อาชญากรรม

อดีตตำรวจยิงดาบตำรวจดับ ขณะเข้าจับกุม สลดเมียกอดศพหอมแก้มลา ล่าสุดจับผู้ก่อเหตุได้แล้ว

โดย weerawit_c

5 ก.พ. 2566

216 views

เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. วานนี้ (4 ก.พ.) ตำรวจ สภ.เวียงชัย นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณทุ่งนาท้ายหมู่บ้านชัยภูมิ หมู่ 10 ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย จ.เชียงราย



ช่วงเช้า วานนี้ (4 ก.พ.) ตำรวจ สภ.เวียงชัย นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพัก หมู่ 10 ภายในหมู่บ้านขัยภูมิ แต่ขณะเข้าตรวจค้นคนร้ายทราบชื่อเบื้องต้นคือ สิบตำรวจโท วุฒิไกร เครือสาน อายุประมาณ 33 ปี อดีตข้าราชการตำรวจประจำนราธิวาส และได้ลาออกจากราชการ ได้วิ่งหลบหนีออกไปทางทุ่งนา ทำให้เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามเพื่อจับกุมตัว จนไล่ตามทันยังจุดเกิดเหตุ ทำให้เกิดต่อสู้กันขึ้นก่อนที่นายวุฒิไกร ใช้อาวุธปืนที่พกมาด้วยยิงใส่ ด.ต.เปรม ตั๋นตุ้ย อายุ 41 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ สส. สภ.เวียงชัย ชุดไล่ล่า โดยถูกยิงเข้าตามตัวหลายนัดทำให้เสียชีวิตคาที่



หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรเชียงราย ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม และตรวจสอบอาวุธปืน วิถีกระสุน ตลอดจนลายนิ้วมือของผู้ก่อเกตุเพื่อใช้ประกอบสำนวนการสืบสวนสอบสวน โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่พบว่าตามร่างกายของ ด.ต เปรม พบว่าถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ลำตัว 3 นัด และบริเวณศีรษะอีก 1 นัด โดยรอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนของคนร้ายอย่างน้อย 2 ขนาดคาดว่ามาจากปืน 2 กระบอกตกอยู่ข้างศพประมาณ 4 นัด กระเป๋าสะพายของ ด.ต.เปรม ตกอยู่ 1 ใบและมีอาวุธปืนประจำกาย ติดอยู่ที่เอวของ ด.ต.เปรม อีก 1 กระบอก ในลักษณะที่ยังไม่มีการซักออกมาจากซองปืนและไม่ได้มีการยิงแต่อย่างใด



ก่อนที่จะให้ทางเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยนำร่าง ด.ต.เปรม ส่งซันสูตรพลิกศพ ที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยก่อนที่จะนำศพไปทางภรรยาของ ด.ต.เปรม ซึ่งได้เดินทางมาพร้อมลูกๆ ละญาติอีกจำนวนหนึ่ง ต่างพากันร่ำให้เสียใจต่อการจากไปของ ด.ต.เปรม ครั้งนี้ โดยเฉพาะผู้เป็นภรรยาที่ร่ำให้เข้าไปสวมกอดร่างอันไร้วิญญาณของสามี และหอมแก้มและหน้าผากด้วยความอาลัย พร้อมกับกล่าวบอกเรียกสามีให้กลับบ้านด้วย สร้างความเศร้าใจก่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ปฎิบัติหน้าที่อยู่บริเวณดังกล่าวเป็นมาก



พ.ต.อ.จิตรกร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผกก.สภ.เวียงชัย เปิดเผยว่า นายวุฒิไกร ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตข้าราชตำรวจเก่าเคยปฏิบัติงานอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ปัจจุบันออกจากราชการแล้ว มีพฤติกรรมที่พัวพันกับเรื่องของยาเสพติดและอาวุธปืน ก่อนการตรวจค้นมีการแจ้งความอาวุธปืนของคนในท้องที่หาย จึงขอหมายศาลเพื่อจะเข้าทำการตรวจค้นบ้านพักที่นายวุฒิไกรอาศัยอยู่ แต่ขณะจะเข้าตรวจค้นนายวุฒิไกร กลับพยายามหลบหนีจนต้องไล่ตาม ก่อนที่จะก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ก่อนจะอาศัยชำนาญพื้นที่หลบหนีไป



ขณะที่ พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ระดมกำลังเจ้าหน้าตำรวจขุดสืบสวนสอบสวน กำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) เชียงราย เพื่อติดตามจับกุมตัว นายวุฒิไกร โดยได้กำชับกับเจ้าหน้าที่ชุดติดตามไล่ล่าว่า นายวุฒิไกร เป็นอดีตข้าราชการตำรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงมีความเชี่ยวชาญในการต่อสู้ การใช้อาวุธและการหลบหนี ที่สำคัญยังมีอาวุธในครอบครองช่วงที่หลบหนีด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าค้นหา ต้องมีการเฝ้าระวังซึ่งกันและกันในการค้นหาจับกุม และไม่เข้าโดยพลการ ซึ่งคนร้ายไม่น่าหนีไปไหนไกลเพราะสวมเพียงกางเกงสามส่วนเพียงตัวเดียวไม่สวมเสื้อ และมีแกลอนสีขาวติดตัวไปด้วย 1 ใบ  



จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าทีกว่า 100 นาย พร้อมสุนัขดมกลิ่น ปูพรมเข้าตรวจค้นตามเส้นทางที่นายวุฒิไกร ใช้หลบหนีและจุดที่เจ้าหน้าที่พบตัวล่าสุดก่อนที่จะหายตัวไป โดยเฉพาะที่สวนของชาวบ้านรายหนึ่งเนื้อประมาณ 20 ไร่ มีสวนสัก สวนผลไม้ แปลงเกษตรและบ่อปลาอย่างน้อย 5-6 บ่อ ซึ่งใช้เป็นที่หลบซ่อนได้เป็นอย่างดีและอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่เกิน 1 กิโลเมตร  



ทั้งนี้ ขณะที่ นางณี (เขาขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง) มารดาของของ นายวุฒิไกร)ได้พยามร้องบอกลูกชายให้มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเดินไปมาตามพงหญ้า เผื่อที่ลูกชายจะหลบซ่อนตัวในบริเวณที่เกิดเหตุ



นางณี กล่าวว่า บุตรชายปกติจะเป็นคนนิสัยดีร่างเริงและเป็นมิตรกับทุกคน ไม่มีพิษภัยอะไร กระทั่งไปทำงานเป็นตำรวจอยู่ใน จ.นราธิวาส ก็มีนิสัยที่เปลี่ยนไป จนกระทั่งเมื่อ 3 ปีก่อนต้องออกจากราชการซึ่งทางบ้านก็ไม้ทราบว่าออกมาด้วยเหตุอะไร แต่เมื่อกลับมาก็ช่วยงานบ้าน โดยเฉพาะส่งน้ำดื่มตามชุมชนละหมู่บ้านเพราะบ้านผลิตน้ำดื่ม ในอดีตยอมรับว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดบ้าง แต่ระยะหลังมานี้ไม่เคยเห็นพฤติกรรมเกี่ยวกับเรื่องผิดกฎหมาย กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจค้นละเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งตนอยากขอให้บุตรชายให้มอบตัวกับเจ้าหน้าหน้าที่เพื่อต่อสู้กับความจริง



รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุ นายวุฒิไกร มีพฤติกรรมละอุปนิสัยชอบเล่นอาวุธปืน เคยก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าภายในหมู่บ้านชัยภูมิแห่งนี้อยู่บ่อยครั้ง และวันก่อนก่อเหตุประมาณ 1-2 วัน ก็เคยยิงปืนขึ้นฟ้ามาครั้งหนึ่ง กระทั่งชาวบ้านในพื้นที่เกิดความหวาดผวา ประกอบกับมีอาวุธปืนของคนในหมู่บ้านละแวกข้างเคียงหาย คาดว่าจะถูกนำไปก่อเหตุในทางที่ไม่ดีและสงสัยว่านายวุฒิไกร อาจเป็นผู้ขโมยปืนเหล่านั้นไป จึงแจ้งทางตำรวจ สภ.เวียงชัย



ซึ่งทางตำรวจจึงขอหมายค้นเพื่อพิสูจน์ทราบความจริง จึงนำหมายค้นมาค้นบ้านพัก ซึ่งเป็นบ้านบิดา มารดาของนายวุฒิไกร แต่ขณะตรวจค้นนายวุฒิไกรได้หลบหนี ออกทางหลังบ้านวิ่งไปกลางทุ่งนา โดยมี ด.ต.เปรม หนึ่งในชุมตรวจค้นวิ่งตามไป และมีตำรวจอีกนายวิ่งตามไป พอถึงกลางทุ่งนาห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร ตำรวจชุดติดตามได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอย่างน้อย 4 ครั้ง เมื่อไปดูก็พบว่า ด.ต.เปรม ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว และนายวุฒิไกร สามารถหลบหนีไปยังสวนเกษตรของชาวบ้านก่อนที่จะหายตัวไปอย่างไรร่องรอย



ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปูพรมเข้าตรวจค้นตามเส้นทางที่คาดว่า นายวุฒิไกร จะใช้หลบหนี จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปลาดตระเวนห่างจากจุดเกิดเหตุ 2 กิโลเมตร โดยได้มีการลาดตระเวนตรวจ ทุกจุด 2-3 รอบ โดยบริเวณที่คาดว่าคนร้ายจะหลบซ่อนตัวอยู่ เป็นพื้นที่ราบ และมีหญ้าขึ้นสูง แต่ก็ยังไม่พบตัว จนกระทั่งถอนกำลังออกนอกพื้นที่ แต่ได้ยินเสียงไม้ดัง จึงได้มีการส่งสัญญาณให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาร่วมกันค้น จนมาพบตัวนายวุฒิไกร ซ่อนตัวอยู่ใต้ดอกหญ้า และได้ยอมมอบตัวแต่โดยดี จากการตรวจค้นพบว่า ในย่ามมีอาวุธปืน 2 กระบอก ยี่ห้อซีแซด ขนาด 9 มม. และปืนลูกโม่ ไม่ทราบขนาด พร้อมกระสุนจำนวนหนึ่ง



ขณะที่ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า     หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งการไปยัง พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ให้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายในคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย เกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยต่อประชาชน และกำชับการปฏิบัติตามยุทธวิธี ให้กำลังพลเกิดความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ในการติดตามจับกุมคนร้าย จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. หลังปิดล้อมนานกว่า 8 ชม. ตำรวจสามารถจับกุม นายวุฒิไกรได้ ซึ่งหลบหนีห่างจากที่เกิดเหตุไปตามชายป่ากว่า 1 กม.



โฆษก.ตร.กล่าวอีกว่า “ผบ.ตร.ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมสั่งเยียวยาดูแลสวัสดิการ สิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ จัดงานพิธีให้สมเกียรติ ที่ ด.ต.เปรม ได้ปฏิบัติหน้าที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ”



อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ :   https://youtu.be/vwuPGkt631I

คุณอาจสนใจ

Related News