หญิงวัย 58 อ้างยากจนถูกหลอกเปิดบัญชีม้าแลกเงิน 400 เลี้ยงหลาน เพื่อนบ้านแฉ ทำมาแล้วหลายครั้ง

หญิงวัย 58 ปี อาชีพเก็บของเก่าขายถูกหมายเรียกเป็นผู้ต้องหาคดีบัญชีม้าอ้างถูกเพื่อนบ้านหลอก วอนผู้รู้กฎหมายช่วยคดี ขณะที่เพื่อนบ้านออกมาโต้ สาวใหญ่รายนี้ไม่ได้ใส ไม่ได้ทำครั้งแรก ที่ผ่านมาไม่เคยโดนคดีเลยย่ามใจ

ที่ จ.อุบลราชธานี ในพื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี และ อำเภอวารินชำราบ ได้มีกลุ่มขบวนการรับซื้อและขาย บัญชีม้าเพื่อนำไปใช้ในการฉ้อโกงและเล่นการพนันในประเทศเพื่อนบ้านผ่านทางเฟสบุ๊ก  มีผู้ที่ถูกว่าจ้างให้เปิดบัญชีจำนวนมากส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีรายได้น้อย

 ล่าสุดนางประยงค์ อายุ 58 ปี ชาวอำเภอวารินชำราบ มีอาชีพเก็บของเก่าขาย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรม และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุบลราชธานี ภายหลังได้รับหมายเรียกผู้ต้องหาจาก สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ ในคดีฉ้อโกง (บัญชีม้า) ให้ไปรายงานตัวพร้อมรายการเดินบัญชีย้อนหลังของธนาคาร ทีทีบี เมื่อวันที่ 7 มีนานคม ที่ผ่านมา

นางประยงค์ นางประยงค์เปิดเผยว่า ตนเองมีอาชีพเก็บของเก่าขายฐานะยากจน เมื่อประมาณเดือนมกราคม 66 มีนางสาวเก๋ (นามสมมุติ) เพื่อนบ้านเข้ามาสอบถามว่าอยากได้เงิน 400 ไหมตนเองด้วยความที่ไม่มี และวันนั้นตนเก็บของเก่าได้ครึ่งคันรถเข็นจึงได้ตอบว่าอยากได้ โดยนางสาวเก๋เพื่อนบ้านรายนี้ก็ได้นำข้อมูลส่วนตัวของตนกรอกลงไปในโทรศัพท์มือถือ เพื่อเปิดบัญชีแล้วก็พาไปที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อสแกนหน้า  เสร็จก็เอาเงินให้ตน 400 บาท เงินที่ได้มาตนก็ไปซื้อข้าวสารและอาหารมาให้หลาน 7 คน กินไม่ได้เอาไปทำอย่างอื่น

ต่อมาตนก็ได้รับหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมาทราบว่าบัญชีที่เปิดไปถูกเอาไปหลอกคนอื่น ซึ่งตนเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าจะเอาไปทำเรื่องไม่ดีแบบนี้ ที่ผ่านมาตนเองก็ไม่รู้เรื่องบัญชีม้า ไม่ได้ติดตามข่าว ตอนนี้ลำบากมากเพราะไม่รู้จะไปพบตำรวจอย่างไร เงินก็ไม่มี หลานที่ต้องดูแลอีก 7 คน ลูกๆก็แยกกันไปมีครอบครัวจึงต้องไปขอความช่วยเหลือจากทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุบลราชธานี ผู้ที่มีความรู้ทางกฎหมายมาช่วยเหลือ


ด้านนางสาวเก๋ เพื่อนบ้านที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นผู้ว่าจ้างให้นางประยงค์ เปิดบัญชีม้าออกมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องดังกล่าวเริ่มจากลูกสาวของนางประยงค์ที่ติดต่อมาให้หาที่เปิดบัญชีให้นางประยงค์ เพราะธนาคารอื่นไปเปิดมาหมดแล้ว  ตนจึงได้เดินทางขึ้นไปหานางประยงค์ที่บ้าน แต่ทั้งนี้นางสาวเก๋ยืนยันว่าเป็นเพราะลูกสาวนางประยงค์เองที่เป็นคนให้ตนไปทำ เพราะตัวลูกสาวนางประยงค์สแกนใบหน้าไม่ผ่าน จึงได้ให้นางประยงค์เป็นคนเปิดบัญชีแทน นางสาวเก๋เป็นตัวกลางที่พาไปดำเนินการยืนยันตัวสแกนใบหน้าที่ร้านสะดวกซื้อ เสร็จแล้วนางสาวเก๋ได้ส่งให้คนที่รับซื้อทางเฟสบุ๊ก ซึ่งก็เป็นคนในพื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี โดยให้ค่าจ้างกับนางประยงค์ 400 บาท

ส่วนกรณีที่นางประยงค์บอกไม่รู้เรื่องโดนหลอกนั้นไม่เป็นความจริง นางประยงค์รู้เรื่องทุกอย่างเปิดมาแล้ว 5 ธนาคารไม่ได้ใสซื่ออย่างที่เห็น ที่ตนออกมาพูดเพราะนางประยงค์จะมาโยนให้ตนว่าไปหลอก  ตนไม่ได้หลอก ตนเองก็ได้ค่านายหน้าแค่ 100 บาท หลังจากที่ทำให้นางประยงค์แล้วก็ไม่ได้ทำอีก ชาวบ้านที่เปิดบัญชีลักษณะเดียวกับนางประยงค์เมื่อรู้ข่าวว่านางประยงค์ มีหมายเรียกถูกดำเนินคดีต่างก็ทยอยไปปิดบัญชีทำให้นายทุนที่รับซื้อมาหาตนแล้วให้พูดความจริงที่เกิดขึ้น

ด้าน นางสาวธัญทิพย์ ยศกฤตวิทย์สกุล ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่าหลังจากที่รับเรื่องจากนางประยงค์แล้วได้มีการสอบคำให้การและได้ประสานไปยังพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ ขอขยายเวลาการให้ปากคำตามหมายเรียกออกไป  และขอให้มีการส่งประเด็นคำถามประกอบสำนวนมายัง สภ.วารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ให้ทำการสอบสวนแทนส่วนเรื่องของคดีก็ให้ว่าไปตามกระบวนการพยานหลักฐาน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Rxcg_yiuJwE