รวบ LGBTQ+ สวมรอยห้องป้านัดหนุ่ม รับทำเพราะแค้น ใครโอนค่าตัวไม่ครบ จะได้พิกัดหมุดห้องป้า

รวบแล้ว LGBTQ+ สวมรอยห้องป้า นัดชายหนุ่มมาเคาะห้องป้า กล่าวขอโทษ จากใจ จะไม่ปฏิบัติแบบนั้นอีกแล้ว ขอให้สังคม ขอให้โอกาส


นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมด้วยคุณป้าใหม่ เดินทางไปที่ สภ.บางใหญ่ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายลักษณ์ หรือ นายอั้ม หรือ นายบอย LGBTQ + (สาวประเภท2) หลังสวมรอยห้องพักของป้าใหม่ บ้านเอื้ออาทร ย่านบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ในการนัดชายหนุ่มแปลกหน้า


โดยลักษณ์ ได้พูดกับป้าว่า ขอโทษป้าจากใจ ไม่มีเจตนาให้ผู้ชาย หรือคุณกัน รวมถึงสื่อต้องเสียเวลามา พอตนเองเห็นข่าว ไม่คิดว่าจะเยอะแยะมากมายขนาดนี้ ตนยอมรับผิด และไม่ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ตลอดชีวิต


เมื่อถามว่าทำไปทำไมนั้น นายลักษณ์บอกว่า เห็นผู้ชายที่จะมาเสพหญิง หรือ กะเทย ใช้เงินเล็กน้อยมาก ถ้าเทียบกับเงินกินข้าว ซื้อข้าว ใช้เงิน 100-200 บาท เลยโกรธแค้น เหมือนดูถูกหนู ซึ่งรายไหนที่ต่อรอง โอนไม่ครบตามที่ตกลงครึ่งหนึ่ง 600 บาท ก็จะปักหมุดสุ่มพิกัด เป็นห้องป้า แต่ยืนยันว่าตนเองไม่รู้จักกับป้าเป็นการส่วนตัว แต่ตนเองเคยอาศัยในตึกดังกล่าว จึงรู้เลขห้อง ภายในอาคารเอื้ออาทรว่ามีเลขไหนบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญที่ส่งไปเจอป้า และทันทีที่ทราบข่าวเมื่อวานนี้ ก็รู้สึกตกใจ และอยากคอมเม้นต์ขอโทษแต่ก็ไม่กล้า และคิดอยู่ในใจว่าพรุ่งนี้จะต้องเดินทางมาพบตำรวจให้ได้ เพื่อขอโทษป้า


โดยตนจะโพสต์ข้อความรับงานผ่านเอ็กซ์ตามปกติ โดยจะโพสต์ว่า รับบริการแบบนี้ ราคาเท่านี้ต้องโอนมัดจำนวนเท่าไหร่ ถึงเข้าห้องได้ ก่อนนัดไปที่ห้องป้าโดยการสุ่ม ไม่เคยบาดหมางอะไร ซึ่งยืนยันว่าเป็นอาชีพที่ทำแค่เพียงครั้งคราวจากการว่างงาน พอทราบข่าวตกใจ และบล็อกทุกอย่าง ไม่ใช่จะนิ่งนอนใจ และรับสารภาพทุกอย่าง


เมื่อถามว่าตั้งใจหลอกไหม? นายลักษณ์บอกว่าไม่ได้ตั้งใจหลอก แต่ทำไมมาซื้อบริการคนด้วยราคาเท่านี้ 200 บาท 100 บาท โดยทำมาเพียง 4 -5 ครั้ง ในระยะเวลาประมาณ 4 เดือน เดือนละครั้ง ก็อปรูปจากเนต ให้ชายอยาก ให้เข้าใจว่าสวย บางทีก็ใช้รูปตัวเอง พร้อมบอกว่าตนเองก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร แม้บางครั้งผู้ชายเจอหน้าจริงแล้วไม่ตรงปกก็ยังยอมมีสัมพันธ์กับตนเอง โดยตั้งแต่ทำมาตนเองได้เงินจากการหลอกส่งพิกัดไป 1000 กว่าบาทเท่านั้น


ตนเองขอโทษป้าจากใจ จะไม่ปฏิบัติแบบนั้นอีกแล้ว ขอให้สังคม ขอให้โอกาส


ส่วนประวัติ ติดแบล็คลิสต์ขายหน้ากากอนามัย ในเว็บไซต์นั้น ยืนยันว่าไม่ได้ฉ้อโกงมีการซื้อขายหน้ากากจริง เพียงแต่ส่งล่าช้า และได้มีการโอนเงินคืนให้กับผู้เสียหายไปแล้ว เพียงแต่ผู้เสียหายไม่ยอมถอนแจ้งความ ยืนยันว่าตนเองมีหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงินคืน แต่ไม่สามารถเอาให้ดูได้เพราะนานแล้ว


ส่วนประวัติยาเสพติด ยืนยันว่าไม่ได้เอาเงินที่ได้จากการหลอกผู้ชายไปเสพยาและให้ตรวจสารเสพติดในร่างกายตนเองได้เลย


พร้อมชดใช้เยียวยาตามความเหมาะสมโดยจะขอคุยกับคุณป้าเป็นการส่วนตัว / ส่วนเหยื่อที่เป็นผู้ชายจะติดต่อโอนเงินคืนให้กับทุกราย


ด้านป้าใหม่ ก็ถึงกับร้องไห้ และบอกว่า สิ่งที่เจอหนักมาก ไม่ได้มีผู้ชายแค่สี่คนตามที่กล่าวอ้าง แต่มีเป็น 10 คนที่มาเคาะหน้าห้อง และลองคิดดูว่าคนที่มา มันมีความต้องการ เกิดถ้าผลักเราเข้าห้อง และตนก็มืลูกสาว ลูกสาวก็ร้องไห้ เรากึร้องไห้ ทุกคนไม่มีความสุข อยากขายห้อง หนูทำแบบนี้ แต่จิตใจคนในครอบครัวมันหนักมาก คือหนูคิดว่าจะแด้แก้แค้นพวกนั้น แต่เราหวาดกลัวพวกนี้ ออกห้องหันซ้ายขวา ลูกสาวจิตใจบอบช้ำมาก ทุกคนบนชั้นหวาดกลัว ต้องโทรหากัน มาเป็นเพื่อนกันข้างนอก


โดยป้าต้องลงทุนซื้อกล้องมาดู เชื่อมต่อใช้เนตเพื่อนข้างห้อง ผู้สื่อข่าวเลยสอบถามจะเยียวยาให้กับคุณป้าอย่างไร เจ้าตัวบอกว่าขอคุยกับป้าส่วนตัว แต่คุณป้าบอกว่าถ้าจะคุยต้องมีคนกลางก็คือผู้กำกับอยู่ด้วย


ทั้งนี้ ป้าบอกว่าก็เข้าใจ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งจากสิ่งที่นายลักษณ์พูดมา และไม่อยากให้ทำอีก ครั้งนี้ให้ครั้งสุดท้าย ครั้งเดียว ทำแบบนี้ไปไม่เป็นผลดีกับเธอ


จากนั้นเจ้าตัวก็ได้เดินไปก้มกราบตักขอโทษคุณป้า ซึ่งคุณป้าก็ได้ตักเตือนและสั่งสอน และย้ำว่าอย่าทำแบบนี้อีก ในช่วงระหว่างนี้ทีมข่าวสอบถามว่ารู้สึกสำนึกผิดกับสิ่งที่กระทำหรือไม่


เจ้าตัวบอกว่ารู้สึกสำนึกผิดสิ หนูเป็นคน หนูก็ต้องมีความสำนึกผิด พร้อมยอมรับว่าไม่เคยคิดว่าการส่งพิกัดแบบนี้จะส่งผลกระทบมากถึงขนาดนี้ พร้อมย้ำว่าตนเองก็มีความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ว่า ทำแบบนี้แล้วจะชดใส่  ขณะที่ครอบครัวก็ตอบว่าตนเองรุนแรงกว่าที่คุณป้าสั่งสอนด้วยถ้อยคำรุนแรง


โดย พ.ต.อ. รณภัฎ ทับทิมธงไชย ผู้กำกับการ สภ. บางใหญ่ เปิดเผยว่า จากที่เมื่อวานนี้ เรามีข้อมูล และติดตามผู้ก่อเหตุ จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุพักอาศัยละแวกนี้ ทางสายสืบ จึงลงพื้นที่ และเป็นที่แน่ชัดว่าพักอยู่ใกล้เคียง ละแวกตลาดแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวตามหมายเรียก ซึ่งขณะนั้นผู้ก่อเหตุนอนหลับอยู่ จึงไปปลุก และเจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือดี พร้อมที่จะมาตั้งแต่ทราบข่าว แต่เจ้าตัวอ้างว่าตกใจข่าวอยู่


เบื้องต้น ได้มีการสอบปากคำ แจ้งข้อหา และดำเนินการตามขั้นตอนครบถ้วน เบื้องต้นแจ้งข้อหา ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งมีโทษปรับ ส่วนฉ้อโกง ต้องมีผู้เสียหายมาแจ้งความก่อน ส่วนคดีค่างเก่า อยู่ระหว่างดำเนินการ


โดยหลังจากนี้ จะคฺมตัวผู้ก่อเหตฺไปสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา และตรวจสอบข้อหาอื่นๆ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา แต่เบื้องต้นผู้ก่อเหตุยังไม่มีเงินเสียค่าปรับในคดี

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/cvt8gJbcyqY