ง้อไม่สำเร็จ ผัวโหดยิงเมีย-แม่ยาย-หลาน ดับ 3 ศพ ก่อนยิงตัวตายตาม ต่อหน้าลูกสาววัย 2 ขวบ

โศกนาฏกรรมที่ขอนแก่น ผัวตามง้อเมียไม่สำเร็จ ยิงเมีย-แม่ยาย-หลานชายดับ ก่อนยิงตัวตายตามต่อหน้าลูกสาววัย 2 ขวบ พบหลานชายส่งข้อความสุดท้ายบอกแม่ก่อนโดนยิง

วานนี้ (21 ก.ย.67) เวลา 8.30 น. ตำรวจ สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกัน มีผู้เสียชีวิตหลายราย ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 10 บ้านขามป้อม ต.โพนเพ็ก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น

ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านชั้นเดียว มี 2 ห้องนอน พบรถเก๋งสีดำ จอดอยู่หน้าบ้าน ภายในบ้านบนเตียงนอน พบศพนางจรวยพร อายุ 50 ปี ถูกยิงที่ลำตัว 2 นัด  ข้างที่นอนพบศพ นางสาวคลิตา หรือ หมิว อายุ 28 ปี ลูกสาวของนางจรวยพร ถูกยิงที่ศีรษะ 2 นัด  ใกล้กับพบศพนายนพดล อันทะศรี อายุ 55 ปี  อดีตสามีของนางสาวหมิว มีรอยกระสุนยิงเข้าที่ช่องปากทะลุศีรษะ 1 นัด

ในห้องน้ำพบศพ นายพลพิพัฒน์ หรือน้องเบส อายุ 18 ปี หลานชายของนางจรวยพร และนางสาวหมิว ถูกยิงที่ศีรษะ 2 นัด  และที่น่าสลดใจ เจ้าหน้าที่พบเด็กหญิงอายุประมาณ 2 ขวบ ลูกสาวของนางสาวหมิว นั่งตัวสั่นข้างศพแม่ เจ้าหน้าที่จึงอุ้มเด็กออกมาฝากให้เพื่อนบ้านช่วยดูแลก่อน ขณะเดียวกัน มีเพื่อนๆ ของน้องเบส หนึ่งในผู้ตาย มาเฝ้าสังเกตการณ์หน้าบ้าน และบางคนก็ร้องไห้เมื่อทราบข่าวเพื่อนเสียชีวิต

สอบถามนางอร อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นย่าของนางสาวหมิว หนึ่งในผู้ตาย บอกว่า นางจรวยพร ผู้ตาย มีลูกสาวสองคน คือ ลูกสาวคนโตที่เป็นแม่ของน้องเบส ไปทำงานค้าขายกับสามีที่กรุงเทพฯ จึงไม่อยู่บ้านในขณะเกิดเหตุ และนางสาวหมิว ลูกสาวคนเล็ก ส่วนน้องเบส ก็เป็นหลานยายและหลานน้า ส่วนผู้ก่อเหตุ คือนายนพดล เป็นอดีตสามีของนางสาวหมิว มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 2 ขวบ

นางสาวหมิว เคยแต่งงานมีสามีมาแล้ว 1 คน มีลูกกับสามีคนก่อน 2 คน แต่เลิกรากันไปนานแล้ว จากนั้นนางสาวหมิวก็มาแต่งงานกับนายนพดล ผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างที่หนองคาย อยู่กินกันมาประมาณ 4-5 ปีโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่ถูกทำร้ายร่างกายเป็นประจำ จนต้องหนีกลับมาอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านขามป้อม แต่สามีมักจะตามมาง้ออยู่เรื่อยๆ เป็นแบบนี้ประมาณ 3-4 ครั้ง  

จนเมื่อประมาณ 10 วันที่ผ่านมา นางสาวหมิวก็หอบลูกสาวกลับมาอยู่กับพ่อแม่อีก และบอกว่าจะเลิกกับสามี ไม่กลับไปอยู่กับสามีอีกแล้ว จนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายนพดล ขับรถมาจากหนองคาย เพื่อมาง้อภรรยาและซื้อขนมมาให้ลูกสาววัย 2 ขวบ แต่ภรรยาไม่ยอมคืนดีด้วย นายนภดลจึงเดินทางกลับไป ส่วนนางสาวหมิว ก็พาลูกสาวย้ายมาอยู่ที่บ้านของพี่สาวคนโต ซึ่งบ้านหลังนี้มีเพียงน้องเบส ที่เป็นหลานชายอาศัยอยู่คนเดียว และอยู่ติดกับบ้านของนางจรวยพร ผู้เป็นยาย

จนกระทั่งเช้าวานนี้ (21 ก.ย.67) นายนพดลกลับมาที่บ้านพ่อแม่ของนางสาวหมิวอีกครั้ง และเข้าไปง้อขอคืนดีกับนางสาวหมิวที่บ้านของน้องเบส แต่คาดว่าง้อไม่สำเร็จ จึงมีปากเสียงทะเลาะกัน แม่ยายเข้าไปห้าม จึงถูกยิงเป็นศพแรก ก่อนจะยิงนางสาวหมิว เป็นศพที่ 2 จากนั้นนายนพดล ก็เดินไปยิงน้องเบส หลานชายที่อยู่ในห้องน้ำ เสียชีวิตเป็นศพที่ 3 ก่อนจะมายิงตัวเองตายข้างศพภรรยา เพื่อหนีความผิด

ด้านนายเวียงชัย อายุ 58 ปี สามีของนางจรวยพร พ่อของนางสาวหมิว บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนออกไปซื้อของในหมู่บ้าน จึงไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านโทรมาบอกว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นที่บ้านหลายนัด จึงรีบโทรแจ้งตำรวจ เมื่อตนขับรถกลับมาถึงบ้าน พบว่าตำรวจมาแล้วและกันไม่ให้ตนเข้าไปในบ้าน ตอนนั้นตนยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ในบ้านเป็นอย่างไร กระทั่งเจ้าหน้าที่เคลียร์พื้นที่และเข้าไปอุ้มหลานสาวตัวน้อยออกมา และบอกว่าหลานไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ภรรยา ลูกสาวและหลานชายวัย 18 ของตน ถูกอดีตลูกเขยยิงเสียชีวิตหมดแล้ว

เชื่อว่าถ้าตอนนั้นตนอยู่ในบ้านด้วย ก็คงถูกยิงเช่นกัน ส่วนสาเหตุเชื่อว่ามาจากการที่นายนพดล พยายามมาง้อขอคืนดีกับภรรยา แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากนายนพดล มักทำร้ายร่างกายลูกสาวของตนเสมอ ถึงขั้นเคยขึ้นศาลมาแล้วที่ จ.หนองคาย ตนก็เคยคิดอยู่แล้วว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะเคยเห็นข่าวในทีวี ก็เตือนลูกสาวบ่อยๆ กระทั่งมาเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ  

พ.ต.อ.พิชัย นาขันดี ผกก.สภ.มัญจาคีรี กล่าวภายหลังตรวจที่เกิดเหตุว่า จากการสอบถามชาวบ้านและญาติฝ่ายครอบครัวผู้ตาย ทราบว่า นายนพดล เป็นอดีตสามีของนางสาวหมิว ที่เลิกกันไปประมาณ 1 ปี แล้ว แต่ฝ่ายชายได้ติดตามมาง้อขอคืนดีบ่อยครั้ง  และที่มาก่อเหตุยิงอดีตภรรยา แม่ยาย และหลานชายของภรรยาเสียชีวิต ก็เพราะหึงหวง เพราะทราบว่า อดีตภรรยามีสามีใหม่ เมื่อง้อขอคืนดีไม่สำเร็จจึงใช้ปืนสั้น 11 มม. ยิงอดีตแม่ยาย อดีตภรรยา และหลานชายของอดีตภรรยา จนเสียชีวิต ก่อนจะยิงตัวตายหนีความผิด นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในรถที่ผู้ก่อเหตุขับมา พบว่ามีอุปกรณ์เสพยาไอซ์จำนวนมากด้วย

ในเวลาต่อมา น.ส.เยาวลักษณ์ อายุ 34 ปี  แม่ของน้องเบส อายุ 18 ปี หนึ่งในเหยื่อมือปืนหึงโหด เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ เพื่อจัดงานศพให้แม่ น้องสาวและลูกชาย

น.ส.เยาวลักษณ์ บอกว่า นายนพดล ผู้ก่อเหตุ อดีตสามีของนางสาวหมิว น้องสาวของตน มักมีนิสัยรุนแรง อารมณ์ร้อน มักพกปืนติดตัวตลอด และทำร้ายร่างกายน้องสาวตนเป็นประจำ จนมีการแจ้งความดำเนินคดีกันที่ จ.หนองคายไปแล้วก่อนหน้านี้ จนกระทั่งน้องสาวตนต้องหนีมาอยู่ที่บ้านพ่อแม่ที่ขอนแก่น

ทั้งนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุการณ์ช่วงเช้าวันที่ 28 มิ.ย.67 นายนพดล ทำร้ายนางสาวหมิว ขณะที่นอนอยู่บนเตียงนอน โดยถีบเข้าที่ขานางสาวหมิว ต่อหน้าต่อตาลูกสาววัย 2 ขวบ โดยที่ลูกสาวก็ยืนเกาะขาแม่ดูการ์ตูนในทีวี จนเท้านายนพดล เกือบจะถีบโดนหน้าลูก หลังจากนั้นนางสาวหมิวลุกขึ้นมาต่อว่านายนพดล ทำให้นายนพดลเดินกลับมาตบนางสาวหมิวอีกหลายครั้ง ซึ่งลูกสาวที่นอนอยู่ใกล้ๆ ก็เห็นภาพพ่อตบตีทำร้ายแม่

นอกจากนี้ พี่สาวยังเปิดเผยข้อความแชทที่นางสาวหมิวส่งถึงนายนพดล ว่าจะไม่กลับไปอยู่กินกับนายนพดลอีกเด็ดขาด  และมีข้อความที่นายนพดลส่งไปหาเพื่อนของนางสาวหมิวว่า “อย่าให้บอยเดือด อย่าให้ไปตามที่ขอนแก่น เพราะถ้าบอยเดือด หมิวน่าจะรู้ว่าจะเป็นอย่างไร”

น.ส.เยาวลักษณ์  ยังบอกอีกว่า น้องเบส ลูกชายของตน ได้โทรผ่านแชทเฟซบุ๊กมาหาตน แต่ตนรับไม่ทัน ลูกชายจึงส่งข้อความมาว่า “แม่ บักบอย มันยิง ตายหมด” ตนจึงรีบโทรหาลูกทันที แต่ลูกไม่รับสาย คิดว่าข้อความนั้น น่าจะเป็นข้อความสุดท้ายของน้องเบสที่ส่งมา ก่อนจะถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งอีกสัปดาห์เดียว ลูกชายจะเรียนจบจะได้รับวุฒิการศึกษาแล้ว แต่ต้องมาจบชีวิตแบบนี้ ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เลย แค่อยู่ในบ้านเกิดเหตุเท่านั้นเอง ตนอยากจะรู้ว่า ใครจะให้ความเป็นธรรมกับลูกชายตนได้บ้าง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/RLPs0yS9fTg