อาชญากรรม

'บิ๊กอ้อ' เปิดแผนสังหาร 'สจ.โต้ง' เชื่อถูกลวงมาฆ่า ยังให้น้ำหนักขัดแย้งการเมือง

โดย panwilai_c

13 ธ.ค. 2567

69 views

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ชำแหละแผนฆ่า สจ.โต้ง หลังเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในบ้านพักของ "โกทร" ระบุ เป็นการวางแผนเพื่อลวงมา "ฆ่า"



เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พลตำรวจโท อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ "บิ๊กอ้อ" ลงพื้นที่พร้อมตำรวจกองปราบปรามเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีนี้ หลัง ผบ.ตร.กำชับให้ "บิ๊กอ้อ" มาตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด เพราะคดีนี้เป็นเรื่องการการเมืองท้องถิ่น และผู้มีอิทธิพลในพื้นที่



ทันทีที่มาถึง "บิ๊กอ้อ" ลงพื้นที่บ้านของโกทรทันที เพื่อจะดูสถานที่เกิดเหตุ วิถีกระสุน และจำลองไทม์ไลน์การเกิดเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ในการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานในบ้าน และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไป



หลังจากนั้นออกมาประชุมประมวลเหตุการณ์ร่วมกับทีมพนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองปราจีนบุรี และกองปราบปราม นานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนจะเปิดเผยว่า การสังหาร สจ.โต้ง ถูกวางแผนและเตรียมการกันมาล่วงหน้า ทุกอย่างมีการไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนการบงการ ก็อยู่ในส่วนของการไตร่ตรอง ซึ่งจากการประชุมกัน เชื่อว่าไม่ได้เป็นเหตุฉับพลันในวันนั้น น่าจะมีการวางแผนล่วงหน้ามาก่อนซึ่งเป็นวันก่อนเกิดเหตุ



เมื่อตรวจบ้านที่เกิดเหตุพบว่า บ้านหลังที่เกิดเหตุมี 3 ชั้น เหตุเกิดชั้น 2 พบร่องรอยการถูกทำร้าย การยิง การใช้อาวุธ ส่วนชั้นล่างพื้นราบ มีปลอกกระสุนและเศษกระสุนจำนวนมาก จากการตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วน่าเชื่อได้ว่า "ตามลงมายิงจากชั้น 2 มาชั้นล่าง" ซึ่งวิถีกระสุนโดยละเอียด ว่ายิงในลักษณะไหน ยิงกดหรือยิงตรง อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์จากพิสูจน์หลักฐาน เพราะมีการยิงจากในบ้านออกไปนอกบ้าน และนอกบ้านเข้าไปในบ้านด้วย ซึ่งขณะนี้รอการจำลองเหตุการณ์จากตำรวจพิสูจน์หลักฐาน



นักข่าวถามว่า วันเกิดเหตุ สจ.โต้ง พยายามจะวิ่งหนีลงมาแล้วมือปืนออกมายิงใช่หรือไม่ "บิ๊กอ้อ" บอกว่า ลักษณะเป็นเช่นนั้น เพราะมีการยิงซ้ำโดยดูจากร่องรอยวิถีกระสุน แต่ไม่แน่ใจว่าผู้เสียชีวิตเห็นมือปืนก่อน หรือ มือปืนยิงก่อน



ส่วนมือปืนจะยิงด้วยลูกซองก่อนไหม ตามยุทธวิธีของเจ้าหน้าที่ต้องเปิดด้วยลูงซองก่อน เพื่อยับยั้งการเคลื่อนไหวของเหยื่อ และจึงเลือกยิงเหยื่อ จึงเชื่อว่า คนใช้ปืนมีความรู้ "คนใช้ปืนเป็นต้องรู้ยุทธวิธี เปิดด้วยลูกซอง นัดแรกต้องหยุดก่อน นัดต่อไปค่อยเลือกยิง" ส่วนเลือกยิงประชิดที่หัวหรือไม่นั้น รอ พฐ.สรุป และจากการยิงจำนวนมาก คงไม่ปล่อยให้หลุดออกไปนอกบ้านได้แน่นอน นี่จึงยืนยันได้ว่า "ล็อกเป้าไว้แล้ว"



สอดคล้องกับแหล่งข่าวระดับสูงของตำรวจที่ให้ข้อมูลกับทีมข่าวอาชญากรรม ว่า วิธีที่คนร้ายที่ลงมือยิงก่อเหตุแบบเป็นยุทธวิถี หมายถึง ต้องเป็นผู้ที่ได้รับการฝึกฝนมาจากผู้เชี่ยวชาญ หรือ ต้องเป็นคนที่มีความรู้เฉพาะทาง



ในคืนวันเกิดเหตุ (11 ธ.ค.67) สจ.โต้ง พร้อมพวก 7 คน เดินทางไปที่บ้าน "โกทร" เพื่อเจรจาเรื่องการลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่น รอบแรกเข้าไปเจรจาใช้เวลาประมาณ 30 -40 นาที แต่มีปากเสียงกันรุนแรงกับ โกทร ทำให้ สจ.โต้ง เดินออกมาที่หน้าบ้านเพื่อสงบสติอารมณ์ แล้วเดินย้อนกลับเข้าไปในบ้านเพื่อคุยกับ โกทร อีกครั้ง



แต่ครั้งนี้เดินเข้าไปในบ้านคนเดียว ส่วนลูกน้องรออยู่หน้าตัวบ้าน ซึ่งรอบ 2 ใช้เวลาพูดคุยราว 5-10 นาที แต่ครั้งนี้แปลกตรงที่มีการล็อคประตูภายในบ้าน แล้วไม่นานเสียงปืนก็ดังขึ้น ลูกน้องของ "โกทร" ได้ห้าม ลูกน้อง สจ.โต้ง ว่า อย่ายุ่ง เป็นเรื่องของนาย



ซึ่งจุดที่ยิงคนร้ายยิงน่าจะมาจากชั้น 2 เปิดด้วยลูกซอง และตอนที่โดนยิง สจ.โต้ง พยายามวิ่งหนีตาย ทำให้คนร้ายใช้ปืนขนาด 9 มม. ยิงซ้ำ จากด้านหลัง ซึ่งสอดคล้องกับผลชันสูตรที่ระบุว่า สจ.โต้ง ถูกยิงจากด้านหลัง เข้าที่หลัง 1 นัด และที่ก้นอีก 2 นัด สาเหตุที่กระสุนเข้าก้นน่าจะเพราะ สจ.โต้ง พยายามวิ่ง ทำให้กระสุนพลาดเป้า จากนั้นมีการยิงซ้ำเข้าที่หัวอีก 2 นัด เพื่อให้แน่ใจว่า สจ.โต้ง ไม่รอด



กรณีที่มีตำรวจ 4 นาย อยู่ที่หน้าบ้านโกทรในช่วงเกิดเหตุ "บิ๊กอ้อ" ยอมรับว่าจริง แต่ทั้งหมดอยู่นอกตัวบ้านอ้างว่าไปทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ตอนนี้อยู่ระหว่างสอบสวนว่าไปดูแลความปลอดภัยให้ใคร "โกทร" หรือ "สจ.โต้ง" ตอนเกิดเหตุยิงที่ไม่สามารถเข้าไประงับเหตุได้ เพราะอยู่ข้างนอก ทำให้มีการยิงโต้ตอบกัน ตอนนี้สั่งให้คณะทำงานภาค2 ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง



สำหรับที่ภรรยาของ สจ.โต้ง ร้องขอให้โอนคดีไปที่กองปราบปราม ยังต้องพิจารณาก่อน เนื่องจากการทำงานของภาค 2 ก็ถือว่าทำได้ดี ถ้าครอบครัวผู้เสียชีวิตไม่มั่นใจในความปลอดภัย สามารถร้องขอกำลังตำรวจไปคุ้มครองได้



ส่วนชนวนเหตุการสังหาร ขณะนี้ตำรวจให้น้ำหนักไปที่ การหาผู้สมัครลงแข่งชิงเก้าอี้ นายกฯ อบจ.ปราจีนบุรี


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/QEK2nmiUS_A

คุณอาจสนใจ

Related News