รวบแล้ว! หนุ่มฆ่าปาดคอสาวโรงงาน อ้างจะมาของานทำ แต่เห็นผู้ตายใส่ทองล่อตาล่อใจ

จากกรณีที่มีคนร้ายบุกเข้าไปฆ่าปาดคอสาวในห้องพักย่านพักประแดง ซึ่งพบว่าลงมือก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมและมีทรัพยสินหลายรายการหายไปทั้งเงินสดและทองรูปพรรณ เหตุเกิดเช้ามืดของวันที่13 เมษายน 66 ที่ผ่านมา



ความคืบหน้าวานนี้ (15 เม.ย.) พันตำรวจเอกโชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ หัวหน้าทีมคลี่คลายคดี พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมกันจับกุมตัว นาย นิรันดร์ ธรรมทวี อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดศีรสะเกษ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาฆ่าปาดคอ นางสาววารินทร์ เสือมาก ที่เสียชีวิตภายในห้องพักย่านอำเภอพระประแดง ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามไปจับกุม ตัวคนร้ายรายนี้ได้ที่ห้องเช่าใกล้เคียง สภ.บางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการเมื่อช่วงเย็น



โดยจากการตรวจสอบภายในห้องพักยังพบสร้อยคอทองคำของผู้ตาย และเงินสดบางส่วนที่เหลือจากการขายข้อมือทองคำ ตำรวจจึงสอบขยายผล ซึ่งเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุจริง จากนั้นรับสารภาพว่าได้นำกระเป๋าเป้ภายในมีสิ่งของที่ใช้ก่อเหตุไปโยนทิ้งในป่าหญ้าริมบ่อปลา ในหมู่ที่ 5 ตำบลบางเพรียง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ตำรวจจึงคุมตัวมาชี้จุดที่ซ่อนกระเป๋าเป้ในเวลาต่อมา ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยและป้องกันผู้ต้องหาหลบหนี อย่างเข้มงวด



ซึ่งจากการตรวจสอบกระเป๋าเป้สะพายสีดำหลังที่ผู้ต้องหารายนี้นำมาโยนทิ้ง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้น พบเจอทั้งตลับใส่ทอง กระเป๋าสตางค์ของผู้ตาย รวมถึงกระเป๋าใส่เอกสาร ซึ่งจากการตรวจสอบพบบัตรประชาชนของผู้ตายอยู่ด้วย นอกจากนั้น ยังมีมีดพับยาวประมาณ 10 นิ้ว รวมด้าม ซุกซ่อนในกระเป๋าเป้ดังกล่าวด้วย ในสภาพที่มีดยังเปื้อนเลือดของผู้ตาย รวมถึงเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่ในวันก่อเหตุ อีกทั้งยังมีคราบเลือดและกลิ่นเหม็นคราวเลือดฟุ้งกระจาย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจึงรวบรวมทั้งหมดไปตรวจสอบอีกครั้ง



นายนิรันดร์ หรือนิด ผู้ต้องหารายนี้ให้การด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ตนเองลงมือทำไป เจ้าตัวบอกว่า ยอมรับว่าก่อเหตุจริง โดยปีนเข้าจากด้านหลังห้องพัก เพื่อจะเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ เพราะเข้าใจว่าตอนนั้นไม่มีใครอยู่ในห้อง แต่พอเข้าไปตอนแรกมองไม่เห็นคน พอตนเองรื้อสิ่งของ ทำให้คนตายสะดุ้งตื่นขึ้นมายืนจ้องมองตนเอง ตนเองจึงชักมีดที่พกติดตัวมาด้วยข่มขู่ว่าอย่างร้องเสียงดัง



แต่ผู้ตายเอามือมากำที่มีดจนถูกบาด จังหวะนั้นตนจึงจ้วงแทงผู้ตายไปหลายครั้ง ก่อนจะปาดคอซ้ำ เพื่อหวังปิดปาก จากนั้นก็รื้อค้นเอาทรัพย์สินภายในห้องทั้งหมดหลบหนีออกมา หลังจากเกิดเหตุได้เอาสร้อยข้อมือทองคำไปขายได้เงินมาหกหมื่นบาท ใช้จ่ายไปบ้างแล้วจนเหลือเงินประมาณสี่หมื่นบาท และไปเปิดห้องเช่าที่บางเสาธง กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปและตามจับกุมดังกล่าว



ด้านพันตำรวจเอกโชติวัฒน์ บอกว่า หลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว จึงมีการแบ่งทีมการทำงาน ใช้ทุกมิติของการทำงานตำรวจ ระดมทีมชุดสืบฝีมือดีแบ่งกันทำงาน กระทั่งได้ผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จาก พิสูจน์หลักฐานที่ค่อนข้างเร็วจึงทำให้สามารถทราบตัวผู้ต้องหารายนี้ จากนั้นจึงกระจายกำลังควานหาตัวจนกระทั่งไปจับกุมตัวได้ดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมา ผู้ต้องหารายนี้ เคยรู้จักกับคนตายมาก่อน และเคยเป็นช่างที่ตึกเกิดเหตุ จึงรู้ทุกซอกทุกมุม



อีกทั้งก่อนหน้านี้ เคยพักอยู่ที่ห้องติดกันกับผู้ตาย ปัจจุบันห้องดังกล่าวเป็นห้องร้าง ทำให้คนร้ายรายนี้รู้ช่องทางลงมือก่อเหตุ อีกทั้งผู้ต้องหาเคยทำงานที่เดียวกับคนตาย และรู้ว่าคนตายมีความสนิทสนมกับเจ้าของโรงงาน จึงย้อนกลับมาอ้างว่าจะมาขอให้คนตายฝากงานให้ทำ แต่ตนเองไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากพฤติกรรมแล้ว เชื่อว่ามีการวางแผนมาเป็นอย่างเป็นระบบก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ ส่วนแรงจูงใจ มาจากที่ผู้ตายใส่ทองค่อนข้างเยอะ ซึ่งหลังจากนี้จะขยายผลต่อและคาดว่าจะนำตัวไปทำแผนในวันนี้ (16 เม.ย.)

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/d6ZGDX_0VRM