ย้อนโพสต์ ด.ญ.14 ตัดพ้อก่อนฆ่าแม่ พ่อมือมีดวัย 16 เผยลูกถูกเพื่อนบูลลี่ ห่วงปรับตัวในสถานพินิจ

ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิต ของนางสาวจีรพา อายุ 53 ปี แม่ของเด็กหญิงเอ อายุ 14 ปี และนายกอต อายุ 23 ปี พี่ชาย ซึ่งถูก นายบี แฟนหนุ่มของด.ญ กิฟ เป็นคนลงมือ ใช้มีดทำครัว แทงจนเสียชีวิต เพราะไม่พอใจที่กีดกันไม่ให้ ด.ญกิฟและนายบี คบกัน ซึ่งขณะนี้ ด.ญกิฟ และนายบี ก็ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อวานนี้ หลังจากทำพิธี เชิญดวงวิญญาณแม่ และรับศพไปทำพิธีที่ วัดเจดีย์ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ นายกอต ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าว ถึงประเด็นที่ เกิดปัญหาในครอบครัวจนทำให้น้องสาว เกิดภาวะกดดัน และสารภาพที่ต้องก่อเหตุ เพราะมีความแค้นแม่สะสมมานาน

นายกอต ระบุว่า น้องคงไม่เข้าใจความรักของแม่ ครอบครัวเราไม่ได้เป็นครอบครัวที่หวาน จะบอกรักกันตลอด แต่เราแสดงความรักด้วยการดูแลกัน ตนยอมไม่เรียนหนังสือ ทุ่มเททุกอย่างให้น้อง พอทำงาน เงินเดือนหมื่นกว่าบาท ก็แม่ไง้ใช้จ่ายในบ้าน ดูแลน้อง พวกเรามีกัน 3 คนดูแลกันแบบนี้มาตลอด

ซึ่งไม่เคยมีใครรู้มาก่อนว่าน้องกิฟมีแฟน จนกระทั่งพฤติกรรมน้องเปลี่ยนไป และมารู้คือวันที่หนีไปอยู่ด้วยกัน ซึ่งตนคาใจกับเรื่องนี้มาก เพราะนายสามารถ พ่อของนายบี อายุ  16 ปี เกิดคำถามสงสัยว่า ทำไมวันเกิดเหตุพ่อถึงมาส่งลูกชายที่หน้าหมู่บ้าน ในเมื่อก่อนหน้านี้ ที่น้องสาวหนีไปอยู่กับนายบี จนกระทั่งตามตัวกลับมาได้ ตกลงกันแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยว

พ่อของนายบี ก็รับปากว่าจะให้เลิกยุ่งกันเลิกติดต่อกัน แต่วันเกิดเหตุกลับเป็นคนมาส่งลูกชายด้วยตัวเอง หากวันนั้นทางพ่อไม่มาส่งลูกชาย อาจจะไม่เกิดเหตุร้ายกับมารดาและตนเองก็เป็นได้  

นายกอต เล่าเรื่องราวก่อนวันเกิดเหตุว่า วันที่ 5 ช่วงเย็น มีข้อความไลน์จากนายบี เป็นคนทักมาบอกว่าตนเองเป็นคนเอาน้องสาวไปอยู่ด้วยไม่ต้องให้มายุ่งกับน้องสาว จะเป็นคนดูแลเอง จนกระทั่งตนเองต่อว่าฝ่ายชายทางไลน์ไป ซึ่งหากไม่ยอมคืนน้องตนเองจะไปแจ้งความ ซึ่งตอนแรกทำทีจะไม่คืน และไม่บอกสถานที่ที่น้องอยู่

ช่วงค่ำจึงชวนแม่ไปที่หน้า สภ.บางพลี เพื่อถ่ายรูปแล้วส่งไปบอกฝ่ายชายว่าจะแจ้งความเพราะตอนนี้มาที่โรงพักแล้ว ทำให้ฝ่ายชายกลัวความผิดจึงยอม และบอกจุดนัดหมายให้ไปรับน้อง  

ตนและแม่จึงเดินทางไปตามที่ส่งพิกัดมา คือที่วัดหนามแดง ส่วนตัวตนคาใจ กับครอบครัวของนายบี มาก เพราะตั้งแต่วันที่น้องสาวหนีไปอยู่ด้วย คนที่มารับน้องสาวไปอยู่กับนายบี คือพ่อนายบี เป็นคนมารับน้องสาวซึ่งช่วงที่ตามหาน้อง และได้น้องกลับคืนมา ก็ต่อว่า พ่อของนายบีไปแล้ว แต่พ่อนายบี อ้างแต่ว่าไม่รู้เรื่อง

ซึ่งตนเองมองว่า จะอ้างว่าไม่รู้ไม่รู้ไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นผู้ใหญ่ แต่ทำไมยอมที่จะให้เด็กหญิงอายุเพียง 14 ปี ไปอยู่กับลูกชายแบบนั้นมันเหมาะสมหรือไม่ เถียงกันไปมา จนกระทั่งสุดท้ายต่างฝ่ายต่างบอกว่าจะไม่ติดต่อกันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก

หลังจากที่รับน้องกลับมาที่ห้อง น้องก็เครียด แต่นิ่งเฉย และยอมเล่าให้ฟังว่าคบกับนายบีได้ปีกว่า โดยที่ทางบ้านไม่มีใครรู้ แม่จึงลงโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นคือยึดโทรศัพท์ทั้งหมด เพื่อไม่ให้ติดต่อกับนายบีได้อีก เพราะเป็นห่วงหากหายตัวไปอีก

แต่น้องก็แอบเอาโทรศัพท์แม่ โทรหานายบี จนกระทั่งมาก่อเหตุสลด โดยนายบีก็ปีนมาทางครัว ขณะที่แม่ออกจากห้องน้ำ ก็พุ่งตัวนำมีดทำครัวกระหน่ำแทง จนเสียชีวิต ส่วนน้องสาวก็ได้แต่ดู โดยไม่มีท่าทีอะไร

เหตุการณ์ทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้น หากพ่อนายบี ไม่มาส่งลูกชาย ใรวันเกิดเหตุ ซึ่งตนไม่เข้าใจว่า ในเมื่อตกลงกันแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก แต่เหตุใด พ่อจึงพาลูกชายกลับมาหาน้องสาวตนอีก และมาฆ่าแม่ หากไม่มาส่งนายบี เรื่องทั้งหมดก็คงไม่เกิดขึ้น

ขณะที่เฟซบุ๊ก ของเด็กหญิงเอ มีการโพสต์ข้อความ ก่อนเกิดเหตุว่า "ถ้าแฟนฉันยอมรับฉันจะได้ออกจากครอบครัวเฮงซวยนี้สักที"

ต่อมาก็โพสต์ข้อความว่า "ในที่สุดฉันก็เป็นอิสระและหนีพ้นจากครอบครัวเฮงซวยสักที"

แต่ไม่นาน ในวันเดียวกัน ก็โพสต์ว่า "จะพากลับหรอ?ฝัน"

เมื่อย้อนกลับไปในอดีต ปี 2021 ช่วงเดือนเมษายน เด็กหญิงเอ ยังเคยโพสต์เฟซบุ๊กในลักษณะตัดพ้อว่า “ทีลูกชายคนนี้ เทิดทูนเก่งแล้วเราแหละ???คนชายนี้ได้ของดีๆ ทีเรากินบ้านๆ” แล้วก็มีสติกเกอร์รูปร้องไห้

ขณะที่ นายสามารถ วงชีพ พ่อของนายบี อายุ 16 ปี ผู้ก่อเหตุ เปิดใจกับทีมข่าวว่า พ่อไม่เคยรู้ว่าลูกชายจะมาก่อเหตุแบบนี้ และจะกล้าทำขนาดนี้ วันนั้นลูกบอกว่าจะไปหาเพื่อน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเพื่อนคนไหน เพราะมีเพื่อนหลายคน และเคยอาศัยอยู่การเคหะนี้ จึงไปส่งลูกชาย ไม่ได้คิดว่าจะไปก่อเหตุ หรือรู้เห็นใดๆ ทั้งสิ้น และไม่เคยบอกว่ามีปัญหาอะไรกับเด็กหญิงเอ

ก่อนวันเกิดเหตุ เด็กหญิงเอมาอยู่ด้วยกับลูกชายจริง แต่มาตอนกลางวัน และช่วง 4 ทุ่มก็ติดต่อกับพี่ชายและแม่พากลับไปส่ง เด็กหญิงเอ อยู่ที่บ้านพ่อไม่ถึง 24 ชม. ระหว่างที่เด็กหญิงเอ อยู่บ้าน ตนก็ถามว่ามาอยู่แบบนี้ พี่ชายและแม่รู้เรื่องหรือยัง ได้บอกที่บ้านมั้ย

เด็กหญิงเอก็บอกว่าพี่ขายและแม่รู้เรื่องแล้วและอนุญาตให้มา จากนั้นเด็กสองคนก็อยู่ในบ้าน กินข้าว ดูทีวี เล่นมือถือ อยู่ในสายตาตนเองตลอด จนกระทั่งตอน 4 ทุ่ม ก็พาไปส่งคืนพี่ชายและแม่

ซึ่งการที่ลูกชายคบกับเด็กหญิงเอ พ่อก็พึ่งทราบเรื่องเมื่อ 2-3 เดือน โดยส่วนตัวพ่อมองว่า พฤติกรรมของลูกชายและเด็กหญิงเอเป็นคนเงียบๆ เหมือนกัน มีโลกส่วนตัว เชื่อว่าเขาสองคนเข้าใจกัน และก็รักกันจริงๆ

ที่ผ่านมา ลูกชายตนมีเพื่อนแต่ก็โดนแกล้ง โดนรังแกมาตลอด เหมือนไม่มีความสุขเวลาอยู่กับเพื่อน ส่วนเด็กหญิงเอ ก็เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด และมารู้ทีหลังว่ามีปัญหากับที่บ้าน เมื่อเขาสองคนอยู่ด้วยกัน จึงเกิดความเข้าใจกัน แต่พอเด็กหญิงเอกลับบ้านไป ก็โดนสั่งห้ามติดต่อกับลูกชายอีก ตอนนั้นไม่รู้ว่าลูกคุยอะไรกันกับเด็กหญิงเอ จนมาเกิดเหตุสลดขึ้น

ส่วนตอนนี้เป็นห่วงลูกชาย ที่อยู่ในสถานพินิจ ห่วงสภาพจิตใจเพราะลูกยังเล็กอยู่ และกังวลว่าจะเข้ากับใครไม่ได้ เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง และเป็นคนเก็บตัวเงียบ

วันที่อยู่รอส่งลูกขึ้นรถเข้าสถานพินิจ ลูกก็บอกว่าขอโทษพ่อแม่ ตนได้แต่บอกว่า แก้ไขอะไรไม่ได้ ให้ปรับตัวให้ได้ ลูกก็บอกว่า จะอดทน และจะขอเรียนหนังสือระหว่างที่อยู่ในสถานพินิจ จะเรียนให้จบม.6

ส่วนเด็กหญิงเอ ไม่มีญาติมาหา และหากพ้นโทษออกมาแล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีใครดูแลหรือไม่ แต่หากจะมองเรื่องความรัก ตนเชื่อว่าลูกชายรักเด็กหญิงเอจริงๆ ถึงยอมทำขนาดนี้

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/r-qz8_JfAik