‘ทนายเดชา’ เผย ‘หนุ่ม กะลา’ พร้อมเจรจาอดีตเมีย ด้านทนายอดีตเมีย โพสต์ พร้อมเช่นกัน

‘หนุ่ม กะลา’ พร้อมเจรจา 'จูน อดีตเมีย' ตกลงเรื่องแบ่งทรัพย์สิน ส่วนเงิน 66 ล้านที่ฟ้อง คนละส่วนกับที่ให้ใช้จ่ายในบ้าน

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนายณพสิน แสงสุวรรณ หรือหนุ่ม กะลา ดังร้องชื่อดัง ให้สัมภาษณ์กรณี จูน เพ็ญชุลี อดีตภรรยาของคุณหนุ่ม บอกว่า เขาได้ตรวจคำเบิกความของคุณจูน ให้ข้อมูลว่า สามีมีรายได้ปีละ 30 ล้านบาท ซึ่งขัดแย้งกับงบการเงินที่เอามาเปิดเผยในโซเชียลมีเดีย มีแค่ 14 ล้านบาทเท่านั้น แปลว่าคุณจูนเบิกความเท็จหรือไม่ หรือเป็นการเข้าใจผิด หรือทนายให้ข้อมูลผิด เพราะตัวเลขที่ต่างกัน มีผลต่อการเรียกค่าทดแทนในคดีชู้

อยากฝากถึงภรรยาหนุ่มว่า อย่าเอาลูกมาออกโซเชียล ถ้าหากว่าเรารักเด็กจริง เพราะมันมี พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มาตรา 27 อยู่ ส่วนความสัมพันธ์ ระหว่างพ่อลูกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ที่จริงเรื่องนี้สามารถไกล่เกลี่ยได้ แต่อยากให้ภรรยาหนุ่มหยุดให้สัมภาษณ์สื่อ หยุดออกรายการแล้วพูดเรื่องภายในครอบครัว เพราะไม่ควรเอามานำเสนอสู่สาธารณะ โดยเฉพาะหนุ่ม กะลา เป็นบุคคลสาธารณะ พอบอกว่ามีเมียน้อยนอกใจ ก็กระทบต่อชื่อเสียง ต่อรายได้ ก็ไม่มีเงินไปให้ครอบครัวมากกว่า ควรไปคุยกับที่ศาล และเวลาออกมาให้สัมภาษณ์ก็ขอให้พูดความจริงไม่ใช่เอาแต่ดรามา มองว่าเรื่องนี้สามารถคุยกันได้ แต่อีกฝ่ายไม่ได้ติดต่อมาเลย ถ้าหากยังไม่หยุด ก็คงพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย

ทนายเดชา กล่าวว่า ทีมทนายตรวจสอบแล้วว่าเงินที่ถอนออกไปทั้งหมด 66 ล้าน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่าย ที่อ้างว่ามีต่อเดือน 700,000 บาท เพราะว่าคนละก้อนกัน และวันที่ 15 มิ.ย.นี้ คุณหนุ่ม กะลา เตรียมจะบวช เพราะเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

ส่วนคดีความที่มีการฟ้องร้องกันนะหว่างคุณจูน และชู้ หรือมือที่สามเรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปเดือนมิถุนายน 2566 คุรหุ่มกะลาออกมายอมรับว่าตัวเองนอกใจภรรยา คุณจูน เพ็ญชุลี ภรรยาที่คบหากันมานานกว่า 27 ปี ทั้งที่มีพยานรักด้วยกัน 1 คน ซึ่งมือที่สามที่เข้ามาเป็นแฟนคลับสาว ทำให้คุณจูนตัดสินใจ "ฟ้องหย่า" และ "ฟ้องชู้" เดือนมกราคม 2567 ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดลพบุรี มีคำสั่งให้สาวมือที่ 3 ชดใช้เป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท แต่ไม่มีการชดใช้เกิดขึ้น

ทำให้ วันที่ 9 พ.ค.67 ทนายพัฒน์ ออกมาโพสต์ถึงความคืบหน้าเรื่อการชดใช้เงินของคู่กรณีอีกครั้ง บอกว่าคู่กรณีคือ สาวมือที่ 3 ยังไม่ยอมจ่ายตามที่ศาลมีคำสั่ง และขอให้ศาลอุทธรณ์นัดวินิจฉัยใหม่ ดังนั้นทางคุณแม่เห็นว่าไม่สำนึก ก็เลยขออุทธรณ์โต้แย้งเปลี่ยนยอดเงินจาก 4 ล้าน เป็น 10 ล้าน ซึ่งขณะนี้กระบวนการยังอยู่ในชั้นศาล

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/8GKD1ss3fPs