ไม่สลด! คลิปเสียงชายวัย 50 หลอก 6 เหยื่อสาว มีเซ็กส์ก่อนแบล็กเมล์ ตามรังความซ้ำซาก อ้างพี่มีแบ็คใหญ่

สุดช้ำ! เหยื่อสาว 6 ราย ถูกชายวัย 50 หลอกคบหามีเพศสัมพันธ์แอบถ่ายคลิปแบล็กเมล์ นำไปเผยแพร่ในโซเชียล-คุกคาม-รังควานคนรอบข้าง-ส่งภาพปืน กดดันให้เหยื่อไปพบร่วมหลับนอนมีเซ็กส์ด้วยเรื่อยๆ ผู้เสียหายอับอายกระทบงานใช้ชีวิตไม่ปกติสุขคิดฆ่าตัวตาย เจ้าตัวลั่นไม่กลัว ขู่ถ้าแจ้งความจะต้องพินาศทั้งคู่

วานนี้ (29 ก.ค.) ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ ผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสาว 2 ราย ได้เข้าร้อง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เพื่อขอความช่วย หลังถูกนายประโยชน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี หลอกให้คบหามีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงกลุ่มผู้เสียหาย แอบถ่ายคลิปแบล็คเมล์นำไปเผยแพร่ทางโซเชียล ข่มขู่กดดันให้ผู้เสียหายไปพบร่วมหลับนอนมีเพศสัมพันธ์ด้วยอีกในครั้งต่อไป

โดยชายคนดังกล่าว จะอ้างว่า หากผู้เสียหายยินยอมมาพบจะเลิกการกระทำดังกล่าว แต่ไม่ทำตามเงื่อนไข ตอนนี้ทราบว่ามีหญิงตกเป็นเหยื่อแล้ว 6 ราย บางรายเครียดอยากฆ่าตัวตายเพราะอับอายกระทบต่องาน รวมทั้งมีพฤติกรรมตามคุกคามรังควานในโซเชียลมีเดีย ครอบครัวและคนใกล้ชิดของผู้เสียหาย

น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี เปิดเผยว่า รู้จักกับนายประโยชน์ จากเฟซบุ๊กและได้คบหากันเมื่อช่วงต้นปี 2565 จากนั้นได้เลิกรากันไป โดยภายหลังได้คบหากันได้ประมาณ 3 เดือน ผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์สร้างบัญชีเฟซบุ๊กอวตาร์ขึ้นมา เพื่อประจานข่มขู่ตนให้กลับมามีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง หากไม่ทำตาม คลิปวิดีโอที่นายประโยชน์ ได้ทำการแบล็คเมล์จะถูกเผยแพร่ไปยังคนรอบข้าง ไม่เคยรู้มาก่อนว่าถูกแอบถ่าย ทำให้อับอายขายหน้าไม่สามารถประกอบอาชีพได้อย่างปกติ

ตนจึงต้องจำยอมไปพบนายประโยชน์ เพื่อมีเพศสัมพันธ์เพื่อให้เรื่องจบ โดยนายประโยชน์นัดหมายให้ไปพบที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านดอนเมือง แต่เมื่อมีเพศสัมพันธ์แล้ว นายประโยชน์ ไม่ได้ทำตามที่บอกกล่าวไว้ และยังคงมีพฤติกรรมแบล็คเมล์ถ่ายคลิประหว่างมีเพศสัมพันธ์เช่นเดิม และยังนำไปประจานถึงบ้านแม่ของตนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ที่อาศัยอยู่ที่ จ.อยุธยา และเมื่อแม่ของตนทราบเรื่อง ก็รับไม่ได้ จนต้องย้ายหนีไปพักอาศัยที่อื่นแทน เพราะเกรงว่านายประโยชน์ จะตามไปรังควาน

ด้าน น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนายประโยชน์ เนื่องจากเห็นว่าน้องชายของนายประโยชน์ ทำงานอยู่ที่บริษัทเดียวกัน จึงเกิดความไว้ใจและได้มีการคบหากันเมื่อปลายปี 2561 ต่อมาปลายเดือน เมษายน ปี 2562 ตนและนายประโยชน์ ได้ทะเลาะกันเรื่องชู้สาว จึงได้เลิกรากันไป จนกระทั่งพบว่านายประโยชน์ ได้แคปภาพบางส่วนจากคลิปวิดีโอขณะที่มีเพศสัมพันธ์กับตน ส่งมาให้ตนทางไลน์และข่มขู่ขอมีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง  

นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมพยายามเผยแพร่คลิปวิดีโอดังกล่าวกับคนรอบข้าง รวมไปถึงพ่อเลี้ยงของตนอีกด้วย จึงตัดสินใจจำยอมทำตามคำบอกกล่าวของนายประโยชน์ โดยการกลับไปพบและมีเพศสัมพันธ์ด้วย เพราะเชื่อใจว่าเรื่องราวจะยุติลง แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายประโยชน์ ยังคงแอบถ่ายคลิปวิดีโอเพื่อใช้แสวงหาประโยชน์ข่มขู่ตนในครั้งถัดๆ ไป รวมแล้วประมาณ 5-6 ครั้ง

ตนจึงตัดสินใจไปแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกนายประโยชน์ มาสอบปากคำ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2562 พร้อมเจรจาว่าให้นายประโยชน์ ลบคลิปวิดีโอทั้งหมดและให้จ่ายเงินค่าเสียหายจำนวน 120,000 บาท และให้นายประโยชน์ เซ็นชื่อรับทราบข้อกล่าวหาว่าได้มีการนำคลิปวิดีโอไปเผยแพร่จริง

ตนเห็นว่าเรื่องเงียบไป นายประโยชน์ ไม่ได้มายุ่งตามรังควานอีก รวมถึงไม่ได้มีการติดต่อกันอีก ตนจึงไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด กระทั่งวันที่ 9 ก.ค.2565 นายประโยชน์ ได้กลับมาส่งคลิปวิดีโอที่เคยมีเพศสัมพันธ์กับตนมาข่มขู่อีกครั้ง ทั้งๆ ที่เวลาผ่านมา 3 ปีแล้ว ตนรู้สึกว่ายังถูกคุกคามอยู่ ยังถูกตามรังควานซ้ำๆ และส่งภาพปืนข่มขู่

ตนจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง อีกครั้ง เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แต่คดีไม่คืบหน้าจึงตัดสินใจเดินทางมาร้องทุกข์กับทนายเดชา เพื่ออยากให้นายประโยชน์ ได้รับโทษจริงจัง และอยากให้ทุกรูปภาพที่นายประโยชน์ อัปโหลดลงเฟซบุ๊กไม่ปรากฏอีกต่อไป เพราะตนยังทุกข์ทรมานซ้ำๆ

ขณะให้สัมภาษณ์ น.ส.เอ (ผู้เสียหาย) ได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่เบอร์ของนายประโยชน์ (เปิดลำโพง) เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่มีการอัปโหลดภาพนิ่ง ภาพสยิวต่างๆ ลงในอัลบั้มที่สร้างไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายประโยชน์ เอง โดยถูกตั้งค่าให้เห็นเป็นสาธารณะเพื่อประจานข่มขู่ และยังถามว่าหากจะยุติเรื่องราวดังกล่าว ยุติการคุกคามรังควานจะต้องทำอย่างไร

โดยนายประโยชน์ ใช้น้ำเสียงหนักแน่นไม่เกรงกลัวต่อความผิดทางกฎหมาย และการกระทำใดๆ ของตนเอง อ้างว่าตัวเองมีแบ็คใหญ่คอยช่วยเหลือทางด้านคดี พร้อมกับระบุให้ผู้เสียหายเดินทางไปพบกับนายประโยชน์ และกลับไปมีเพศสัมพันธ์ด้วยกันอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการอัดคลิปวิดีโอใดๆ เรื่องดังกล่าวจะยุติแน่นอน และข่มขู่ว่าถ้าไปแจ้งความดำเนินคดี ทั้งสองฝ่ายจะต้องพินาศกันไปทั้งคู่

ทนายเดชา กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเมื่อปี 2550 นายประโยชน์ เคยต้องโทษทางคดีข้อหาเป็นธุระจัดหาพาไปเพื่อการอนาจาร ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชื่อเสียง หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และเผยแพร่ภาพลามกอนาจาร

โดยมีพฤติการณ์เข้าหาเหยื่อหญิงสาวด้วยการโปรโมตว่ามีอาชีพเป็นข้าราชการและเป็นวิศวกร มีฐานะการเงินดี เมื่อได้มีการคบหามีเพศสัมพันธ์นั้น ก็จะทำการแบล็คเมล์ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ข่มขู่ขอมีเพศสัมพันธ์ในภายหลัง โดยจะวนเหยื่อรายอื่นๆ ไปเรื่อยๆ ผลัดวนเวียนกัน หากเหยื่อคนไหนไม่ยอม ก็จะไปข่มขู่เหยื่อรายอื่นแทน ด้วยการประจานในเฟซบุ๊กของนายประโยชน์ โดยการสร้างอัลบั้มภาพและตั้งค่าเป็นสาธารณะ เพื่อให้คนอื่นๆ เห็น ซึ่งจะมีภาพนิ่งขณะมีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อสาวรายนั้นๆ เมื่อข่มขู่สำเร็จก็จะทำการนัดหมายเหยื่อให้ไปพบที่โรงแรม ย่านดอนเมือง โดยนายประโยชน์ จะนั่งเครื่องบินมาจาก จ.เชียงใหม่ แล้วลงเครื่องที่สนามบินดอนเมือง

ทั้งนี้ หากย้อนไปตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน มีเหยื่อสาวรวมแล้วจำนวน 6 ราย หลังจากนี้จะรวบรวมจำนวนเหยื่อของนายประโยชน์ ทั้งหมด คาดว่าจะเดินทางไปแจ้งความกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ ปอท. หรือตำรวจไซเบอร์ และ สน.ดอนเมือง พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงเหยื่อรายอื่น ๆ ที่ไม่กล้าไปแจ้งความ สามารถติดต่อและส่งข้อมูลมายังเพจทนายคลายทุกข์ของตนได้ ยินดีให้ความช่วยเหลือ

ความคืบหน้าล่าสุด ผู้กำกับ สน.ดอนเมือง เผยว่า ได้ออกหมายเรียกนายประโยชน์ รับทราบข้อกล่าวหาความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ นำภาพลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ยังไม่มีความผิดเข้าข่ายข่มขู่ โดยผู้กำกับให้เหตุผลว่า มีการส่งคลิปเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ส่งข้อความข่มขู่ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ประสานว่ามารับทราบข้อกล่าวหาเวลาใด

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/KHKT1E-8mqg