รวบเสี่ยยิงกิ๊กเมียคาอ่าง ซัดทอดเมียสั่งจัดการ-เจ้าของรีสอร์ตโอด ยอดจองตก คืนเดียวโอนเงินคืนลูกค้า 5 แสน

 จากเหตุฆาตกรรมนายยุทธภัณฑ์ พ่วงนวม อายุ 27 ปี ถูกยิงที่คอ และหน้าอก รวม 3 นัด เสียชีวิตในอ่างน้ำรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในอ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 7 ก.ย.65 และมีแม่บ้านมาพบศพเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยต่อมาถูกตำรวจคุมตัวได้ในพื้นที่จ.ลำปาง ขณะเตรียมจะข้ามพรมแดน ไทย-เมียนมา

วานนี้ (วันที่ 9 ก.ย.) ตำรวจกองปราบปรามได้ร่วมกับตำรวจทางหลวงลำปาง เปิดเผยคลิปวินาทีที่ สามารถจับกุมตัวนายรุ่งโรจน์ ได้ที่จุดสกัดป้อมตำรวจทางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ขณะที่นายรุ่งโรจน์ ขับรถฮอนด้าซีวิค สีขาว มาพร้อมกับภรรยา โดยตำรวจกองปราบปรามได้ประสานตำรวจทางหลวง ที่อำเภอเกาะคา ให้ตั้งด่านสกัดจับรถเก๋งของนายรุ่งโรจน์ จนกระทั่งจับกุมได้  

ทั้งนี้จากการตรวจค้นกระเป๋าของนายรุ่งโรจน์ พบปืนขนาด 9 ม.ม. ซึ่งคาดว่าเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุยิงนายยุทธภัณฑ์  กระสุนปืน  รวมถึงเสื้อผ้าซึ่งเชื่อว่าเป็นชุดที่นายรุ่งโรจน์สวมใส่วันก่อเหตุ

ล่าสุดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ทางตำรวจกองปราบปรามก็ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเดินทางมาส่งมอบให้ตำรวจ สภ.ภูผาม่านซึ่งเป็นท้องที่ที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนำตัวมาถึงหน้า สภ.ภูผาม่าน ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาลงจากรถ ทางสื่อมวลชนได้เข้าไปบันทึกภาพและสัมภาษณ์ผู้ต้องหาคือนายรุ่งโรจน์ ซึ่งมีสีหน้าวางเฉย ไม่ยอมพูดกับผู้สื่อข่าวที่สอบถามถึงสาเหตุของการลงมือฆ่าแต่อย่างใด แต่ก็ตอบเพียงสั้น ๆ ว่ายังไม่ขอพูดตอนนี้

ขณะที่นางสาว เบญจมาศ ผู้ต้องหาอีกคน ผู้สื่อข่าวก็ได้สอบถามเช่นกันว่าได้นัดแนะกับสามีมาก่อเหตุหรือไม่ น.ส.เบญจมาศบอกว่า ไม่ได้นัดแนะ และไม่รู้มาก่อนว่าเขามาที่นี่ด้วย ส่วนผู้ชายที่ถูกยิงนั้น น.ส.เบญจมาศบอกว่าไม่ใช่คู่รัก เป็นเพียงน้องชายคนสนิทกัน และที่ผ่านมาก็เคยเห็นสามีเคยจะทำร้ายน้องชายคนนี้มาก่อนด้วย เพราะเขาเป็นคนขี้หึง

โดยพล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปรามเบื้องต้นดำเนินคดีกับนายรุ่งโรจน์ ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร


ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. พ.ต.อ.ณัฐ โหม่งพุธ ผู้กำกับการสืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ คุมตัว นายรุ่งโรจน์ เทียนย้อย อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาฆ่านายยุทธภัณฑ์ พ่วงนวม อายุ 27 ปี ตายที่รีสอร์ทในพื้นที่อ.ภูผาม่าน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

และในช่วงทำแผนนั้น นายรุ่งโรจน์ กล่าวว่า ทำทั้งหมดเพราะภรรยาสั่งให้จัดการ เมื่อจัดการแล้วก็หนีไปด้วย และฝากความคิดถึงความห่วงถึงลูกและคนในครอบครัวด้วย และที่ทำทั้งหมดก็ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า

ขณะที่จากการตรวจสอบประวัตินายรุ่งโรจน์ พบว่าเคยก่อเหตุมาแล้ว 5 คดี

1. คดีอาญาที่ 2514/2553 สภ.เมืองสมุทรสาคร ข้อหา 1) พยายามฆ่าผู้อื่น 

2. คดีอาญาที่ 4399/2555 สภ.เมืองสมุทรสาคร ข้อหา 1) ฆ่าผู้อื่น

3. คดีอาญาที่ 1/2563 สภ.ชนบท จ.ขอนแก่น ข้อหา 1) ตัวการมี อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยมิได้อนุญาต (ครอบครองปืนไม่มีทะเบียน), พยายามฆ่าผู้อื่น, ตัวการพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุสมควร หรือพาไปในชุมนุมชน ซึ่งคดีนี้สั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากยิงญาติกันเอง 

4. คดีอาญาที่ 63/2563 สภ.เมืองสมุทรสาคร ข้อหา 1) ตัวการมี อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยมิได้อนุญาต (ครอบครองปืนไม่มีทะเบียน) อยู่ระหว่างมีประกันชั้นศาลสมุทรสาคร 

5. คดีอาญาที่ 255/2563 สภ.เมืองสมุทรสาคร ข้อหา 1) ตัวการมี ใช้ อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยมิได้อนุญาต อยู่ระหว่างหนีประกันชั้นศาลสมุทรสาคร

--------------------------------------------------------------------------

ขณะที่แม่ของนายยุทธภัณฑ์ เดินทางเข้ารับศพ ที่นิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น โดยแม่เล่าว่า ตนมีลูก 3 คน คนเสียชีวิตคือลูกชายคนที่ 2 สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่ยังทำใจไม่ได้ เพราะแม่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกชายคบหากับหญิงรายนี้ที่มีสามีแล้ว เพราะลูกชายเพิ่งเลิกกับแฟนเก่าที่คบกันมา 8 ปี

ในช่วงเช้าวันที่ 7 ก.ย. ขณะที่แม่ขายข้าวห่อสุโขทัย ที่หน้าห้างแห่งหนึ่ง ลูกชายมากินข้าวอิ่ม แล้วก็บอกว่าจะเข้าบ้าน แต่งตัวไปทำงานจนเย็นไม่สามารถติดต่อได้ มีเพียงเพื่อนบ้านมาบอกว่า เห็นลูกชายแต่งตัวพร้อมสะพายกระเป๋าออกจากบ้านเดินไปขึ้นรถเก๋งสีขาว มีผู้หญิงเป็นคนขับมารับซึ่งแม่ไม่เคยรู้จัก แต่ฟังจากเพื่อนลูกชายเล่าให้ฟังจึงรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นพี่สาวของเพื่อนลูก เชื่อว่าน่าจะติดต่อทางโซเชียล ยืนยันไม่ให้อภัย ทั้งผู้ก่อเหตุและภรรยา ขอให้ตำรวจดำเนินคดีตามความผิดที่สูงสุด

ขณะที่ญาติ กล่าวว่า น้องไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง แต่เคยเห็นฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นพี่สาวของเพื่อนมาหาน้องชายอยู่บ่อยๆ ซึ่งการไปเที่ยวและพักที่รีสอร์ตดังกล่าว น้องไม่ได้บอกอะไร จนมารู้ว่าทีหลังว่าน้องถูกยิงเสียชีวิต มารู้เรื่องหลังจากน้องถูกฆ่าตายแล้ว ซึ่งที่น้องถูกฆ่าถือว่าเป็นแต่การกระทำโหดร้ายมาก

-----------------------------------------------------------------------------------

เจ้าของรีสอร์ต นิมนต์พระทำบุญหลังมีเหตุยิงตายคาอ่าง ความจริงตั้งใจถือฤกษ์เปิดทางการวันที่ 9 เดือน 9 พร้อมเผย ยอดจองตก คืนเดียวโอนเงินคืนลูกค้า 5 แสนกว่าบาท ส่วนอ่างถวายวัด หลวงพ่อเตรียมนำไปเลี้ยงปลา ด้านครอบครัวแนะปรับฮวงจุ้ย 2 ซุ้มทางเดิน  

 วานนี้ (9 ก.ย.65) ทางรีสอร์ตที่เกิดเหตุ ได้ โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงลูกค้าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทางรีสอร์ตได้ปิดบริการห้องพักที่เกิดเหตุ และนำเอาวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ออกทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้ทำพิธีทางศาสนา เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย

สำหรับคุณลูกค้าที่ไม่สบายใจ ทางที่พักขอคืนมัดจำเงินห้องพัก 100% สำหรับการจองทุกรูปแบบ โดยให้ท่านติดต่อผ่านช่องทางเดิม และทางที่พักจะทยอยโอนเงินโดยเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวพูดคุยกับเจ้าของรีสอร์ต เปิดเผยว่า ความจริงแล้วตั้งใจจะเปิดอย่างเป็นทางการวานนี้คือ วันที่ 9 เดือน 9 ซึ่งถือว่าเป็นวันมงคล และตัวเลขมงคล แต่ทางรีสอร์ตก็ได้มีการเปิดก่อนหน้านี้แบบไม่เป็นทางการตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทุกคนที่เข้าพักก็ให้ 5 ดาวกันหมดเลย แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทางรีสอร์ตก็สะเทือนใจเป็นอย่างมากโดยเฉพาะแม่บ้านที่ไปเจอ ซึ่งวานนี้ได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีขึ้นบ้านใหม่และสวดอันเชิญ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับคนเสียชีวิต

ส่วนข้าวของต่างๆ หมอน ผ้าห่ม เครื่องอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะอ่าง ในห้องเกิดเหตุ หลังจากที่ทางพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว ทางรีสอร์ทได้ถวายให้กับวัดศิลา อ.ภูผาม่าน

 เจ้าของรีสอร์ต ยังพูดถึงผลกระทบหลังเกิดเหตุการณ์นี้ด้วยว่า ได้รับผลกระทบหนักมาก ก่อนหน้านี้ ห้องพักมียอดจองไปถึงปีหน้า ในคืนเดียวได้โอนเงินคืนให้กับลูกค้าไป 5 แสนกว่าบาท แต่ก็ยังมีลูกค้าบางส่วนที่เข้าใจ ยืนยันจะเข้าพักตามเดิม

 ทั้งนี้ เจ้าของรีสอร์ท ยังมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีการเตรียมการมาแล้ว แสดงว่ามีเจตนามุ่งร้าย แต่ทำไมต้องเป็นที่ของเราด้วย ซึ่งเราก็เห็นใจทุกฝ่าย แต่เราที่ตั้งใจมากที่จะทำรีสอร์ทให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจให้กับลูกค้า แต่ก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

https://youtu.be/UnFd6GLVfAI