อาชญากรรม
ลูกจ้างอำเภอ ร้องอธิบดีอัยการ ถูกบีบให้ออกราชการ เชื่อโยงคดีสาวใช้ฮุบสมบัติ 500 ล้าน
โดย olan_l
11 ธ.ค. 2567
144 views
เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน ร้องขอความเป็นธรรม เชื่อถูกที่ทำงานกลั่นแกล้ง หลังออกมาเปิดเผย ถูกปลอมลายเซ็น จนทำให้เอกสารการอ้างตัวเป็นบุตรบุญธรรมเป็นเอกสารเท็จ
เมื่อปี 2565 มีข่าว สาวใช้ฮุบมรดก 500 ล้านบาทของเศรษฐินี สมุทรสาคร ตอนนั้นที่เรื่องแดงขึ้นมา เพราะ มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน อำเภอเมืองสมุทรสาคร ออกมาเปิดเผยว่า เธอถูกปลอมลายเซ็น จนทำให้เอกสารการอ้างตัวเป็นบุตรบุญธรรมเป็นเอกสารเท็จ
ล่าสุดเรื่องนี้กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เพราะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนคนดังกล่าวออกมาร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากเธอเชื่อว่าถูกที่ทำงานกลั่นแกล้งจากกรณีนี้ ส่งผลทำให้ล่าสุด เธอถูกประเมินปลายปีต่ำ และถูกให้ออกจากราชการ
วันนี้ ทีมงานสายไหมต้องรอด ได้พา น.ส.ธัญญรส รัตนณวัฒนสกุล หรือ เก่ง อายุ 37 ปี อดีตลูกจ้างสาวฝ่ายทะเบียน อำเภอเมืองสมุทรสาคร ที่ถูกให้ออกงานโดยไม่เป็นธรรม เข้าพบนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี เพื่อหาทางช่วยเหลือในข้อกฎหมาย เพื่อคืนความเป็นธรรม
ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้น หลังจากที่นางสาวธัญญรส ออกมาเปิดเผยข้อมูล กรณีที่มีสาวใช้คนหนึ่ง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนอำเภอ ปลอมแปลงเอกสารราชการ และปลอมลายเซ็นของตัวเธอ ใช้เอกสารการจดบุตรบุญธรรม ของนางวีณา ศิลาสุวรรณ เศรษฐินีชาวสมุทรสาคร
ซึ่งตัวคุณเก่ง ทำงานเป็นลูกจ้างฝ่ายทะเบียน อำเภอเมืองสมุทรสาครมานานกว่า 10 ปี ไม่เคยมีปัญหา จนเมื่อ มีข่าวเรื่องการรับบุตรบุญธรรม ซึ่งครอบครัวเศรษฐินี ร้องให้ตรวจสอบเอกสารการรับบุตรบุญธรรมดังกล่าว ว่าทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
เมื่อคุณเก่งเห็นข่าวนี้ จึงได้มีการค้นหาเอกสาร เนื่องจากมีหน้าที่รับผิดชอบ เกี่ยวกับการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม เมื่อค้นหาเอกสารแล้ว จึงพบว่าเอกสารการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมดังกล่าวเป็นเท็จ เพราะ พบว่า ในเอกสารการรับบุตรบุญธรรมมีชื่อตัวเธอ ลงชื่อเป็นพยาน ทั้งที่ความจริง ตัวคุณเก่งเอง มีหน้าที่ในการรับจดทะเบียนเท่านั้น ไม่สามารถไปลงชื่อในฐานะพยานได้ ทำให้เธอเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร เรื่องการลงลายมือชื่อเป็นเท็จ
ต่อมาต้นปี 2567 ศาลได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนการจดรับบุตรบุญธรรมดังกล่าว ทำให้สาวใช้รายนี้ ไม่มีสิทธิรับมรดกกว่า 500 ล้านบาท จึงคิดว่าจบเรื่องแล้ว นางสาวธัญญรส จึงกลับมาทำงานตามปกติ
ต่อมาปลายปี 2567 กลับถูกประเมินจากเพื่อนร่วมงานว่าขาดจริยธรรมในการทำงาน จึงถูกบีบให้ออกจากงาน เธอจึงเชื่อว่าการประเมินดังกล่าวเป็นผลมาจากที่ตนเอง ไปแจ้งความทำให้สาวใช้รายนี้ อดรับมรดกกว่า 500 ล้านบาท และอาจจะทำให้มีผู้ใหญ่บางคนเสียผลประโยชน์
โดยการเข้ามาพบอธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ ในครั้งนี้ คุณเก่งเดินทางมาพร้อมกับสามี อยากให้อัยการช่วยเหลือ เพราะมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเธออยากทราบรายละเอียดการประเมินของตัวเอง ว่าทำไมได้คะแนนน้อยทั้งที่ทำงานไม่เคยมีปัญหาเลย และย้ำว่าการที่ถูกให้ออกจากงานกระทบกับชีวิต ทำให้ขาดรายได้
ขณะที่นายณัฐวัฒน์ รัตนณวัฒนสกุล สามีของคุณเก่ง บอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ภรรยาเสียใจมาก 2 เดือนที่ถูกให้ออกจากงานไม่เคยเห็นภรรยายิ้มอีกเลย และที่ทุกคนเห็นว่าภรรยาพูดไม่เก่ง ไม่ค่อยพูด เพราะ อยู่ในภาวะซึมเศร้า ร้องไห้ทุกวัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจมาร้องเพจสายไหมต้องรอด และต่อสู้เรื่องนี้ สามียังบอกด้วยว่า ที่ผ่านมาร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน ทั้งสำนักนายกรัฐมนตรี ศูนย์ดำรงธรรม หรือส่งหนังสือไปถึง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับใดใด
นอกจากการร้องเรียนแล้ว ยังมีการยืนยันเป็นภาพลายเซ็นของคุณเก่งเอง ลายเซ็นจริงของคุณเก่ง ชื่อจริง คือ ธัญญรส เธอเซ็นคล้ายตัว P ส่วนลายเซ็นในเอกสารบุตรบุญธรรมของนางวีณา เศรษฐินี คล้ายตัว ธ.มากกว่า
ส่วนเรื่องการประเมินที่เธอถูกให้ต่ำกว่าเกณฑ์ พบว่าเธอได้คะแนนการประเมิน ร้อยละ 77.5 ไม่ผ่านเกณฑ์ประเมิน
ซึ่งข้อที่คุณเก่งได้คะแนนน้อยมาก คือ ข้อ 5 คุณธรรมและจริยธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตมากน้อยเพียงได้ คะแนนเต็ม 20 คะแนน เธอได้ 9 คะแนน และข้อ 5 เรื่องการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความมีมนุษย์สัมพันธ์กับผู้ว่าจ้างและบุคลากรของผู้ว่าจ้างเพื่อร่วมงานและปราชาชนผู้มาติดต่อราชการ เต็ม 20 คะแนน เธอก็ได้ 9 คะแนน
ทั้งนี้ คุณเก่ง ยังบอกด้วยว่า เธอทำงานมา 10 ปี ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยถูกร้องเรียนแต่อย่างใด จนมาปีที่ 10 หลังผลคะแนนต่ำ ถูกระบุว่ามีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับตัวเธอ จึงคิดว่าโดนกลั่นแกล้งให้ออกจากงานอย่างเเน่นอน
ขณะที่สามีคุณเก่ง เล่าเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ภรรยาถูกประเมินต่ำ และถูกให้ออกจากงาน ตอนแรกยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดขึ้นเพราะเหตุใด ภรรยา โทรศัพท์ไปลาหัวหน้างานที่รัก และเคารพ จนทราบว่า หัวหน้างานเป็นคนประเมินให้เธอไม่ผ่านเกณฑ์ด้วยตัวเอง ให้เหตุผลว่า เธอเป็นคนทำงานได้ดี แตคุณธรรมจริยธรรมกับเพื่อนร่วมงานคะแนนไม่ดี ประกอบกับมีประชาชนร้องเรียนการทำงานของเธอและเพื่อนร่วมงานคนอื่นเข้ามา บางช่วงหัวหน้างานของเธอยังบอกอีกว่า เอกสารการร้องเรียนมีเป็นปึกเลย ซึ่งตัวเธอก็น่าจะรู้ว่าเป็นใคร
ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับเรื่องแล้ว ทางหน่วยงานจะขอดูเอกสารทั้งหมดอย่างละเอียด และจะให้ความรู้และแนวทางที่ถูกต้องในการต่อสู้คดีตามกฏหมาย และจะอยู่เคียงข้างผู้เสียหายจนจบเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ต้องดูสัญญาจ้างงาน ว่ามีข้อกำหนดอะไรบ้าง และผู้เสียหายมีสิทธิอะไรบ้าง และจะต่อสู้อย่างไรตามกฏหมาย เพื่อให้ตัวเองกลับมาทำงานได้เหมือนเดิม
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ncu0Z8k5jpE
แท็กที่เกี่ยวข้อง