'หมอโอ๋' แจงหลัง น้องชาย-แยม ธมลพรรณ์ ถูกจับ ช็อกทั้งครอบครัว ยันไม่เกี่ยวธุรกิจผิดกฎหมาย

จากกรณีตำรวจกองปราบปราบบุกจับอดีตนางเอกดัง น.ส.ธมลพรรณ์ ภานุชิตพุทธิวงศ์ หรือ แยม อายุ 40 ปี พร้อมด้วย นายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ หรือ อั้ม อายุ 42 ปี สามี และนายเชษฐ์ชัย หงส์คำ อายุ 38 ปี พร้อมเข้าตรวจค้นยึดหลักฐานทรัพย์สินจำนวนมากในบ้าน พร้อมแถลงจับกุมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ชื่อดัง และเว็บไซต์ที่เผยแพร่ภาพยนตร์ การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลละเมิดลิขสิทธิ์ และภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาลามกอนาจารผ่านเว็บไซต์


หลังทั้งหมดร่วมกันเปิดเว็บพนันออนไลน์ ลูกค้านับหมื่นราย และเงินหมุนเวียน 7 พันล้านบาทต่อเดือน พร้อมยึดทรัพย์สินเป็นเงินสด รถซูเปอร์คาร์ 13 คัน บ้านพักหรู 4 หลัง ข้าวของแบรนด์เนม เงินสดรวมกว่า 700 ล้านบาท นำตัวฝากขังศาลอาญาเป็นผัดแรก โดยศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง จึงถูกนำตัวเข้าเรือนจำทันที นั้น


ในเวลาต่อมา หมอโอ๋ เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน โพสต์ข้อความหลัง น้องชาย-น้องสะใภ้ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเว็บพนันออนไลน์ เว็บเถื่อน พร้อมยึดอายัดทรัพย์สิน 700 ล้าน โดยศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ระบุว่า


"จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ขอบคุณทุกคนที่แสดงความห่วงใยมาถึงครอบครัวของหมอนะคะ ขณะนี้หมอและสามีพาลูกมาแข่งยิมนาสติกอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ มีกำหนดกลับคืนวันอาทิตย์นี้


หมอ คุณแม่ และน้องชายอีกคน เพิ่งทราบเรื่องพร้อมกันหลังจากที่มีตำรวจมาที่บ้าน คุณแม่ช็อคตกใจมาก ไม่มีใครทราบเรื่องเหล่านี้มาก่อน ตอนนี้กำลังเป็นห่วงสภาพจิตใจคุณแม่ และหลานๆ มาก


หมอยังไม่ทราบรายละเอียดจากน้องชาย เพราะกำลังถูกควบคุมตัวอยู่ หมอไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้ เพราะคิดว่าตัวเองไม่รู้รายละเอียดทั้งหมดที่เกิดขึ้นและหมอไม่ควรแทรกแซงกระบวนการทางกฏหมาย เลยอยากขอชี้แจงเท่าที่ตัวเองจะชี้แจงได้นะคะ


บ้านเราเป็นบ้านที่มีฐานะพอสมควร คุณพ่อทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เราไม่ได้ลำบากเรื่องการเงิน น้องชายทำธุรกิจโทรศัพท์มือถือมีรายได้มาตั้งแต่อายุน้อยๆ ข้อมูลที่หมอทราบ น้องนำเงินไปลงหุ้นและเหรียญคริปโต ในช่วงรุ่งเรืองจนมีรายได้มาก


บ้านเราเป็นพี่น้องที่สนิทกัน แต่พอเราโตกันเป็นผู้ใหญ่ ต่างคนต่างมีครอบครัวของตัวเอง เราไม่ได้ทราบเรื่องรายละเอียดของงานที่แต่ละคนทำนัก (และถ้าเรื่องนี้เป็นจริง น้องก็คงไม่ได้อยากให้รับรู้อะไรนัก) บ้านเราไม่ทราบเรื่องธุรกิจที่เป็นข่าว หมออ่านข่าวยังตกใจมาก แต่ก็อยากทราบความจริงจากน้องด้วย


สิ่งที่เรายืนยันได้คงมีแค่จากตัวเรา.. หมอและครอบครัว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่เป็นข่าว และในฐานะพี่สาว ที่น้องกำลังเข้าสู่กระบวนการทางกฏหมาย ไม่ว่าผลการตรวจสอบจะเป็นอย่างไร หมอแน่ใจว่าความรักที่พี่มีให้กับน้อง และกำลังใจที่จะช่วยให้น้องเรียนรู้และเติบโตจากความผิดพลาด ก็จะอยู่ตรงนี้เสมอ ขอบคุณทุกคนที่แสดงความเข้าใจมานะคะ"


ขณะที่ น.ส.โศรยา ฤทธิอร่าม ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง เปิดเผยถึง น.ส.ธมลพรรณ์ หรือ แยม อดีตนางเอก ว่า เข้ามาถึงทัณฑสถานฯ ในช่วงค่ำ เจ้าหน้าที่ได้อธิบายขั้นตอนการปฏิบัติตัว ซึ่งอดีตนางเอกให้ความร่วมมือดี


ส่วนการนอนในทัณฑสถานหญิงกลางคืนแรกที่ผ่านมา พบว่า น.ส.ธมลพรรณ์ นอนไม่ค่อยหลับ เนื่องจากเป็นห่วงลูกคนเล็ก เนื่องด้วยมีลูกเล็กวัย 5 เดือน จึงมีความคิดถึงลูก อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (17 ธ.ค.) น.ส.ธมลพรรณ์ ยังมีสุขภาพร่างกายที่เเข็งแรงปกติ ไม่มีอะไรที่น่าเป็นกังวล และมีการรับประทานอาหารมื้อเช้า ซึ่งเป็นเมนูรายการอาหารปกติของทางทัณฑสถานฯ


โดย น.ส.ธมลพรรณ์ ยังไม่ได้มีการร้องขอยารักษาโรคหรือสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานใดเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ และสามารถปรับตัวได้ค่อนข้างดี มีการพูดคุยกับคนอื่น ๆ ที่เพิ่งเข้ามาเช่นเดียวกัน เพื่อเรียนรู้การปฏิบัติตัวในทัณฑสถานฯ


น.ส.โศรยา เปิดเผยอีกว่า เบื้องต้น น.ส.ธมลพรรณ์ ยังมีผลการตรวจโควิด-19 เป็นปกติ และจะต้องอยู่ในห้องกักตัวของแดนแรกรับ จำนวน 5 วัน และหากครบกำหนดแล้วมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ ก็จะถูกนำตัวไปยังห้องกันชนอีก 7 วัน ซึ่งเป็นมาตรฐานของการกักโรค จากนั้นเมื่อครบ 7 วัน จึงจะได้ย้ายไปอยู่รวมกับผู้ต้องขังรายอื่น ๆ


โดยทนายความสามารถเยี่ยมผ่านระบบวิดีโอออนไลน์ ซึ่งการมาเข้าพบลูกความถือเป็นสิทธิที่กระทำได้ ส่วนกรณีที่ญาติจะมาเข้าเยี่ยม จำเป็นต้องรอให้พ้นจากระยะการกักโรคก่อน

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/T5HKo7xSRkI