อาชญากรรม

โชเฟอร์แกร็บยัน ดาราสาวไต้หวันเมาหนัก – เจ้าตัว โพสต์ โต้ ไม่ได้เมา ท้าเปิดวงจรปิด พิสูจน์ความจริง

โดย petchpawee_k

28 ม.ค. 2566

19 views

โซเฟอร์รับส่งดาราสาวไต้หวัน ที่อ้างตำรวจไทยรีดทรัพย์ ยืนยันเจ้าตัวเมาหนัก เสียงดังโวยวาย อยากให้ออกมายอมรับ หลังโพสต์ IG ปฏิเสธไม่ได้เมา ระบุ ไม่เห็นตำรวจรีดทรัพย์ ด้าน ผกก.สน.ห้วยขวาง เผย รอความชัดเจน เดี๋ยวทุกอย่างประจักษ์เอง

ความคืบหน้ากรณีดาราสาวชาวไต้หวันอ้างว่าถูกตำรวจไทยตั้งด่านรีดทรัพย์ 27,000 บาท ขณะที่มาเที่ยวประเทศไทยช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ซึ่งวานนี้ (27 ม.ค.66) ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ได้เรียกให้คนขับแกร็บ รถมาสด้าสีแดง ที่ขับพาดาราสาวเข้ามาในจุดเกิดเหตุมาสอบปากคำ

ภายหลังสอบปากคำประมาณ 3 ชั่วโมง คนขับแกร็บเล่าว่า หลังจากที่ตนได้รับการเรียกให้ไปรับผู้โดยสารบริเวณหน้าร้านสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่าน RCA  เวลาประมาณตี2 กว่าๆ เพื่อมาส่งยังจุดหมายปลายทางโรงแรมย่านห้วยขวาง ซึ่งกลุ่มผู้โดยสารกลุ่มนี้มีทั้งหมด 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน ซึ่งตอนไปรับ ตอนนั้นตนจอดรถห่างจากกลุ่มผู้โดยสารเหล่านี้ประมาณ 30 เมตร และให้เดินมาขึ้นรถ แต่ปรากฏว่าผู้ชายคนหนึ่งที่พอจะพูดภาษาไทยได้ ก็พูดจาโมโหใส่อารมณ์ ตวาดใส่ตนและเมื่อขึ้นรถมาเห็นได้ทันทีเลยว่ามีอาการมึนเมา


คนขับแกร็บ เล่าต่อว่า ในวันเกิดเหตุยืนยันว่าตนไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์เพราะเป็นคนขับรถ ไม่ดื่มอยู่แล้ว แต่พอกลุ่มผู้โดยสารเหล่านี้ขึ้นมาได้กลิ่นแอลกอฮอล์ทันที ซึ่งกลิ่นแรงมากจนต้องขับรถเปิดกระจก และตนจำผู้หญิงคนนี้ได้แม่น เพราะดูท่าทางเมาแล้วโวยวายเสียงดังที่สุดในรถ


เมื่อกลุ่มผู้โดยสารเดินขึ้นรถ ตนได้วิ่งตามเส้นทาง GPS โดยจากย่าน RCA  มาตามทางเส้นพระราม 9 ก่อนจะมา เลี้ยวซ้ายเข้า อสมท. มาตามถนนรัชดา ก่อนจะมาเจอด่านตรวจที่หน้าสถานทูตจีน จากนั้นได้มีตำรวจเรียกขอตรวจ ตนก็เปิดไฟ ในรถ ตำรวจก็ว่าจะไปไหน ตนก็บอกไปว่าเป็นแกร็บ ตำรวจก็บอกว่าขอตรวจเช็คผู้โดยสาร และหันไปพูดภาษาอังกฤษกับผู้โดยสารว่า Police Check ซึ่งตอนนั้นผู้หญิงมีอาการไม่พอใจชัดเจน ประมาณว่าไม่อยากให้ตรวจค้น และเมาด้วย ตำรวจก็พยายามเชิญลงจากรถ ผู้โดยสารก็ทำทีท่าไม่อยากลง แต่สุดท้ายก็ลง ไปยืนให้ตำรวจตรวจค้นอยู่ที่ท้ายรถฝั่งซ้าย โดยรถจอดอยู่เลนซ้ายสุด


ซึ่งระหว่างที่ตรวจค้น มีตำรวจเข้ามาตรวจค้นทั้งหมด 3 นาย โดยตำรวจได้ให้ผู้โดยสารเปิดกระเป๋า และส่องไฟฉายลงไป ให้ผู้โดยสารเป็นคนรื้อกระเป๋าให้ดูเอง ไม่ได้แตะต้องข้าวของ และแตะตัวเฉพาะผู้โดยสารผู้ชายเท่านั้น ใช้เวลาตรวจค้นนานประมาณ 30 นาที โดยตนไม่ค่อยได้หันไปมอง จะหันไปเฉพาะเวลาได้ยินเสียงผู้หญิงโวยวายเป็นภาษาจีนเสียงดังใส่ตำรวจ และมีพยายามจะพูดภาษาไทยด้วย ซึ่งตำรวจก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร และก็ไม่เห็นว่าผู้โดยสารมีการพยายามจะถ่ายคลิป


จากนั้น ผู้โดยสารผู้ชายที่พูดไทยได้ ได้เดินมาหาตนแล้วจ่ายเงิน 80 บาท แล้วก็บอกให้ไปๆๆๆ ตนยังคิดอยู่เลยว่าขาดทุนเพราะค่าโดยสารทั้งหมด 89 บาท แต่ตนก็ขับรถออกมา ทั้งนี้ ยืนยันว่า ระหว่างที่จอดรถอยู่ในด่าน ตนไม่สังเกตเห็นความผิดปกติใดๆ ตำรวจตรวจค้นปกติ เป็นที่โล่งริมถนน ส่วนผู้โดยสารมีบุหรี่ไฟฟ้าจริงหรือไม่ ตนไม่ได้สังเกต


อย่างไรก็ตาม หลังมีข่าวขึ้นมา ตนก็รู้สึกคุ้นหน้านักท่องเที่ยวหญิงรายนี้ จึงมาเปิดดูในไทม์ไลน์แอปพลิเคชั่น ซึ่งส่วนมากตนจะจำลูกค้าประเภทที่เมาโวยวายได้แม่น เลยคิดว่าใช่แน่ พอตำรวจเรียกมาจึงให้ความร่วมมือ เพราะมองว่านักท่องเที่ยวหญิงให้ข่าวเกินไป ทำให้เสียภาพพจน์ประเทศไทย ส่วนที่เจ้าตัวออกมาชี้แจงผ่านอินสตาแกรมว่าไม่ได้ดื่ม ตนยืนยันได้ว่า เมา 100%


คนขับแกร็บ ยังฝากถึงดาราสาวชาวไต้หวันด้วยว่า ให้ออกมาพูดความจริง เพราะตอนนั้นเธอมีอาการเมา แต่ตนขับรถไม่เมาอยู่แล้ว ตนมีสติ ก็ให้สังคมตัดสินว่าจะเชื่อคนเมาหรือคนไม่เมา ส่วนกล้องหน้ารถตน บันทึกเสียงได้ แต่ไฟล์ภาพถูกลบไปแล้วเพราะตนจะฟอร์แมตทุก 7 วัน แต่ก็ได้นำเมมโมรี่การ์ดให้ตำรวจนำไปตรวจสอบแล้ว


ขณะที่ พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง บอกว่า เบื้องต้นได้หลักฐานมาพอสมควรแล้ว ขณะเดียวกันตอนนี้ดาราสาวชาวไต้หวันไม่ได้อยู่ในประเทศไทย  แต่จะมีการเรียกตัวกลับมาให้ข้อมูลหรือไม่ ต้องรอดูว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะว่าอย่างไร


เมื่อสื่อถามว่ามั่นใจในผู้ใต้บังคับบัญชาหรือไม่ว่า ไม่ได้เรียกรับผลประโยชน์ ก็บอกว่า ในส่วนนี้อยู่ที่พยานหลักฐาน รอพยานหลักฐานชัดเจนก่อน จึงจะสามารถสรุป


เมื่อถามย้ำว่าสรุปแล้วมีการเรียกรับเงิน 27,000 บาท หรือไม่ พ.ต.อ.ยิ่งยศ ยังคงย้ำว่า ยังตอบในจุดนี้ไม่ได้ เพราะอยากให้รอพยานหลักฐานชัดเจนก่อน จึงจะสามารถสรุปได้


ทั้งนี้ หากผลออกมาแล้วไม่ได้เป็นตามที่ดาราสาวชาวไต้หวันกล่าวอ้าง จะมีการตั้งข้อหาหรือไม่ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี รอให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน และหากเป็นคนไทยทำเหตุการณ์แบบนี้ จะเป็นอย่างไร้บ้างนั้น พ.ต.อ.ยิ่งยศ กล่าวว่า อย่าเพิ่งเทียบเคียงกันดีกว่าเพราะในส่วนนี้เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย


ขณะเดียวกันดาราสาวชาวไต้หวันได้โพสต์ Story IG ทำนองว่าให้ตำรวจไทยหยุดใส่ร้ายเธอได้แล้ว และให้ตำรวจไทยเปิดหลักฐานกล้อง CCTV ออกมามองประเด็นนี้ อย่างไรบ้าง ผกก.สน.ห้วยขวาง ระบุว่า รอความชัดเจนแล้วปล่อยทีเดียว


เมื่อถามว่ามีความมั่นใจมากน้อยแค่ไหนที่จะสามารถกู้ชื่อเสียงตำรวจไทยกลับมาได้ พ.ต.อ.ยิ่งยศ ยังยืนยันว่าให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน หากเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างจะประจักษ์เอง


ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. ว่า ขณะนี้ทางตำรวจ บช.น. อยู่ระหว่างเก็บรวมรวบพยานหลักฐาน โดยการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่นักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวันถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจ โดยกล้องวงจรปิดที่ได้ขณะนี้มี 3 จุด จุดแรกที่หน้าสถานฑูตจีน  จุดที่ 2 บริเวณบนสะพานลอยซึ่งกล้องตัวนี้จะส่องเข้าไปในซอยรัชดา 3 ที่ สาวไต้หวันอ้างว่าเข้าไปจ่ายเงินให้ตำรวจไทย และจุดที่ 3 ปากซอยรัชดา 3 ที่เห็นว่าสาวไต้หวันมากับเพื่อนชายอีก 3 คน และขับเข้าด่านตรวจราว 02.27 น.


โดยมีรายงานว่ากล้องวงจรปิดระยะไกลที่เห็นภาพกลุ่มนักท่องเที่ยว จะเห็นตั้งแต่รถเข้ามาจอดและทั้ง 4 คน ลงมาจากรถแล้วยืนอยู่บริเวณด่านตลอด กระทั่งเรียกรถแท็กซี่สีส้มออกไป ไม่มีการเดินเข้าไปในซอย แต่ด้วยระยะกล้องที่ไกล ก็ไม่สามารถระบุได้ว่ามีการยื่นเงินหรือเจรจากันว่าอะไร ดังนั้นจึงต้องรอพยานหลักฐานอื่นๆ ประกอบเพื่อไขข้อสงสัยทุกจุด

รองโฆษก ตร. กล่าวว่า สำหรับดาราสาวชาวไต้หวัน เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดต่อได้แล้ว และได้ข้อมูลมาบ้างบางส่วน อย่างไรก็ตาม เราต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน แต่ขณะเดียวกันก็ต้องเปิดช่องทางให้กับผู้เสียหาย เพื่อจะได้นำข้อมูลมาให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เรายินดีเป็นอย่างยิ่ง โดยประเด็นนี้จะดำเนินการเป็น 2 ส่วน คือ ข้อมูลจากผู้เสียหายโดยตรง และจากเจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางของไต้หวัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานงานไป
-----------------------------------------------------

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของดาราสาวไต้หวัน วานนี้ วานนี้ (27 ม.ค.66) เธอ ได้โพสต์สตอรี่ ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว โดยภาพแรกเป็นการแชร์ภาพข่าวของตัวเองที่นำเสนอภาพข่าวของเธอ โดยเธอเขียนข้อความว่า “Wow that’s not true at all !!” และ “I didn’t drink at all” ซึ่งแปลว่า มันไม่ใช่เรื่องจริงเลย และ ยืนยันว่า “เธอไม่ได้ดื่มเลย”


พร้อมกันนี้ชี้แจงเป็นข้อความภาษาจีนว่า “ฉันจะบอกทุกคน หลังจากที่ฉันได้คุยกับตำรวจอินเตอร์โพลเสร็จแล้ว” “ตอนนี้ตำรวจไทยที่ไม่ใสสะอาด ต้องการใช้ฉันเพื่อให้พวกเขาบริสุทธิ์” “เพราะมันขัดผลประโยชน์ของพวกเขา? เลิกพูดจาไร้สาระเถอะ!”


ส่วนอีกสตอรี่ ดาราสาว ได้โพสต์อีกสตอรี่ โดยมีการวงกลมไว้ที่เนื้อข่าวภาษาจีน ที่ประโยคว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 7 นาย” โดยในสตอรี่นี้ ดาราสาวรายนี้ ยังเขียนข้อความภาษาจีน มีเนื้อหาใจความว่า “วันนั้นถนน 4 เลนถูกปิดหมด และไม่ได้มีแค่ตำรวจแค่ 7 นาย ฉันสามารถระบุตัวตนคนที่เอาเงินไปได้แน่นอน” และเขียนข้อความต่อมาว่า “เขาบอกว่าไม่มีการตรวจในวันนั้น แล้วก็ได้ไม่ได้เอาเงินไป?”


ก่อนที่จะเขียนข้อความตอบโต้ว่า “แล้วทำไมถึงไม่เอาภาพจากกล้องวงจรปิด มาเปิดให้ดูละ? แล้วก็ยังมาพูดจาไร้สาระแบบนี้ เอาฉันมาเป็นเป้าแบบนี้ แล้วก็ยัดของกลางใส่ฉัน?”


และปิดท้ายข้อความว่า “มีคนมากมาย อ้างว่าตัวเป็นตำรวจ ติดต่อมาหาฉัน ก็เลยรู้สึกหัวเสียนิดหน่อย”


สตอรี่ต่อมาดาราสาวได้โพสต์สตอรี่เพิ่มอีกเป็นภาษาจีนว่า “ฉันสามารถระบุตัวตำรวจที่เรียกรับเงินไปได้” และอีกข้อความว่า “ฉันได้ให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจอินเตอร์โพล”


และได้แปะลิงก์ข่าวสื่อท้องถิ่นที่เธอให้สัมภาษณ์ พร้อมทิ้งท้ายว่า “หวังว่าตำรวจไทยจะสามารถหยุดพฤติกรรมที่ไม่ดีได้”


ส่วนอีกสตอรี่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ โดยเอาข้อความที่ชาวไทยไปโพสต์ว่า “ฉันเป็นคนไทย และฉันขอโทษ ประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศที่เเย่ แต่ตำรวจปฏิบัติตัวแย่ๆ กับคุณ”

โดยเธอได้ตอบข้อความนี้ว่า “ไม่เป็นไร มันไม่ใช่ความผิดของคุณ ยังมีสิ่งที่สวยงามอีกมากมายในประเทศไทย”


ทั้งนี้ ดาราสาวได้แชร์ลิงก์บางบทสัมภาษณ์ของสื่อไต้หวัน ซึ่งทางผู้สื่อข่าวได้ถามดาราสาวถึงประเด็นที่ตำรวจระบุว่า พบบุหรี่ไฟฟ้าในตัวเธอนั้น เจ้าตัวตอบอย่างโกรธๆ โดยเธออ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ยัดบุหรี่ไฟฟ้าให้ และท้ายบทสัมภาษณ์ เธอก็ยืนยันว่า เธอไม่ได้เมา และพยามถ่ายวีดีโอบันทึกเหตุการณ์ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต พร้อมยืนยันว่าเธอจำหน้าตำรวจที่เรียกรับเงินได้ทุกคน


จากนั้นเธอได้โพสต์ Story IG อย่างต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้โพสต์เป็นภาษาอังกฤษ ระบุว่า “They are saying bad things about me to make them look good and cover up the truth” ซึ่งแปลว่า “พวกเขาพูดไม่ดีเกี่ยวกับฉันเพื่อให้ดูดีและปกปิดความจริง”


ขณะเดียวกันดาราสาวชาวไต้หวันได้ตอบกลับทีมข่าวอาชญากรรมช่อง 3 คุณวรัทยา ปัทมวิทูล เป็นภาษาจีนพร้อมกับแปลเป็นภาษาไทยให้แล้ว ระบุว่า  ตำรวจช่วยบอกเราหน่อยได้ไหมว่าควรจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไรในอนาคต?  หลักฐานทั้งหมดอยู่กับพวกเขาพูดแบบสบายๆ ไม่ใจดำเหรอ? กล้องวงจรปิด เอามาให้ดูแล้วโวยวาย


ทั้งนี้ ดาราสาวชาวไต้หวัน ยังคงโพสต์ Story IG อย่างต่อเนื่อง ซึ่งโพสต์นี้เป็นการโพสต์หลังจากที่คนขับรถเข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.ห้วนขวางแล้ว ซึ่งเพจเฟซบุ๊ก “หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว” ได้แปลเป็นภาษาไทยไว้ ระบุว่า “ฉันโดนลงโทษยืนอยู่นาน 2 ชั่วโมง ตอนนี้แท็กซี้ซั้วพูดว่าฉันอีก ทำไมไม่ไปหากล้อง CCTV มาเปิดสักที มาเปิดเลยว่าฉันเมาจริงไหม ?! มัวแต่เบี่ยงประเด็นพูดนั่นนี่


หรือว่าเปิดกล้อง CCTV แล้วจะอึ้ง!! เพราะไม่เป็นผลดีต่อตำรวจ หรือเพราะกลัวว่าเปิดมาแล้วจะเห็นว่าฉันโดนอะไรบ้าง และตำรวจพวกนั้นเลวแค่ไหน”

คุณอาจสนใจ