ผู้ก่อเหตุหลบหนีไป แต่คนร้ายทำกระเป๋าสะพายตกในรถ  หญิงสาวผู้เสียหาย จึงนำไปแจ้งความที่ สภ.รัตนาธิเบศร์  ซึ่งในกระเป๋าของคนร้าย พบมีดพก สายเคเบิลไทร์ บัตรประชาชน ใบแจ้งหนี้จำนวนมาก และเอกสารสำคัญต่างๆ


วานนี้ (1 พ.ย.67) ผู้สื่อข่าวไปสอบถาม  น.ส.วริฐา ศรุตธนภิญโญ หรือคุณแก้ม อายุ 45 ปี นักธุรกิจสาว ผู้เสียหาย  เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เพราะยังตกใจกับเหตุการณ์  ว่า วันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 14.00 น.ตนไปที่ห้างดังกล่าวเพื่อออกกำลังกายที่ฟิตเนส ซึ่งเป็นการมาเล่นฟิตเนสครั้งแรกนับตั้งแต่ซื้อสมาชิกไว้ เมื่อขับรถมาถึงห้าง ตนตั้งใจจะจอดรถที่ชั้น 2 แต่ปรากฎว่าลานจอดรถชั้นนี้ไม่ตรงกับทางเข้าออกห้าง ตนจึงขับรถวนขึ้นไปจอดที่ชั้น 3  หลังจอดรถเสร็จ ตนก็หยิบกระเป๋าเป้สำหรับฟิตเนส แต่ลืมของจึงกลับไปที่รถอีกครั้ง เพื่อเปิดรถหยิบของ  จังหวะนั้นตนไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีชายคนหนึ่งเดินตามหลังมา แล้วเข้าชาร์จตนจากทางด้านหลัง บีบคอและพยายามผลักตนเข้าไปในรถ  ตนพยายามขัดขืนร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ  คนร้ายจึงต่อยเข้าที่ใบหน้าและท้องหลายครั้ง  เอามือปิดปาก และผลักตนให้เข้าไปในรถ จนศีรษะตนไปกระแทกกับคอนโซลรถ  


ตนพยายามร้องขอชีวิตจากคนร้าย บอกว่าอยากได้อะไรก็เอาไปเลย  เพราะตนคิดว่าคนร้ายตั้งใจจะชิงทรัพย์ และเห็นคนร้ายพยายามล้วงหยิบอาวุธในกระเป๋าสะพาย ตนจึงฮึดสู้ คว้ามือคนร้ายไว้และคว้าแว่นตาของคนร้ายเอาไว้ได้  ก่อนที่คนร้ายจะเสียหลักล้มลง จากนั้นคนร้ายต่อยตนอีกและปิดประตูรถกระแทกขาตน คาดว่าคงโมโหที่ถูกกระชากแว่นออก ทำให้มองไม่เห็น ซึ่งตอนที่เกิดเหตุนั้น ไม่มีใครอยู่ที่ลานจอดรถเลย


แต่สักพัก มีคนผ่านมา คนร้ายจึงรีบวิ่งหลบหนีไป โดยที่กระเป๋าสะพายและโทรศัพท์มือถือของคนร้าย ตนอยู่ในรถตน  ตนรีบล็อกรถและนั่งอยู่ในรถ เพราะทำอะไรไม่ถูก ตกใจ กลัว และเจ็บแผล จนเจ้าหน้าที่ของห้างกับ รปภ.วิ่งมาดูเหตุการณ์ และพาไปนั่งพักภายในสำนักงานของห้าง ก่อนจะแจ้งตำรวจ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ของห้างก็เปิดกล้องวงจรปิดให้ดู ซึ่งเห็นภาพคนร้ายเดินผ่านไปก่อนจะก่อเหตุ ส่วนกล้องมุมอื่นๆ ที่จับภาพคนร้ายได้นั้น ทางห้างได้ให้ตำรวจเป็นหลักฐานไปแล้ว


ส่วนกระเป๋าสะพายของคนร้าย ตำรวจค้นดูและพบว่า มีอุปกรณ์ที่เตรียมมาก่อเหตุ คือ มีดพกสั้น สายเคเบิ้ลไทร์ กระเป๋าสตางค์ที่มีบัตรประชาชน ใบขับขี่ ทะเบียนบ้าน สมุดบัญชี และใบแจ้งหนี้ของคนร้ายประมาณ 5 แสนบาท  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน


ผู้เสียหาย บอกว่า  ตนได้รับบาดเจ็บฟกช้ำหลายแห่ง และสภาพจิตใจย่ำแย่ หวาดกลัวจนเป็นแพนิค นอนไม่หลับ  ไม่กล้าออกไปไหนคนเดียว เพราะยังจับคนร้ายไม่ได้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะเจตนาคนร้าย คือตั้งใจมาดักซุ่มเพื่อก่อเหตุชิงทรัพย์  เลือกเป้าหมายที่เป็นผู้หญิงมาคนเดียว และเลือกก่อเหตุที่ลานจอดรถ ที่ไม่ค่อยมีคน คาดว่าคนร้ายก่อเหตุเพื่อหาเงินไปใช้หนี้  เพราะในกระเป๋าคนร้ายมีเอกสารแจ้งหนี้ รวมทั้งโทรศัพท์ที่คนร้ายลืมทิ้งไว้ พบว่ามีสายโทรเข้ามาทวงหนี้ด้วย


ผู้เสียหายยังเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ลูกสาวของตนได้นำเรื่องไปโพสต์ในโซเชียล เพื่อหาเบาะแสคนร้าย ปรากฎว่า มีคนติดต่อเข้ามา อ้างว่า เป็นลูกชายของคนร้าย แต่ตนยังไม่แน่ใจว่าจริงหรือไม่ จึงขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการเร่งติดตามจับกุมคนร้าย


ด้าน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ  ผกก.สภ.สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า ตำรวจได้ส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายและรอผลจากแพทย์ เพื่อประกอบสำนวนคดี ส่วนตัวผู้ก่อเหตุ ตอนนี้ทราบตัวแล้ว อยู่ระหว่างติดตามจับกุม เนื่องจากหลังได้รับแจ้งเหตุ ตำรวจลงพื้นที่ไปยังบ้านผู้ก่อเหตุในพื้นที่นนทบุรี แต่ไม่พบตัว เพราะผู้ก่อเหตุหลบหนีออกนอกพื้นที่และเคลื่อนที่ตลอดเวลา คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ เบื้องต้นตั้งข้อหา  ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตราย โดยเจ้าหน้าที่มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดชัดเจน หากผู้ก่อเหตุไม่มามอบตัว จะออกหมายจับทันที รวมทั้งหากพบมีการกระทำผิดอื่นๆ ก็จะตั้งข้อหาเพิ่มด้วย

รับชมทางยูทูบที่ :   https://youtu.be/ki-1iPc0efM