อาชญากรรม

ฝากขังชายเมากาว ป่วยจิตเวช หลอนใช้มีดพร้าจามหัวเด็ก ป.3 สาหัส บอกเป็นบ้า เห็นผีเลยต้องฟัน

โดย petchpawee_k

28 ม.ค. 2566

122 views

ฝากขังหนุ่มเมากาว จามหัวเด็กป.3 บอกผมเป็นบ้า เห็นผีเลยต้องฟัน ด้านญาติเผย ก่อนไปทำร้ายเด็ก ทุบศาลพระภูมิพังราบ เดินควงมีดไปปีนรั้วโรงเรียน สุดเอือมพฤติกรรมอันตรายต่อคนอื่น ตร.จับแล้วปล่อยหลายครั้ง นำส่งรพ.ก็บ่อย ขณะที่อาการเด็ก ป.3 ผ่าตัดสมอง แพทย์เฝ้าติดตามอาการใกล้ชิด

จากกรณีนายอธิป  อายุ 45 ปี บ้านอยู่ ตำบลหนองโพธิ์ อำเภอหนองหญ้าไซ ก่อเหตุ ใช้มีดพร้า จามหัว น้องข้าวกล้อง เด็กนักเรียนชั้นป. 3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อำเภอหนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี ได้รับบาดเจ็บสาหัส กะโหลกร้าวและสมองบวม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 ม.ค ที่ผ่านมา โดยนายอธิป ปีนรั้วโรงเรียนเข้าไปก่อเหตุ ขณะที่น้องข้าวกล้องอยู่ในโรงเรียนและนั่งเล่นที่เครื่องออกกำลังกาย โดยถูกทำร้ายแบบไม่รู้ตัว เนื่องจากคนร้ายถือมีดพร้ามาข้างหลัง ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ที่เห็นคนร้ายก็วิ่งหนีทัน


หลังเกิดเหตุตำรวจตามจับกุม นายอธิปได้ทันทีพร้อมมีดพร้าที่ก่อเหตุ เจ้าตัวสารภาพว่า ทำไปเพราะเมากาว


 วานนี้ ตำรวจ สภ.หนองหญ้าไซ ได้ควบคุมตัวนายอธิปมาสอบปากคำ แต่พูดจารู้เรื่องบ้าง และโวยวายเป็นระยะ ตร.จึงควบคุมตัวไปฝากขัง ที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ระหว่างคุมตัวขึ้นรถไปฝากขัง ทีมข่าวได้สอบถามนายอธิป ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายอธิป บอกว่า ผมเป็นบ้า เมื่อถามว่าทำเด็กทำไมรู้ตัวหรือไม่ นายอธิปบอกว่า ผมเห็นผี จากนั้น ก็ตะโกนว่า มาถามทำไมผมไม่ได้ทำ


 ตร.บอกว่า ตลอดคืนที่นายอธิปถูกควบคุมตัวก็โวยวายบ้าง พูดคนเดียวบ้าง แต่ถามตอบรู้เรื่อง และบางครั้งก็ไม่รู้เรื่อง โดยทางญาติยืนยันว่าป่วยเป็นจิตเวชและมีประวัติรักษา ซึ่งตำรวจที่โรงพักรู้ประวัติดีเพราะเคยไประงับเหตุ ที่นายอธิปโวยวายจนชาวบ้านแจ้งตำรวจ พาส่ง รพ.ก็แล้ว นำมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพักก็หลายครั้ง จนกระทั่งครั้งนี้ก่อเหตุทำร้ายเด็ก


ทีมข่าวลงพื้นที่ไปบ้านของนายอธิป พบว่านายอธิปอาศัยกับหลาน ส่วนพ่อแม่ไปต่างประเทศ ญาติให้ข้อมูลว่าปกตินายอธิป หากไม่คุ้มคลั่งก็เป็นคนปกติ แต่ก่อนก็ทำอาชีพค้าขาย และชอบเก็บตัวอยู่ในบ้านไม่สุงสิงกับใคร แต่พอคุ้มคลั่ง ก็จะโวยวายในบ้าน เมื่อมีอาการ ทุกคนในบ้านก็จะหนีออกจากบ้านเพราะกลัวอันตราย


คุณน้อย ญาตินายอธิป เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน นายอธิป ก็ก่อเหตุทุบศาลพระภูมิที่หลังบ้านตัวเอง จนพังราบเหลือแต่เสา ญาติต้องมาจุดธูปขอขมา ไม่เพียงแต่ศาลพะรภูมิบ้านตัวเอง บ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างๆ กัน นายอธิปก็ไปทุบทำลายศาลพระภูมิด้วย และเคยทำร้ายเพื่อนบ้านหัวแตกเลือดอาบมาแล้ว


วันเกิดเหตุ ตอนเช้ามืด ประมาณตีสามได้ยินเสียงนายอธิป โวยวายตะโกนลั่นบ้าน พูดไม่รู้เรื่อง แล้วก็เงียบหายไป จากนั้นช่วงสาย มีพยานเล่าให้ฟังว่า เห็นนายอธิป เดินควงมีดพร้าออกจากบ้านไปที่โรงเรียน ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน ซึ่งโรงเรียนมีรั้วรอบขอบชิด และปิดประตู แต่นายอธิปใช้วิธีการปีนรั้วโรงเรียน เข้าไปก่อเหตุ  ที่ผ่านมาทั้งตำรวจและผู้นำชุมชน มาคุมตัวนายอธิปไปส่งรพ.หลายครั้งแต่พอกลับมาก็เป็นอีก


จากเหตุการณ์นี้ก็อยากขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการกับกลุ่มคนคลั่ง หรือติดสารเสพติด เพราะเป็นอันตรายกับสังคมมาก เมื่อถูกปล่อยออกมาก็มาทำซ้ำอีก


 สำหรับโรงเรียนที่เกิดเหตุ วานนี้ก็ปิดเรียนชั่วคราว เนื่องจากผู้ปกครองและเด็กๆ หวาดผวากลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องบอกว่าโรงเรียนนั้นมีรั้วรอบโรงเรียน มีประตูที่เปิด-ปิดเป็นเวลา และขณะเกิดเหตุ คนร้ายปีนเข้ามาข้างรั้วโดยที่ไม่มีใครรู้


 ทีมข่าวสอบถามเด็กนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์ ให้ข้อมูลว่า ขณะเกิดเหตุเห็นคนร้ายฟันหัวน้องข้าวกล้อง ตกใจกลัวมาก รีบวิ่งมาบอกครู และบอกเพื่อนๆ ในห้องเรียนว่า ให้ล็อคประตูห้อง มีคนฟันหัวเพื่อน จากนั้นครูก็วิ่งไปเจอน้องข้าวกล้องร้องไห้มีแผลฉกรรจ์ที่ศรีษะ และเลือดออกจำนวนมาก จึงพาไปส่งรพ.ส่งอนามัย และส่งต่อไปรพ.


 ซึ่งเหตุการณ์นี้เด็กๆในโรงเรียนต่างหวาดกลัวผวา และอยากฝากถึงคนก่อเหตุว่า “อย่าทำแบบนี้อีก พวกหนูกลัว”

ด้านนางสาวอัจฉรา ครูที่เข้าไปช่วยเด็ก เล่าว่า ตอนเกิดเหตุกำลังสอนนักเรียนชั้นมัธยมอยู่ พอได้ยินเสียงก็เลยรีบพาเด็กๆ ที่อยู่กับตนเข้าห้องและล็อคประตูข้างใน พอเสร็จก็ลงมาดูน้องข้างล่าง ก็มาเจอภารโรง ได้อุ้มน้องเข้าไปหลบด้านหลัง เพราะไม่รู้ว่าคนร้าย จะกลับเข้ามาอีกไหม จากนั้นก็ตั้งสติเพราะในมือเราไม่มีอะไรเลย เด็กก็เลือดไหลมาก จึงรีบพาไปอนามัยซึ่งอยู่ใกล้โรงเรียนเพื่อห้ามเลือดเนื่องจากเลือดออกเยอะมาก


จากนั้นครูอีกท่านได้โทรแจ้งตำรวจแล้วก็มีรถพยาบาลมารับ ตอนนั้นคิดอย่างเดียวต้องช่วยน้องไว้ก่อน ตั้งแต่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ที่เห็นในข่าวทางโรงเรียนก็มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยให้เด็กอยู่แล้วประตูโรงเรียนก็จะปิดตลอด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อนครูทุกคนมีสติเพื่อดูแลเด็กในโรงเรียนที่เหลือให้ปลอดภัย


นางสาวนุจรี สรหงษ์ (สวมเสื้อสีชมพู) ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้น ป.5 ของโรงเรียน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุผู้ปกครองทุกคนเกิดความหวาดระแวงในความปลอดภัยของลูกหลาน แต่ถ้าในมุมของตนอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ตลอด พร้อมอยากให้หน่อยงานที่เกี่ยวข้องจัดการกับคนเหล่านี้ บทลงโทษบางทียังอ่อนเกินไป กฎหมายไม่สามารถที่จะจัดการกับคนเหล่านี้ได้ ซึ่งไม่ได้มีคนเดียวต่อไปมันอาจจะมีคนอื่นๆ ที่ใช้ชีวิตแบบไม่มีสติแบบนี้เข้ามาทำร้ายเด็กอีก ตอนนี้ก็ยังหวาดระแวง ต้องระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีก  


 สำหรับนายอธิปนั้น พบว่า เคยรักษาอาการจิตเวช แต่ไม่มีใครทราบว่ากินยาตามที่แพทย์สั่งหรือไม่ แต่ก็จะดื่มสุรา และดมกาว  จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยมีประวัติถูกจับในข้อหาเสพยาเสพติด แต่การก่อเหตุครั้งนี้ ตร.ได้นำตัวไปตรวจปัสสาวะแต่ไม่พบสารเสพติด จึงได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่า และพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต


ส่วนอาการบาดเจ็บของน้องข้าวกล้อง วานนี้แพทย์ได้ทำการผ่าสมองและรักษาอาการะโหลกร้าว โดยรวมถือว่าปลอดภัยพ้นขีดอันตรายแต่ต้องคอยเฝ้าติดตามอาการข้างเคียงอย่างใกล้ชิด



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/tbbjWQyZPLU

คุณอาจสนใจ

Related News