พ่อสอนลูกวัย 12 เป็นโจร วางยามอมเหล้า วิ่งราวทรัพย์ 2 ตายาย ฉกบัตรคนจนไปใช้

จากกรณี ตาวัย 74 ปี และยายอายุ 72 ปี อยู่บ้านตามลำพัง ที่ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีคนร้ายทำทีมาเข้ามาพูดคุย จากนั้นคนร้ายได้นำเหล้ามาชวนตากิน ซึ่งตาเป็นคนเก่าแก่ในพื้นที่ ใครผ่านไปผ่านมาก็มักจะแวะทักทายตา เมื่อคนร้ายมาชวนกินเหล้า ตาคิดว่าเป็นลูกหลานคนในหมู่บ้าน จึงได้ร่วมกินด้วย

โดยระหว่างนั่งคุยกัน คนร้ายได้เอามือมาจับตัวยาย พร้อมบอกว่ายายอ้วนจัง คนร้ายเอามือลูบตามตัวยาย หลังจากนั้นสักพัก ตาก็เกิดอาการเพ้อ ยายก็หมดแรง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยคนร้ายได้เงินสดที่เก็บไว้ในตะกร้าชานหมาก จำนวน 8,000 บาท และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO จำนวน 1 เครื่อง เหตุเกิดวันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าเมื่อวานนี้ (11 พ.ย.) ตำรวจสามารถตามรวบตัวคนร้ายได้แล้ว เป็น 2 พ่อ ลูก โดยสามารถจับกุมได้ที่ จ.สระแก้ว เนื่องจากวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 17.30 น. เกิดเหตุคนร้าย ใช้รถจักรยานยนต์ วิ่งราวทรัพย์ ชายและหญิงสูงวัย ในพื้นที่ สภ.ปางสีดา ที่บริเวณ บนถนนสายคลองน้ำเขียว-ท่ากระบาก หมู่ 15 ต.ท่าแยก อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ผู้เสียหายคือ นางละมูล พิงสูงเนิน อายุ 55 ปี ให้การกับตำรวจว่า มีชายสองคนขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนน และกระชากกระเป๋า ก่อนจะขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งในกระเป๋ามีเงินสดอยู่ 4,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

ต่อมา ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้ติดตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุ เป็นชายสูงวัยและเด็กนั่งซ้อนท้าย ขับหลบหนีมุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอเมืองสระแก้ว กระทั่งสืบทราบว่า ผู้ก่อเหตุหลบหนีไปซุกซ่อนอยู่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง จึงวางแผนเข้าจับกุมตัวได้ ที่ห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ศาลาลำดวน อ.เมืองสระแก้ว ทราบชื่อต่อมาคือ นายบุญเยี่ยม ระยับศรี อายุ 41 ปี และ ด.ช.กั๊ก (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 12 ปี โดยทั้งสองคนเป็นพ่อลูกกัน

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในห้องพบของกลางเงินสด 3,400 บาท ซึ่งใช้จ่ายค่าที่พักกับค่าอาหาร กับโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยอ้างว่า อีก 1 เครื่องโยนทิ้งไปแล้ว จึงคุมตัวกลับมาที่ สภ.ปางสีดา เพื่อแจ้งข้อหาว่า ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด ก่อนนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ปางสีดา ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการขยายผลพบว่า 2 พ่อลูก เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ วางยา 2 ตา ยาย จนหมดสติ ในพื้นที่ สภ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 30 ต.ค.

โดยหลังเกิดเหตุ ตำรวจชุดสืบภูธรฉะเชิงเทราสืบทราบว่า คนร้ายมีการนำบัตรสวัสดิการประชารัฐ และโทรศัพท์ ของคุณตา และคุณยาย ไปใช้ในพื้นที่ สภ.สนามชัยเขต และ สภ.แปลงยาว กระทั่งคนร้ายได้นำรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟดำแดงที่ขโมยมาจาก จ.นครราชสีมา มาก่อเหตุดังกล่าว นำไปขายเปลี่ยนมือที่ ร้านซ่อมแห่งหนึ่งในพื้นที่ กม.1 ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จนสามารถตามนำรถคันก่อเหตุมาไว้ที่ สภ.ท่าตะเกียบ และจนสืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ ได้หลบหนีไปยังพื้นที่ จ.บุรีรัมย์

ต่อมาเจ้าหน้าที่นำกำลังติดตามไปเพื่อทำการจับกุม ขณะที่เดินทาง พบว่าคนร้ายได้หลบหนีมายังพื้นที่ ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว จึงได้ประสานกำลังสืบสวน จ.สระแก้ว ซึ่งขณะนั้นกำลังติดตามคนร้าย ที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ได้เงินจำนวน 4,000 และโทรศัพท์ 2 เครื่อง โดยมีตำหนิรูปพรรณคนร้าย และยานพาหนะรถจักรยานยนต์สีน้ำเงินที่คนร้ายเอาคันสีแดงไปขายแรกมาจากที่ อ.สนามชัยเขต ตรงกันกับคนร้ายวางยาสองตายาย

จึงร่วมปฏิบัติการค้นหา จนกระทั่งพบว่า คนร้ายทราบชื่อคือนายนายบุญเยี่ยม ระยับศรี ในคดีได้หลบซ่อน โดยเช่ารีสอร์ท ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว จนเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมดังกล่าว

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้คำรับสารภาพว่าลักทรัพย์แต่ไม่ได้วางยา เป็นเพียงนั่งดื่มสุราขาวกันจนน็อกไปเอง พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

สำหรับคนร้ายในคดีนี้ จากการตรวจสอบประวัติการก่อเหตุ เบื้องต้น พบว่า ในเดือน ต.ค.66 ได้เคยก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ จากพื้นที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา และจาก อ.เมือง จ.สุรินทร์ ก่อเหตุในหลายพื้นที่มาก

ขณะที่ทางด้านด้านนายบัญชา หนองนา ลูกชายคุณยาย และเป็นหลานคุณตา ก็ได้กล่าวขอบคุณตำรวจทุกนายที่สามารถตามจับคนร้ายได้ ส่วนอาการยายดีขึ้นมาก และคุณตายังนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธโสธร

ในเบื้องต้น คนร้ายจะถูกดำเนินคดีที่ สภ.ปางสีดา (ข้อหาวิ่งราวทรัพย์) และหมายจับในคดีที่ อ.ท่าตะเกียบ นครราชสีมา และสุรินทร์ จะอายัดตัวดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/Eu7YB3EheJE