เปิดคำรับสารภาพ รปภ.โหดยิงดับ 3 ศพ อ้างต้นเหตุเกิดจากจะถูกลดบทบาทหน้าที่

จากกรณีที่ นายบุญเลิศ สายสิทธิ์ อดีตหัวหน้า รปภ.ของบริษัท บิลเลี่ยนการ์ด ซึ่งดูแลพื้นที่ของโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งใน ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ใช้อาวุธปืนยิง นายชาคริต นาคประดิษฐ์ ตำแหน่งผู้จัดการ ฝ่ายปฏิบัติการ นายชนรพ ผาดี ตำแหน่งรองผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ นายพิเชษฐ์ เหลืองละมัย ตำแหน่งครูฝึก ซึ่งทั้งหมดเป็นพนักงานของบริษัท เอชอาร์โปร รักษาความปลอดภัย ภายในโรงไฟฟ้าแห่งเดียวกัน เสียชีวิต 3 ราย และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คนคือ นายสาธิต มีวงศ์ อายุประมาณ 50 ปี เป็นพนักงานของบริษัทเอชอาร์โปร ถูกยิงเข้าที่บริเวณท้อง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลดำเนินสะดวก ก่อนที่นายบุญเลิศ สายสิทธิ์ พร้อมกับนายมนต์ชัย อยู่พิพัฒน์ ซึ่งเป็นผู้ที่ถือปืนยาวในลักษณะคุมเชิงและเป็นคนขับรถพานายบุญเลิศหลบหนี


ซึ่งสาเหตุนั้นมาจากที่นายบุญเลิศ เป็นหัวหน้าชุด รปภ.ชุดเก่า ได้ร่วมประชุมหารือกันกับกลุ่มผู้ตาย ซึ่งเป็นกลุ่ม รปภ.ชุดใหม่ เพื่อตกลงกันเกี่ยวกับการทำงาน ความรับผิดชอบ หน้าที่ และค่าตอบแทน แต่การประชุมดังกล่าวไม่ประสบผลสำเร็จ จึงได้เลิกประชุมและออกจากห้องดังกล่าวมาด้านนอก เหตุดังกล่าวทำให้ฝ่าย นายบุญเลิศ รปภ.ชุดเก่าไม่พอใจ และเกิดความโกรธแค้นที่ถูกลดความสำคัญ จึงบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนประจำตัว ขนาด 9 มม. ยิงใส่กลุ่มของฝ่ายผู้ตาย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 1 คน เหตุเกิดบริเวณประตู B ภายในโรงไฟฟ้า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 12 ม.ค.67 ที่ผ่านมา


ซึ่งต่อมา ตำรวจ สภ.ดำเนินสะดวก สามารถติดตามจับกุม นายบุญเลิศ ผู้ก่อเหตุ ได้ในเขต จ.ราชบุรี พร้อมด้วยอาวุธปืนของกลาง ขนาด 9 มม. ที่ใช้ก่อเหตุสังหารผู้ตายกับพวก นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดำเนินสะดวก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย


ความคืบหน้าเมื่อวานนี้ (13 ม.ค.) พ.ต.อ.นนท์ ภักดีพันธ์ ผกก.สภ.ดำเนินสะดวก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนคือ นายบุญเลิศ และนายมนต์ชัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในโรงไฟฟ้า ซึ่งห้ามสื่อเข้าก่อนจะส่งตัวไปฝากขังทันที เนื่องจากติดวันหยุดราชการ


โดยนายบุญเลิศ รับสารภาพถึงสาเหตุที่ลงมือสังหาร เนื่องจากถูกลดบทบาทหน้าที่ จากเดิมเป็นหัวหน้าชุด รปภ. แต่ทางบริษัทใหม่จะให้มาเป็นยามธรรมดา และเงินเดือนเท่ายามธรรมดา โดยได้มีการเจรจาต่อรองหลายรอบ ทำท่าว่าจะยอมตามข้อตกลง แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม ไม่ยอมให้ตามที่ตกลง จึงเกิดบัลดาลโทษะและใช้อาวุธปืนยิงทำให้เสียชีวิตดังกล่าว


ส่วนนายมนต์ชัย อยู่พิพัฒน์ ผู้ที่ถือปืนลูกซองยืนอยู่ในที่เกิดเหตุได้ติดต่อเข้ามอบตัวหลังจากถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนัก พร้อมทั้งให้การว่า เห็นว่ามีปัญหาจึงได้นำเอาอาวุธลูกซอง แต่ไม่ได้ใส่กระสุนไปยืนคุ้มกันให้หัวหน้าเก่า ซึ่งไม่คิดว่าจะเกิดความรุนแรงเกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันพยายามฆ่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนใว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

รับชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/wbORQ6NDxog