หิ้วปีกขึ้นโรงพัก! ไรเดอร์แทง รปภ.ดับ โมโหลูกค้ายกเลิกออเดอร์ เมียลั่นผัวเป็นคนดีไม่เคยเสพยา

เมื่อคืนนี้มีไรเดอร์ไปก่อเหตุแทง ลุง รปภ. ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเสียชีวิต เนื่องจากโมโหที่ถูกลูกค้ายกเลิกออเดอร์ เลยไปตามหาลูกค้าจนมีปากเสียงกับคุณลุง รปภ. ล่าสุด เมื่อเช้านี้ ตำรวจตามไปรวบตัวไรเดอร์ได้แล้ว แต่เจ้าตัวหลับไม่ได้สติ ตำรวจต้องหิ้วปีกเข้ามาที่ สน.คลองตัน


นี่เป็นภาพขณะตำรวจ สน.คลองตัน นำตัว นายอัครวิทย์ อายุ 36 ปี เข้ามาที่โรงพัก หลังเมื่อคืนนี้ นายอัครวิทย์ ไปก่อเหตุแทง นายเพียงใจ เขียวนิล อายุ 48 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านพัฒนาการเสียชีวิต แล้วหนีกลับไปกบดานที่บ้านพักในซอยหัวหมาก 29 โดยนายอัครวิทย์ อยู่ในอาการสะลึมสะลือ ไม่ได้สติ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันหิ้วปีกเข้าไปในห้องสืบสวน


ย้อนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ตอนประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง ตำรวจ สน.คลองตัน ได้รับแจ้งเหตุ รปภ. ถูกไรเดอร์ใช้มีดแทงเสียชีวิตที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในซอยพัฒนาการ 37 ไปตรวจสอบพบร่าง คุณลุงเพียงใจ ผู้เสียชีวิต จมกองเลือดอยู่ด้านในอาคาร มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่ท้อง ส่วนด้านหน้าอาคาร พบร่องรอยเลือดตามทาง และมีมีดปลายแหลมที่ผู้ก่อเหตุใช้แทงตกอยู่


ภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพตอน 4 ทุ่ม 17 นาที เห็นไรเดอร์ขี่จักรยานยนต์เข้ามาในมหาวิทยาลัย จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า ไรเดอร์ได้เข้าไปถามคุณลุงว่า "มีใครสั่งอาหารไหมครับ ออเดอร์ผมโดนยกเลิก" คุณลุงก็ตอบว่า "น่าจะไม่มีนะ ไม่เห็นใครมานั่งรอรับอาหาร" จากนั้นมีการต่อว่ากัน จนคุณลุงบอกให้ไรเดอร์ออกจากพื้นที่ ทำให้ไรเดอร์ไม่พอใจ เอาอาวุธมีดออกมาแทงเข้าที่หน้าท้องของคุณลุง แล้วขี่รถจักรยานยนต์หนีไปตอน 4 ทุ่ม 29 นาที ตามเวลาในกล้องวงจรปิด


หลังจากนั้น คุณลุงเพียงใจ ได้พยายามเดินเข้าไปตะโกนขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่ทำงานอยู่ในอาคาร แต่สุดท้ายก็หมดแรง ล้มลงจมกองเลือด แล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา


หลังจากนั้น ตำรวจ สน.คลองตัน แกะรอยจนไปพบไรเดอร์ที่ก่อเหตุ คือ นายอัครวิทย์ ที่บ้านพักในซอยหัวหมาก 29 ซึ่งนายอัครวิทย์กำลังนอนหลับอยู่กับภรรยา ตำรวจเลยปลุก เจ้าตัวก็ตกใจ ตาค้าง ตำรวจจึงพาตัวมาที่ สน.คลองตัน ในสภาพที่ต้องหิ้วปีก พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีน้ำเงิน-ขาว, หมวกกันน็อคสีแดง, อาวุธมีด, และเสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ


ด้าน นางอำไพ ภรรยาของคุณลุงเพียงใจ เดินทางมาที่ สน.คลองตัน ด้วยอาการโศกเศร้า น้ำตาคลอ เปิดใจกับสื่อว่า เมื่อคืนนี้ตนอยู่ที่บ้าน ส่วนสามีไปทำงานตามปกติ ซึ่งจะเข้างานตอน 1 ทุ่ม เลิกงาน 7 โมงเช้าทุกวัน ทำแบบนี้มาเป็น 10 ปีแล้ว แต่เมื่อคืนได้มีเพื่อนของสามีมาเรียกที่บ้าน บอกว่าสามีถูกแทง ตอนนั้นตนตกใจมาก ช็อคไปเลย ทำอะไรไม่ถูก เลยรีบไปที่เกิดเหตุ ก็พบว่าสามีเสียชีวิตแล้ว


โดยตนเพิ่งมาเห็นในโทรศัพท์ว่า หลังถูกแทง สามีได้โทรเข้ามาหาตน 2 ครั้ง ตอน 4 ทุ่ม 29 นาที กับ 4 ทุ่มครึ่ง แต่ตนไม่ได้รับสาย เพราะหลับไปแล้ว


ยืนยันว่า สามีไม่สั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันแน่นอน เพราะมีเงินติดตัววันละไม่เกิน 60 บาท ซึ่งก็อยากถามผู้ก่อเหตุว่า มาทำแบบนี้ทำไม ตนไม่มีใครแล้ว สามีเป็นเสาหลักของครอบครัว มีกันอยู่แค่ 2 คน


ด้าน ภรรยาของนายอัครวิทย์ ผู้ต้องหา บอกว่า เมื่อคืนสามีกลับบ้านมา แล้วก็นอนหลับทันที ตนเพิ่งมารู้เรื่องตอนที่ตำรวจบุกมาจับ ยืนยันสามีไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน และไม่เคยเสพยา แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยู่ในอาการสะลืมสะลือแบบนี้ คิดว่าน่าจะเพลีย ซึ่งตนก็อยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย


ล่าสุด เมื่อตอนบ่าย 3 ครึ่ง นายอัครวิทย์ตื่นนอน และรู้สึกตัวแล้ว ตำรวจจึงพาตัวไปสอบปากคำในห้องสอบสวน ซึ่งระหว่างที่คุมตัวมา นายอัครวิทย์ก็บอกกับนักข่าวว่า ตอนที่เข้าไปถามหาลูกค้า คุณลุงเพียงใจพูดจาไม่ดีใส่ มีการท้าต่อย จึงทำให้โมโห ยืนยันตนมีหลักฐานว่ามีลูกค้าสั่งอาหารมาแล้วยกเลิกออเดอร์จริงๆ


ขณะที่ พันตำรวจเอก วชิรากร วงศ์บุญ ผู้กำกับการ สน.คลองตัน ระบุว่า หลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ระหว่างทางได้แวะหาเพื่อนแล้วบอกว่าไปแทงคนตายมา พอไปถึงบ้านก็เล่าให้ภรรยาฟังด้วย ซึ่งจากการสอบปากคำภรรยา บอกว่า ผู้ต้องหามีอาการเพ้อ จึงนำยานอนหลับ 3 เม็ดให้ทาน จนตำรวจเข้าไปพบตัว เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" และ "พกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร" และตรวจสอบประวัติพบเคยถูกจำคุกในคดียาเสพติดและคดีเกี่ยวกับอาวุธปืนด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/BBJ7kzfNG7M