อาชญากรรม

ตร.เร่งล่าหนุ่มฆ่าหมกคอนโด หลังพบเบาะแสหนีอยู่พัทยา ญาติยันไม่เผาศพจนกว่าจะจับคนร้ายได้

โดย panwilai_c

29 พ.ค. 2567

229 views

พี่ชายเหยื่อที่ถูกฆ่าหมกห้องพักในคอนโดมิเนียม ย่านงามวงศ์วาน ยืนยันจะไม่เผาศพน้องชายจนกว่าจะจับคนร้ายได้ ล่าสุดเจอเบาะแสผู้ต้องสงสัยที่อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้ายอยู่ที่พัทยา



ความคืบหน้ากรณีชายวัย 54 ปี พาเพื่อนชายคนสนิทมาที่คอนโดมิเนียมช่วง 4 ทุ่มกว่าของวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนจะถูกพบกลายเป็นศพถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหดทิ้งศพไว้ในห้องพักของตัวเองนานถึง 5 วัน ขณะที่ชายต้องสงสัยนำทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายไปขาย และยังใช้เงินในบัญชีของผู้ตายซื้อทองอีก 8 แสนบาท



ล่าสุดตำรวจสืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ตามแกะรอยจนพบว่า ราว 3 ทุ่ม 42 นาที ผู้ต้องสงสัยซึ่งสวมฮูดสีดำ เดินไปซื้อมีดที่ห้างฯ แห่งหนึ่งย่านรัชโยธิน โดยจะเห็นว่าผู้ต้องสงสัยได้สวมฮูดปิดคลุมหัว เหมือนจงใจปกปิดใบหน้าและอำพรางตัว และจากนั้นผู้ต้องสงสัยก็ได้นัดเจอกับคนตายแล้วไปที่คอนโด ของผู้ตายที่ย่านงามวงศ์วาน จังหวัดนนทบุรี



ชายของผู้เสียชีวิต เปิดใจกับทีมข่าวอาชญากรรมช่อง 3 บอกว่า แม่เคยเห็นผู้ต้องสงสัยมากับน้องชายที่บ้านแต่นานมาแล้ว มาแค่ 1 ครั้ง มาแล้ว แต่ไม่เคยคุยกัน ไม่รู้แม้กระทั่งว่าชื่ออะไร ไม่รู้ว่าไปรู้จักกันตอนไหน แต่เป็นคนไทยแน่นอน เพราะพูดไทยชัด แต่ตอนนี้แม่สภาพจิตใจค่อนข้างย่ำแย่เพราะอยู่กับน้องชายมาตลอด ประกอบกับกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะผู้ต้องสงสัยได้ข้อมูลของน้องชายไปเยอะมาก



ส่วนมูลเหตุจูงใจเชื่อว่าต้องเป็นเรื่องประสงค์ต่อทรัพย์ และคงวางแผนมานานแล้ว จึงเข้ามาตีสนิท จนน้องชายไว้ใจขอฝากถึงผู้ก่อเหตุที่ตอนนี้ยังหลบหนีอยู่ว่า ถ้าอยู่ได้ก็อยู่ไป คนเราคงไม่ดวงดีไปตลอด ทุกคนในครอบครัวไม่มีใครอโหสิกรรมให้ ถ้าครอบครัวตัวเองโดนแบบนี้บ้างจะรู้สึกอย่างไร และขอให้กอดทรัพย์สินที่ไม่ใช่ของตัวเองไว้ให้ดี เชื่อว่าอีกไม่นานจะต้องได้รับกรรม โดยตนเชื่อว่า น้องชายตนตามผู้ก่อเหตุอยู่ตลอด



พี่ชายผู้เสียชีวิต ยังบอกด้วยว่า ได้จ้างเจ้าหน้าที่อาสาของมูลนิธิฯ ไปทำความสะอาดห้องของน้องชายเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ (28พ.ค.) และยกทรัพย์สินของน้องชายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทีวี ตู้เย็น ให้กับเจ้าหน้าที่นำไปใช้ หรือไปบริจาค เพื่อเป็นการทำบุญให้กับน้องชาย และวันเสาร์นี้ทางคอนโดจะนิมนต์พระมาทำบุญด้วย



มีรายงานว่าในวันที่ผู้ต้องสงสัยเอาโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปขายที่มาบุญครอง มีพนักงานขายโทรศัพท์ร้านใกล้เคียง เห็นชายใส่เสื้อสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นเสื้อสีเดียวกันกับที่คนตายใส่ในวันที่ถูกฆ่า เดินตามผู้ต้องสงสัยในขณะที่เอาโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปขายด้วย



ล่าสุดมีรายงานว่าชายต้องสงสัยหนีไปกบดานอยู่ที่พัทยา ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการไล่ล่าติดตาม



คนขับแท็กซี่เข้าให้ปากคำตำรวจ หลังรับผู้ต้องสงสัยจากห้างย่านรัชโยธินมาส่งที่ถนนงามวงศ์วาน ก่อนเกิดเหตุร้าย ขณะที่พี่ชายผู้ตายเข้าพบตำรวจ ยืนยันยังไม่รับศพน้องจนกว่าจะจับคนร้ายได้ เชื่อวิญญาณน้องตามติดคนทำผิด



เมื่อช่วงบ่าย นายประสงค์ อายุ 68 ปี คนขับรถแท็กซี่โดยสารเขียวเหลือง เข้าให้ปากคำกับ พันตำรวจตรี ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ซึ่งเคยรับผู้ต้องสงสัยเป็นชายสวมฮู้ดดำ หลังซื้อมีดจากห้างย่านรัชโยธิน พามาส่งที่เป็นจุดนัดพบก็ชายวัย 54 ปี กระทั่งเกิดเหตุฆาตกรรมหมกศพคาคอนโด



โดยนายประสงค์ เผยว่า เมื่อที่ 20 พฤษภาคม ช่วงเวลาประมาณ 3 - 4 ทุ่ม ผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้โบกเรียกรถที่หน้าห้างย่านรัชโยธิน ให้ไปส่งที่ฝั่งตรงข้ามห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน โดยในระหว่างที่นั่งรถโดยสารมา ผู้ต้องสงสัยไม่ได้มีท่าทีพิรุธอะไร เขานั่งสวมฮู้ดคลุมศีรษะไว้ แต่ไม่ได้สวมแว่นตา และไม่เห็นว่ามีกระเป๋าสะพายติดตัวมา นอกจากในมือจะมีโทรศัพท์อยู่ 2 เครื่อง ซึ่งก็มีข้อความดังมาตลอด แต่ไม่เห็นยกโทรศัพท์ขึ้นมาคุยอะไรกับใคร



กระทั่งถึงที่หมาย ได้ลงรถบริวณใต้สะพานลอย ฝั่งตรงข้ามพันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน ค่าโดยสาร 90 บาท ชายคนนี้จึงยื่นแบงค์ร้อยมาให้ ก็ทอนเงินกลับ 10 บาท ซึ่งตลอดเส้นทาง ไม่ได้คุยอะไรกัน หลังลงจากรถก็ขึ้นสะพานลอยไป /ผู้สื่อข่าวจึงเปิดภาพผู้ต้องสงสัยให้นายประสงค์ดู นายประสงค์ก็ยืนยันว่า เป็นคนคนเดียวกัน



ต่อมานายฉัตรชัย อายุ 55 ปี พี่ชายของนายไพศาล อายุ 54 ปี ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งก่อนเดินทางกลับ ได้ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ยังไม่รับร่างน้องชายมาทำพิธีทางศาสนา โดยจะรอให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ก่อน เพราะเชื่อมั่นว่าภายในอีกไม่กี่วันนี้ น่าจะตามจับได้ และเชื่อว่า วิญญาณของน้องชาย จะติดตามคนร้ายไปตลอดเวลา เพราะมีคนเห็นเขาจริงๆ เชื่อมั่นลึก ๆ ว่า วิญญานของน้องชายจะช่วยดลจิตดลใจให้ตำรวจตามจับคนร้ายได้ในที่สุด


https://youtu.be/8GX9Vmnk1rc

คุณอาจสนใจ

Related News