อาชญากรรม

รวบ 'อดีตพระอาจารย์คม' และพวก ยักยอกเงินวัด 180 ล้าน เสพเมถุน - เพจวัดป่าธรรมคีรี ปลิวแล้ว

โดย passamon_a

7 พ.ค. 2566

788 views

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ มีการแชร์หนังสือคำสั่งเจ้าคณะตำบลปากช่อง (ธรรมยุต) สั่งการเจ้าอาวาสวัดวชิราลงกรณวราราม ดำรงตำแหน่ง รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม และมีรายงานว่า พระวชิรญาณโกศล วิ. (คม อภิวโร) หรือพระอาจารย์คม เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี (จันดีอนุสรณ์) จ.นครราชสีมา พระวิทยากรหนุ่มชื่อดัง ได้รับกิจนิมนต์เข้ามาในกรุงเทพฯ และถูกขอให้ลาสิกขา โดยทำพิธีสึกที่วัดในกรุงเทพฯ ก่อนที่จะหายตัวไปทันที


เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้เข้าทำการจับกุม อดีตพระวชิรญาณโกศล วิ. (คม อภิวโร) หรือพระอาจารย์คม ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานสนับสนุนให้เกิดกระทำการทุจริต ซึ่งมีความเสียหายที่พบในขณะนี้ประมาณ 180 ล้านบาท


ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม นำโดย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. และนายอินทพร จั่นเอี่ยม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แถลงข่าวจับกุม นายคม หรืออดีตพระอาจารย์คม อดีตประธานฝ่ายสงฆ์วัดป่าธรรมคีรี, นายวุฒิมา หรืออดีตพระหมอ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี และ น.ส.จุฑาทิพย์ น้องสาวของนายคม 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและพฤติไม่ชอบกลาง ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 ในคดียักยอกเงินวัดกว่า 180 ล้านบาท


สำหรับพฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายคม หรือพระอาจารย์คม ประธานฝ่ายสงฆ์ของวัดป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่ามีการทุจริตเงินวัดหรือไม่อย่างไรนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการสืบสวนและเข้าทำการตรวจสอบภายในวัด ตามข้อร้องเรียนดังกล่าว พบว่าพระอาจารย์คม ผู้ต้องหา ในคดีนี้เป็นพระผู้ดูแลการใช้จ่ายเงินต่าง ๆ ของวัด รวมถึงเงินที่ญาติโยมมีจิตศรัทธาร่วมทำบุญกับทางวัดร่วมกับเจ้าอาวาสวัด (พระหมอ) มีพฤติการณ์นำเงินทำบุญบางส่วนของวัดไปใช้จ่ายส่วนตัว โดยสั่งการให้เจ้าอาวาสนำเงินสดไปมอบให้ น.ส.จุฑาทิพย์ น้องสาวของตน เพื่อฝากเข้าบัญชีธนาคาร


ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า ได้นำเงินของวัดออกมาจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนเพิ่มเติม และเข้าค้นบ้านพักของ น.ส.จุฑาทิพย์ น้องสาวของผู้ต้องหา พบเงินสดกว่า 51 ล้านบาท ที่ถูกเก็บไว้ในลังโฟมและกระเป๋าเดินทางในบ้านพักดังกล่าว และพบเงินวัดที่อยู่ในบัญชีเบื้องต้นกว่า 130 ล้านบาท รวมยอดกว่า 180 ล้านบาท


ในส่วนของพฤติการณ์อื่น ยังปรากฏข้อเท็จจริงที่ทางผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเพิ่มเติมอีกว่า ในระหว่างที่ถือสมณเพศนั้น ได้มีการเสพเมถุนภายในกุฏิของวัดซึ่งถือเป็นการอาบัติปาราชิก ตามข้อบัญญัติทางธรรมวินัยอีกส่วนหนึ่ง ทางผู้ต้องหาจึงสมัครใจที่จะลาสิกขา


พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับร้องเรียนว่า นายคมและนายวุฒิมา มีพฤติการณ์เสพเมถุน และยักยอกทรัพย์ภายในวัดป่าธรรมคีรี จึงได้ร่วมกับทางตำรวจปราบปรามเข้าทำการตรวจสอบ พบว่าอดีตพระทั้งสองมีพฤติการณ์ตามที่ได้แจ้งจริง จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับและเข้าจับกุมเมื่อวานนี้ (6 พ.ค.) โดยนายคมจับกุมได้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่วนนายวุฒิมาจับกุมได้ที่ จ.นครราชสีมา ส่วนเงินดังกล่าวยักยอกมาจากโครงการต่าง ๆ ทั้งการสร้างเจดีย์ มีการเบิกถอนจากบัญชีต่าง ๆ


ส่วนประเด็นอื่น ๆ ที่เข้าข่ายมาตรา 112 นั้น พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า ยังไม่พบความผิดนี้ แต่ว่ามีลักษณะชอบเพศเดียวกัน พฤติกรรมชายรักชาย นอกจาก นายคม พระหมอ ยังมีพระรูปอื่น รวมแล้วประมาณ 4 รูป แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของคณะสงฆ์ ไม่เกี่ยวกับตำรวจ


ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จึงถูกแจ้งข้อหาดังต่อไปนี้

- นายคม ถูกแจ้งข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และข้อหาเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบตามมาตรา 157

- นายวุฒิมา ถูกแจ้งข้อหาเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และข้อหาเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบตามมาตรา 157

- น.ส.จุฑาทิพย์ ถูกแจ้งข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบตามมาตรา 157 และข้อหารับของโจร


ด้าน นายอินทพร จั่นเอี่ยม รอง ผอ.รักษาราชการแทน ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า อดีตพระทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ในระหว่างที่ถือสมณเพศได้ร่วมเสพเมถุนรักร่วมเพศกันจริง ซึ่งถือว่าเป็นการอาบัติปาราชิกขัดต่อพระธรรมวินัย จึงทำให้อดีตพระทั้งสองดำเนินการลาสิกขาบทไป ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนจะมีพระรูปอื่นร่วมขบวนการยักยอกเงินวัดอีกหรือไม่นั้น อยู่ในระหว่างการตรวจสอบขยายผลเพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 เบื้องต้นยังไม่พบพฤติการณ์แอบอ้างเบื้องสูงอันจะเข้าข่ายความผิด ม.112


พล.ต.ต.มนตรี กล่าวเสริมว่า สำหรับบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับพระอาจารย์คม ก็มีทั้งพระหมอ ขณะที่พระองค์อื่นทราบว่าได้ลาสิกขาไปแล้ว หากสอบสวนและพบว่ามีความผิดทางอาญา จะดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรงไปตรงมาตามกฎหมาย เบื้องต้นพบผู้กระทำผิด 3 คน แต่จะมีผู้ร่วมกระทำผิดอีกหรือไม่ ก็ยังต้องดำเนินการต่อไป


ทั้งนี้ ยังได้นำของกลาง คือกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ กระเป๋าอลูมิเนียม 2 ใบ และลังโฟมอีก 2 ลังซึ่งภายใน บรรจุธนบัตรราคาต่างๆ รวมมูลค่ามากกว่า 180 ล้านบาท กับสมุดบัญชีธนาคารอีก 5 เล่ม ที่สามารถตรวจยึดได้ มาจัดแสดงประกอบการแถลงข่าว


ซึ่งขณะนี้ตัวของพระคม และพระหมอนั้น ถูกควบคุมตัวอยู่ที่กองปราบปราม และในวันจันทร์ที่ 8 พ.ค.66 จะควบคุมตัวไปฝากขังต่อศาลอาญา พร้อมคัดค้านการประกันตัว



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Q6VUgd87hQk

คุณอาจสนใจ

Related News