อาชญากรรม
งามไส้! จับ 3 ตร.คาห้องสืบสวน รีดเงิน 5 แสนผู้ต้องหาคดียาเสพติดแลกอิสรภาพ ซัดร่วมขบวนการอีก 8 นาย
โดย petchpawee_k
25 มี.ค. 2566
4.7K views
วันที่ 24 มี.ค.66 มีรายงานข่าวว่า วิทยุสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รายงานเหตุด่วนจาก พ.ต.อ.อิทธิเดช สุนทร ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธ์ ว่าเมื่อวันที่ 23 มี.ค.66 เวลาประมาณ 07.30 น. พ.ต.อ.เกษม มุฑาพร ผกก.สส.ภ.จว.ภาฬสินธุ์ได้รับแจ้งจาก นางมณีรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) ว่า นายทวีศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นพี่ชาย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการใด จับกุมตัวมา พร้อมของกลางยาบ้า 2,000 เม็ด
ต่อมาชุดจับกุมดังกล่าวได้ติดต่อมาหา นางมณีรัตน์ โดยบอกว่าให้นำ 500,000 บาท มาให้เพื่อแลกกับการไม่ให้จับกุมตัว นายทวีศักดิ์ ถ้าไม่มาจะส่งดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน จากนั้น นางมณีรัตน์ ได้เจรจาต่อรองลดลงเหลือ 400,000 บาท ซึ่งนางมณีรัตน์ ตอบตกลงที่จะนำเงินมาส่งมอบให้บริเวณหลัง สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ภายในเวลา 09.00 น.
เมื่อทราบดังนั้น นางมณีรัตน์ ก็ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปลงประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานที่ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้วางแผนที่จะจับกุม โดยตกลงกันว่าให้ นางมณีรัตน์ นำกระเป๋าซึ่งภายในบรรจุเงินจำนวนดังกล่าวไปมอบให้บุคคลตามที่ตกลงกัน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ยืนดูสังเกตการณ์อยู่บริเวณลานจอดรถด้านหลัง สภ.เมืองกาฬสินธุ์
เมื่อรับมอบเงินกันเสร็จแล้ว นางมณีรัตน์ จะส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าตรวจจับกุม เมื่อ นางมณีรัตน์ เดินทางมาถึงหลัง สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาเรียกพาเข้าไปห้องปฏิบัติการสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ประมาณ 10 นาที ก็ได้เดินทางออกมา
จากนั้นผู้เสียหายจึงได้โทรศัพท์แจ้งให้ พ.ต.อ.เกษม ทราบว่า ได้ส่งมอบเงินให้ผู้ต้องหาพร้อมพวกแล้ว หลังจากนั้น พ.ต.อ.เกษม ได้เข้าไปที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย คือ ตำรวจยศ “ด.ต.” อายุ 27 ปี, ตำรวจยศ “ส.ต.อ.” อายุ 30 ปี และ ตำรวจยศ “ส.ต.อ.” อายุ 27 ปี
จากการสอบถามว่า ผู้ต้องหาชื่อนายทวีศักดิ์ อยู่ที่ใด ตำรวจทั้งหมดแจ้งว่าให้กลับบ้านแล้ว และได้ตรวจยึดกระเป๋าเงินพร้อมธนบัตรจำนวน 364,700 บาท ไว้เป็นของกลาง จากนั้น พ.ต.อ.เกษม ได้สอบถามว่ามีใครร่วมรู้เห็นและกระทำผิดในครั้งนี้ ซึ่งผู้ต้องหาให้การตรงกันว่ามีผู้ร่วมรู้เห็นและการกระทำในครั้งนี้อีก 8 นาย ประกอบด้วย นายตำรวจยศ “ร.ต.อ.”, นายตำรวจยศ “ร.ต.ท.”, ตำรวจยศ “ด.ต.” 2 นาย, ตำรวจยศ “จ.ส.ต.” 3 นาย และตำรวจยศ “ส.ต.อ.” อีก 1 นาย
เบื้องต้น พ.ต.อ.เกษม ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 นาย ทราบว่า “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าหนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ก่อนได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องพร้อมของกลาง ส่ง พงส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุด พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
โดยกำชับให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดและรายงานผลให้ทราบโดยเร็วที่สุดเนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เสียภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำฝ่าฝืนขัดคำสั่งทั้งที่มีการกำชับเน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติหน้าที่มาโดยตลอด รวมทั้งผู้บังคับบัญชาจะต้องมีส่วนรับผิดชอบในเหตุการณ์ต่างๆเพราะเป็นเรื่องการกวดขันวินัยและกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาดังนั้น ผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องจะต้องมีส่วนรับผิดชอบ ส่วนจะมีผลอย่างไรขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
แท็กที่เกี่ยวข้อง ตร.รีดเงิน ,รีดเงินผู้ต้องหา ,คดียาเสพติด ,ตำรวจรีดเงิน ,ให้ออกจากราชการ