อาชญากรรม

แม่ร้องลูกสาว ม.2 ถูกเพื่อนรุมบูลลี่-ทำร้าย ลูกเครียดกินยาหวังปลิดชีพ เพื่อนรู้ข่าวไม่สลดเยาะเย้ยซ้ำ

โดย paweena_c

27 ม.ค. 2568

189 views

คุณแม่ พร้อมลูกสาววัย 14 ปี เข้าร้องมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอความช่วยเหลือ หลังลูกสาว ซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ม.2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดกำแพงเพชร ถูกนักเรียนชายในห้อง และนักเรียนชายชั้นอื่น กลั่นแกล้ง ทั้งบูลลี่ ทำร้ายร่างกาย เตะบอลใส่หน้า ตบหัว ถีบหลัง จนเด็กหญิงคิดสั้นกินยาฆ่าตัวตาย

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดยคุณแม่ท่านหนึ่ง ที่เดินทางมาพร้อมกับลูกสาวจากจังหวัดกำแพงเพชร มาที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ เนื่องจากลูกสาววัย 14 ปี ที่กำลังเรียนอยู่ ม.2 ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ของอำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ถูกเพื่อนนักเรียนชายกลั่นแกล้ง ทำร้ายร่างกาย บลูลี่ จนลูกสาวเกิดความอับอาย เครียดสะสม

คุณแม่ของน้องรายนี้เล่าว่า เหตุการกลั่นแกล้งในโรงเรียน เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567 ลูกสาวถูกเพื่อนนักเรียนชาย ม.2 ในห้องเรียนเดียวกัน 2 คน ร่วมกับรุ่นน้อง ม.1 และรุ่นพี่ ม.3 รวม 4 คน คอยกลั่นแกล้ง บูลลี่ ทำร้ายร่างกายเป็นประจำ ทำต่อเนื่องซ้ำๆ เป็นเวลาถึง 8 เดือน จนลูกสาวเครียด ไม่อยากไปโรงเรียน ที่ผ่านมานำเรื่องไปบอกครูแล้ว ครูทำโทษกลุ่มนักเรียนชายและทำทัณฑ์บนไว้ แต่ทั้ง 4 คน กลับไม่เข็ดหลาบ ยังแกล้งลูกสาวหนักกว่าเดิม

ปกติลูกสาวเป็นเด็กค่อนข้างอ่อนแอ ไม่สู้คน ลูกสาวเริ่มถูกกลุ่มเด็กนักเรียนชายกลั่นแกล้ง ช่วง ม.2 เทอม 1 เริ่มจาก เพื่อนนักเรียนชาย 2 คนที่อยู่ห้องเดียวกัน(ด.ช.เอ และ ด.ช.บี) ชอบบูลลี่เรื่องหน้าตา ด่าหยาบคาย ตบศีรษะ ถีบหลัง ยกขาพาดไหล่ ชอบเอาหนังสือและสมุดเรียน รองเท้านักเรียน เสื้อคลุมนักเรียนของลูกสาวไปทิ้งถังขยะหลังห้องเรียน บางครั้งค้นกระเป๋าเอาผ้าอนามัยไปเล่น และไปแขวนหน้าห้องเรียน ตะโกนพูดว่าเป็นของลูกสาวทำให้ลูกสาวอายคนอื่น

แต่ที่หนักสุดวันที่ 14 มิถุนายน 2567 ขณะที่ลูกสาวนั่งอยู่กับเพื่อนผู้หญิงที่ข้างสนามฟุตบอล ด.ช.เอ ได้แกล้งเตะฟุตบอลมาอัดใส่หน้าอย่างจัง จนหน้ามืดเป็นลม ขณะที่ ด.ช.บี ที่ยืนดูอยู่ก็หัวเราะชอบใจ หลังเกิดเหตุลูกสาวได้ไปบอกครูที่ปรึกษา ครูได้ทำการตักเตือน แต่ ด.ช.เอ กับ ด.ช.บี ก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมกลั่นแกล้ง แถมยังข่มขู่ ห้ามไม่ให้บอกครูหรือบอกพ่อแม่ ไม่งั้นจะโดนหนักกว่าเดิม

ส่วนด.ช.ซี (นามสมมุติ) รุ่นน้อง ม.1 อายุ 13 ปี ก็ชอบแกล้งผลักลูกสาว ด่าหยาบคาบทุกครั้งที่เจอหน้า ขณะที่ ด.ช.ดี (นามสมมุติ) รุ่นพี่ ม.3 ได้ทำร้ายลูกสาว เช่น เตะก้อนหินใส่หัวและขา จุดไฟแช็กใส่หน้า และบลูลี่เรื่องต่างๆ

หลายครั้งที่ลูกสาวถูกกลั่นแกล้งจะอดทน ไม่กล้าบอกครูและพ่อแม่ แต่บางครั้งลูกสาวทนไม่ไหว ก็จะมาบอกพ่อกับแม่ แต่ยิ่งนานวัน ลูกสาวยิ่งถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจหนักขึ้นเรื่อยๆ

จนกระทั่งวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา ลูกสาวมีภาวะเครียดจัด จึงคิดสั้น กินยาพาราฯเกินขนาด จำนวน 30 เม็ดหวังจบชีวิต แต่พ่อแม่เข้ามาเห็น จึงรีบพาลูกส่งโรงพยาบาล แพทย์ช่วยล้างท้องไว้ได้ทัน ลูกต้องนอนโรงพยาบาลถึง 3 คืน 4 วัน แพทย์ผู้รักษาวินิจฉัยว่า ลูกสาวมีอาการเครียดสะสม ป่วยซึมเศร้า เหตุการณ์นั้นทำให้แม่เสียใจมาก เมื่อถามเหตุผลว่า ลูกสาวบอกว่า

"ถูกเพื่อนแกล้ง ครูก็ได้แต่ทำทัณฑ์บนเรียกตักเตือนเท่านั้น ไปโรงเรียนก็โดนหนักกว่าเดิมทุกวัน ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว" ฟังแล้วใจแม่แทบสลาย อยากจะช่วยลูกให้ได้

หลังลูกสาวไปล้างท้อง รอดชีวิตมาได้ เมื่อเพื่อนที่โรงเรียนรู้ข่าว มีกลุ่มเพื่อนของเด็กนักเรียนชายทั้ง 4 คน ที่ก่อเหตุ ได้ส่งข้อความมาเยาะเย้ย และเหน็บแนมว่า "โดนแค่นี้ถึงกับเป็นซึมเศร้าเลยหรือ?" ลูกสาวก็พยายามจะฆ่าตัวตายอีก ทำให้ทุกคนในครอบครัว ต้องดูแลน้องอย่างใกล้ชิด

ดังนั้นวันนี้ทางครอบครัวจึงตัดสินใจ เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณา ฯ เพื่อให้ช่วยเรื่องย้ายโรงเรียนของลูกสาว และอยากให้ประสานกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการแก้ปัญหา อยากให้ลงโทษและปรับพฤติกรรมเด็กนักเรียนชายกลุ่มนี้ จะได้ไม่ไปทำกับเด็กคนอื่นอีก

ด้านนายธีรดนย์ ศรีฟ้า ผู้อำนวยกลุ่มส่งเสริมความสุขและความปลอดภัย สพฐ.กระทรวงศึกษาธิการ

ได้เดินทางมารับทราบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง พร้อมเตรียมประสาน สพฐ.เขต 1 กำแพงเพชร หารือกับสถานศึกษา ดำเนินการตามที่ผู้ปกครองร้องขอ พร้อมจัดนักจิตวิทยาเข้ามาดูแลสภาพจิตใจด้วย

ส่วนมาตรการกับทางโรงเรียน สพฐ.จะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบโรงเรียน ให้มีมาตราการลงโทษนักเรียนผู้กระทำผิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีก



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/gkKoflvCiLM

คุณอาจสนใจ