โชเฟอร์แท็กซี่มอบตัว อ้างเพิ่งทำครั้งแรก ไม่ได้ตั้งใจฉกไอโฟน 14 - ลวนลามผู้โดยสารสาว

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เรื่องราวเตือนภัย หลังเจอแท็กซี่ลวนลาม และขโมยโทรศัพท์มือถือไป โดยเธอขึ้นรถจากถนนข้าวสาร เพื่อจะกลับบ้านย่านงามวงศ์วาน ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา

ผู้โพสต์ อายุ 22 ปี เล่าว่า ระหว่างที่ขึ้นรถ ตนได้นำโทรศัพท์มาวางไว้บริเวณตัก และด้วยความง่วงจึงมีเผลอหลับไปบ้าง ก่อนจะรู้สึกตัวว่า มีคนกำลังจับหน้าอกและลูบบริเวณต้นขา จึงสะดุ้งตื่น และสอบถามกับคนขับว่าทำอะไร ซึ่งคนขับแท็กซี่ไม่ตอบ แต่ขับเลยจากหน้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ไปแล้วแจ้งว่า ให้ตนลงจากรถ

จากนั้น ตนได้ตรวจสอบทรัพย์สิน พบว่าโทรศัพท์มือถือหายไป จึงบอกแท็กซี่ว่าให้คืนโทรศัพท์มาก่อน แต่คนขับปฏิเสธ อ้างว่าตนเองเมาและไม่ได้เอาโทรศัพท์ขึ้นมา พร้อมทั้งไล่ให้ลงจากรถ  ด้วยความกลัวตนจึงยอมลง และตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สน.ชนะสงคราม

ตำรวจได้ออกใบขอคัดสำเนากล้องวงจรปิด และลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมกับแจ้งว่าในส่วนของคดีต้องไปทำการแจ้งความที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ซึ่งเป็นพื้นที่จุดที่ตนโดนทิ้ง

แต่เมื่อไปแจ้งความที่ สน.รัตนาธิเบศร์ ตำรวจกลับให้ลงบันทึกประจำวัน และสอบถามเพียงว่าทำไมจึงยอมลงจากรถ ซึ่งตนได้ชี้แจงหลายครั้งว่าหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้าย เพราะตนเองเป็นผู้หญิงที่ขึ้นรถเพียงลำพัง และเป็นตอนกลางคืน แต่ตำรวจก็ไม่ดำเนินการใดๆ ให้

หลังเกิดเรื่อง ได้พยายามติดต่อไปที่เบอร์มือถือของตนเอง ช่วงแรกยังโทรติดแต่ไม่มีคนรับสาย ก่อนที่จะไม่สามารถติดต่อได้ ตนเองจึงพยายามเช็กพิกัดจากระบบของโทรศัพท์ผ่านมือถือของแฟน ก็พบว่าโทรศัพท์ของตนเคลื่อนที่ไปตามถนนก่อนที่จะหายไป ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกลบ iCloud

ทั้งนี้ ตนจำทะเบียนรถไม่ได้ จำได้เพียงรถแท็กซี่คันดังกล่าวเป็นสีเขียวคาดเหลือง ซึ่งอยู่ระหว่างการนำไฟล์บันทึกกล้องวงจรปิดที่ได้มาจากทางสำนักงานเขต มาทำการตรวจสอบ

อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ทางตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือกับผู้ที่ประสบเหตุ เพราะแม้ว่าจะเป็นแค่โทรศัพท์มือถือหาย แต่ก็เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงถึง 40,000 บาท ประกอบกับตนเองยังเคยไปขอให้ทางค่ายโทรศัพท์มือถือที่ใช้บริการอยู่ ช่วยตรวจสอบพิกัด  กลับได้คำตอบจากพนักงานว่าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนสำคัญ ไม่สามารถดำเนินการให้ได้ จึงอยากฝากไปถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือขอให้ช่วยเหลือลูกค้าเช่นตนเองด้วย

ล่าสุด เมื่อเวลา 20.00 น. วานนี้ (19 พ.ย. 65) ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายสวัสดิ์ หรือแท็ก ทรดี อายุ 44 ปี โซเฟอร์แท็กซี่พร้อมด้วยทนายความเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี

นายสวัสดิ์ อายุ 44 ปี คนขับแท็กซี่ (ผู้ต้องหา) กล่าวว่า ตนอยากขอโทษกับสิ่งที่ทำไป สิ่งไหนที่พูดไปแล้วทำให้น้องไม่สบายใจก็ขอโทษ ตนไม่เคยทำแบบนี้ ครั้งนี้เพิ่งทำครั้งแรก แล้วก็เกิดเรื่องเลย น่าจะเป็นช่วงจังหวะชีวิตของตนที่เป็นแบบนี้ ตนขับแท็กซี่มานาน รถคันนี้ใช้มา 9 ปีแล้ว คันเก่าก็ขับมาเกือบ 20 ปี ตนไม่คิดว่าจะเอาของน้องเขาแล้วจะมีปัญหาแบบนี้ จริงๆ ตนไม่คิดจะเอา แต่มันล้วงใต้เบาะ ตนเลยเอาไปล้างเครื่อง และคิดว่ามันใช้ได้ เลยทำให้มีปัญหาตามมาแบบนี้ ตนไม่ได้ตั้งใจจริงๆ

จากการสอบถาม พ่อผู้เสียหาย อายุ 53 ปี กล่าวว่า ทางโชเฟอร์แท็กซี่บอกกับตนว่า จะเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ให้บอกมา ตนจึงบอกว่าถึงจะจน ตนก็ไม่เอาเงิน ทำแบบนี้เหมือนภัยสังคม ลูกของตนไม่ได้โดนคนเดียว ยังมีคนอื่นที่ถูกกระทำแบบนี้ด้วย แต่ไม่กล้าแจ้งความ และเมื่อคืนทางผู้ก่อเหตุ ยังโทรมาขู่ลูกของตนว่า คุณแจ้งความเท็จเดี๋ยวจะเอาทนายมา ระวังจะติดคุก มาขู่เด็กอายุแค่ 20 กว่ามันเกินไป

ตนยืนยันจะไม่ไกล่เกลี่ย จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จะได้รู้สึกผิด แล้วจะได้ไม่ไปทำกับคนอื่น มีคนเคยโดน iPhone 12 มาแล้ว พฤติกรรมเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าใช่เขาหรือเปล่า ตัวโชเฟอร์แท็กซี่เองก็ใช้ iPhone 12 อยู่ เดี๋ยวคงต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบ

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายสวัสดิ์ อายุ 44 ปี คนขับแท็กซี่ ข้อหาลักทรัพย์ ส่วนข้อหาอนาจารอยู่ระหว่างสอบสวน

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/V4ot8nWoquM