อาชญากรรม
มอบตัวแล้ว! สาวเรียกโบลท์หลอกลุงวัย 74 ขับไปส่งหมอชิต ก่อนเชิดรถหนี ญาติอ้างหลานป่วยจิตเวช ไม่เจตนา
โดย petchpawee_k
11 ก.พ. 2566
38 views
วานนี้ (วันที่ 10 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีเฟซบุ๊กชื่อ yai jaran yana ได้โพสต์ภาพและข้อความว่า “ขอรบกวน เพื่อนๆพี่ๆน้องๆในเฟซบุ๊กผมหน่อยนะครับ เมื่อวานช่วงเย็นพ่อผมได้ขับรถรับจ้าง รับลูกค้าจากปั๊มปตท. บายพาส ชลบุรี จะไปส่งที่หมอชิต กรุงเทพ ช่วงลงด่านพระราม 4 ลูกค้าได้แสดงตัวว่าจะชิงรถและทรัพย์สิน จึงมีการต่อสู้ยื้อแย่งกุญแจรถ ซึ่งพ่อสู้ไม่ไหว จึงโดนทำร้ายและลากออกจากรถ หลังจากนั้นคนร้ายได้ขับรถหนีไป
จึงอยากขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆที่อยู่กรุงเทพ ว่าถ้าพบเจอรถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีดำ ทะเบียนชลบุรี บริเวณไหน รบกวนให้ช่วยแจ้งเบาะแสมาที่ผมด้วยครับ ใหญ่ครับ ส่วนอาการของพ่อปลอดภัยแล้วครับแต่ยังเดินไม่ได้ เนื่องจากเข่าและแขนโดนลากไปกับพื้นถนน และได้แจ้งความไว้ที่ สน.ลุมพินี เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ขอบพระคุณครับ”
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ห้องแถว ม.1 ต. หนองข้างคอก อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ได้พบกับคุณลุงมงคลรัตน์ ญานะ 74 ปี และนางเพ็ญจันทร์ ญานะ อายุ 73 ปี สองสามีภรรยา
โดยนายมงคลรัตน์ เล่าว่า ตนมีอาชีพขับโบลท์ โดยเมื่อวันที่ 9 ก.พ. เวลา 15.00 น. มีผู้โดยสาร ได้โทรผ่านบริษัท ทางบริษัท ก็ได้สั่งงานผ่านตนว่ามีลูกค้า ให้ไปรับบริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณบายพาสเลี่ยงเมืองชลบุรี ให้ไปส่งหมอชิต ทางตนจึงได้ขับรถออกไปรับตามปกติ
เมื่อมาถึง พบว่าลูกค้าเป็นผู้หญิง อายุประมาณ 30 ปี เมื่อตนพบลูกค้า ลูกค้าบอกว่าเดี่ยวขับให้เองก็ได้ เพราะเห็นว่าตนมีอายุให้นั่งไปเฉยๆ ทางตนก็เห็นว่าเป็นผู้หญิงก็ไม่ได้คิดอะไร ก็เลยให้ขับไป พอขับมาได้กลางทาง ทางคนร้ายก็บอกว่า จะให้ตนไปส่งเชียงใหม่ โดยจะให้ค่าจ้าง 3 หมื่น
ตนรู้สึกว่าไม่ค่อยดีแล้ว ระหว่างทางตนก็หาทางที่จะแย่งกุญแจ จนสบโอกาสเมื่อไปถึงช่วงแยกคลองตัน ซึ่งมีรถติด ตนจึงเอื้อมมือไปปิดกุญแจและดึงออก จนเกิดการยื้อแย่งกันในรถ โดยที่คนข้างนอกเห็นก็คิดว่าเป็นผัวเมียทะเลาะกัน จึงไม่มีใครสนใจ จากนั้นคนร้ายก็เปิดประตูฝั่งตนแล้วก็ผลักตนตกจากรถ จนมีร่องรอยบาดแผลทั้งขา หัวเข่าและหัวไหล่ แต่ก็โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก
ส่วนหญิงรายนี้ ขับรถหลบหนีไป พร้อมกับทรัพย์สินของตน และโทรศัพท์มือถือ ทิ้งให้ตนไว้กลางถนน ก่อนมีเจ้าหน้าที่ของการทางพิเศษ ขี่รถขึ้นมารับตน ก่อนที่จะพามาที่ สน.ทางด่วน 1 แล้วจึงมีเจ้าหน้าที่พาไปแจ้งความที่ สน.ลุมพินี
ตนอยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามจับคนร้ายและตามรถมาคืนตน เพราะตนมีรถคันเดียว ต้องใช้ทำมาหากิน ซึ่งตนก็อยู่กันสองคนตายยายกับภรรยา อยากฝากเตือนเพื่อนร่วมอาชีพขับรถให้ระวัง มิจฉาชีพ มาในทุกรูปแบบไม่ว่าหญิงหรือชาย แล้วพวกนี้ก็ไม่คำนึงเหยื่อว่าจะแก่ไม่แก่เขาลงมือก่อเหตุหมด
ด้านนางเพ็ญจันทร์ ภรรยา บอกว่าคนร้ายใจร้ายมาก ขนาดเป็นผู้หญิงยังทำกับคนแก่ได้ลงคอ ทำไมไม่นึกถึงว่าถ้าเป็นพ่อเป็นแม่เขาแล้วจะรู้สึกอย่างไร อยากจะให้ตำรวจตามจับตัวมาให้ได้อยากเห็นหน้า
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สน.ทางด่วน 1 และได้พูดคุยกับ ร้อยตำรวจโท อาทร หานาวี รองสารวัตรจราจร สน.ทางด่วน 1 เล่าว่าเมื่อวานนี้ คุณลุงถูกคนร้ายชิงรถยนต์ที่บนทางด่วน ช่วงก่อนขึ้นเนินเพลินจิต บ่อนไก่ โดยมีการยื้อแย่งกุญแจรถกันก่อนที่คุณลุงจะเสียหลัก และถูกทิ้งไว้ลำพังบนด่วน
ส่วนรถของคุณลุงถูกหญิงที่เป็นคนร้ายขับไปลงบริเวณทางด่วนดินแดง ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 3-4 กิโลเมตร หลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่การทางพิเศษ ได้รับแจ้งเหตุ รีบขี่รถไปช่วยเหลือ และพาคุณลุงมาที่ สน.ทางด่วน 1 จากนั้นตนเองจึงพาคุณลุงซ้อนท้ายรถไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.ลุมพินี
ขณะที่ผู้สื่อข่าว ได้ลองไปตามหากล้องวงจรปิดของเอกชน ที่อยู่ตามเส้นทางลงด่วนที่พอเป็นไปได้ ตามคำให้การของผู้เสียหาย ทั้งทางลงด่วน คือ บริเวณประตูน้ำคลองตัน แต่เมื่อไปตรวจสอบดู พบว่าบริเวณทางลงด่วนดังกล่าว มีกล้องเอกชนไม่มากนัก มีร้านค้าอยู่ 1 ร้านที่พอจะมีวงจรปิดซึ่งหันออกไปยังถนน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวลองขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของร้าน ในช่วงเวลาก่อน และหลังเกิดเหตุ แต่ยังไม่พบรถคันที่ถูกเอาไป
ขณะที่ทางคดี ได้สอบถามไปที่ พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างลงพื้นที่แกะรอย ตามหารถยนต์คันดังกล่าว เบื้องต้นพอจะมีเบาะแสบ้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ และหลังจากนี้จะมีการประสานเชิญตัวผู้เสียหาย มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป
ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ Yai Jaran Yana ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “วันนี้ใหญ่วุ่นๆกับการเดินเรื่องให้พ่อ ก็เลยไม่ได้ตอบคอมเม้นต์เพื่อนๆพี่ๆทุกคนที่ห่วงใยคุณพ่อครับ และใหญ่ขอกราบขอบพระคุณทุกๆท่าน ที่ช่วยแชร์โพสของใหญ่ให้อย่างมากมายเลยครับ ตอนนี้มีสำนักข่าวท้องถิ่น และสำนักข่าวใหญ่ๆเดินทางมาสัมภาษณ์ คุณพ่อที่บ้าน มีพี่ๆทหารที่อยู่ชายแดนทักมาให้กำลังใจ และแจ้งว่าจะช่วยดูรถให้ ไม่รู้จะขอบพระคุณบุญคุณนี้ยังไงหมดครับ
ที่ใหญ่โพสต์เพียงเพราะสงสารพ่อ อุส่าห์เก็บเงินตั้งนานเพื่อซื้อรถมือ 2 ที่อยากได้ ไว้ทำอาชีพสุจริต แต่ก็มาโดนคนร้ายในคราบลูกค้าชิงทั้งรถและทำร้ายร่างกาย อยากให้พ่อได้เจอรถของท่าน ได้เอากลับมาทำมาหากิน แต่ถ้าสุดท้ายไม่เจอก็คงได้แต่ทำใจครับ ชีวิตพ่อสำคัญกว่าสิ่งใด แค่พ่อยังมีชีวิตอยู่ก็ดีใจมากแล้ว อีกไม่นานเราก็ต้องหาใหม่ได้ครับ .... ขอบคุณด้วยใจจริงครับ”
ทั้งนี้หลังจากที่เพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้มีการนำเสนอข่าวดังกล่าวออกไป มีลูกเพจ เข้ามาคอมเมนต์เสนอความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นว่า “ถ้ามีการเรียกผ่านแอป คนเรียก หรือคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ตามได้ไม่ยาก เพราะมันต้องยืนยันตัวตน มีเบอร์ มีข้อมูล”
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ( 11 ก.พ.66 ) ทีมข่าวได้สอบถามคุณใหญ่ ลูกชายของลุงผู้เสียหาย เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตำรวจตามตัวผู้หญิงคนที่ชิงรถพ่อตนได้แล้ว หลังจากที่เมื่อวานนี้มีพลเมืองดีแจ้งว่าพบเห็นรถของคุณพ่ออยู่ที่เชียงใหม่ ช่วงประมาณเที่ยงๆ จากนั้นในช่วงค่ำ น้าของผู้หญิงคนดังกล่าวได้โทรมาหาพ่อตนว่า หญิงคนดังกล่าวกำลังจะขับรถกลับบ้านที่เพชรบูรณ์ จึงมาเจรจาว่าหากนำรถมาคืนขอให้ถอนแจ้งความได้ไหม
ต่อมาที่ สน.ทองหล่อ ครอบครัวของหญิงสาวคนดังกล่าวทราบชื่อต่อมาคือ แอน ได้พาเธอเข้ามอบตัว พร้อมของกลางรถแคมรี่สีดำนำมาคืนเจ้าของ ระหว่างตำรวจนำตัวสอบปากคำ น้าของผู้ก่อเหตุแจ้งว่า หลานสาวไม่ได้มีเจตนาจะชิงรถแต่ประการใด อ้างว่าหลานป่วยจิต บางครั้งก้มีอากาหวาดระแวง ปิดกั้นตัวเอง ซึ่งก่อนที่จะลงมือชิงรถของคุณลุง เธอได้ขับรถยนต์ส่วนตัวหนีออกจากบ้านที่เพชรบูรณ์ จากนั้นนำไปจอดที่ สน.บางเขน กระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว ยืนยันว่าหลานไม่มีเจตนาชิงรถเพราะมีรถของตัวเอง เพียงแต่ทำไปเพราะหลอน หวาดระแวง ไม่รู้ตัวเท่านั้น ไม่มีเจตนาแต่อย่างใด
แท็กที่เกี่ยวข้อง โจรหลอกชิงรถ ,มิจฉาชีพ ,หลอกชิงรถ