‘พระพยอม’ เร่งหาสาเหตุ ไฟไหม้ทำ ด.ช.ดับ 3 ยัน วัดไม่ได้ล็อกกุฏิขัง

กรณีเกิดเหตุสลดไฟไหม้กุฏิวัดสวนแก้ว ทำให้เด็กชายฝาแฝดวัย 11 ปี กับเด็กชาย 9 ปี ถูกไฟคลอกเสียชีวิต 3 ศพ

ไฟโหมลุกไหม้ เมื่อเวลาประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พร้อมแพทย์ และกู้ภัยฯ เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งเหตุมีเด็กชาย 3 คน ซึ่งเป็นเด็กที่ทางวัดได้อุปการะไว้และส่งเรียนหนังสือ ถูกไฟคอกเสียชีวิต อยู่ภายในวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่

ที่เกิดเหตุเป็นกุฎิพระเก่าลักษณะโครงสร้างเป็นเหล็กบุด้วยไม้อัด มีร่องรอยถูกไฟไหม้เสียหาย จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าที่เสาเหล็กเป็นลักษณะปลั๊กไฟ มีร่องรอยไฟฟ้ารั่ว และยังมีกระแสไฟฟ้าช็อตอยู่ จึงประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าทำการตัดกระแสไฟทันที

ต่อมาเวลา 01.50 น. กู้ภัยฯ ได้นำเครื่องตัดถ่างมาตัด บริเวณประตูหน้ากุฎิเนื่องจากกลัวกุฏิจะพังลงมาเพราะถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหลัง โดยพบศพทั้ง 3 ราย ได้นอนกอดกันอยู่ตรงประตูทางออก สภาพศพถูกไฟไหม้เกรียม

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุคาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรประกอบกับมีฝนตกลงมาและไฟเกิดช็อตกับตัวโครงสร้าง ซึ่งเป็นเหล็กจึงทำให้เด็กทั้ง 3 คนถูกไฟดูด และเกิดไฟลุกไหม้ขึ้น เด็กจึงไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ ทำให้ถูกไฟคลอกเสียชีวิตและเมื่อเช้านี้ นายณัฐเดช กังสุกุล ปลัดจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ก่อนจะหาแนวทางช่วยเหลือในเรื่องที่เกิดขึ้น

ต่อมาเวลา 11.00 น. ตำรวจพิสูจน์หลักฐานฯ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ในการเก็บหลักฐาน และต้องใช้เวลาราว 2 อาทิตย์ถึงจะทราบผล โดยในวันนี้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักพุทธนนทบุรี , เจ้าหน้าที่ พม. มาตรวจสอบหาข้อมูลหลักฐานที่วัดสวนแก้ว

ขณะที่พยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางวัดรับเด็กมาอุปการะดูแลหลายต่อหลายรุ่น เป็นเวลาเกือบ 30 ปี ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงแบบนี้มาก่อน เหตุที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นเหตุสุดวิสัย เมื่อคืนเป็นวันวิสาขบูชา ทางวัดมีกิจกรรมฟังเทศน์ เวียนเทียน จนดึก คนดูแลเด็กทำหน้าที่ดูแลเด็กไม่ทั่วถึง เด็กๆจึงสบโอกาสลงจากเรือนนอนมาแอบเล่นกันที่กุฏิที่เกิดเหตุซึ่งเป็นกุฏิร้างไม่มีพระสงฆ์อยู่ โดยจับกลุ่มลงมาเล่นกัน 5 คน

โดยเป็นคู่แฝดกัน 2 คู่ ปรากฏว่าเมื่อเล่นกันไปสักพักแล้ว มีเด็ก 2 คน ขอตัวขึ้นไปนอนก่อน ทำให้เหลือเด็กคู่แฝด 2 พี่น้องคู่หนึ่งและแฝดของอีกคู่ ที่เหลือเพียงคนเดียวเล่นกันอยู่ในกุฏิดังกล่าว จนกระทั่งเกิดเหตุขึ้น หากเด็ก 2 คน ไม่ขอตัวขึ้นไปนอนเสียก่อนก็คงจะเสียชีวิตด้วยกันเป็น 5 ศพแน่ๆ

พระพยอม กล่าวอีกว่า มีข่าวบางสำนักนำเสนอด้วยข้อมูลที่บิดเบือนไม่ถูกต้อง ไม่ตรงกับความจริงว่าห้องถูกล็อกกุญแจจากด้านนอก ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ทางวัดมีหลักฐานตั้งแต่คนดูแลวัดวิ่งไปหยิบถังดับเพลิงเข้าไปช่วยเหลือดับไฟในห้อง ถ้าประตูถูกล็อกด้วยกุญแจข้างนอกจริง ป่านนี้กุฏิคงไหม้วอดวายไปทั้งหมด ไม่สามารถเข้าไปฉีดดับไฟได้ทัน ทางวัดมีคลิปเหตุการณ์ยืนยันในเรื่องนี้ทั้งหมด แต่ข่าวที่นำเสนอไปผิดๆ ทำให้ทางวัดได้รับความเสียหาย เพราะคนที่ไม่ทราบความจริง จะเข้าใจผิดว่าวัดไปล็อกประตูขังเด็กไว้ในกุฏิต้องทำให้เด็กถูกไฟคลอกตาย แบบนี้ใช้ไม่ได้ เหมือนหาคุกหาตารางมาให้วัด

ทีมข่าวได้ภาพกล้องวงจรปิด ช่วงเวลา 22.15 น. หรือประมาณเกือบ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ บันทึกภาพเด็กชายวัย 9 ขวบ หรือ น้องพงษ์ กระโดดออกจากระเบียงด้านข้างของอาคารนอน และวิ่งไปทางซ้ายมือก่อนที่ไม่กี่วินาทีต่อมาจะวิ่งกลับมา ที่อาคารฝั่งข้างระเบียงอีกครั้ง พร้อมกับถือของบางสิ่งในมือ

ก่อนที่ในเวลา 22.16 น. เด็กชายวัยเก้าขวบ จะวิ่งจากอาคารนอนพร้อมกับถือวัตถุของสิ่งเดิม ไปที่กุฎิที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึง 10 เมตร เพื่อไปสมทบกับเด็กชายวัย 11 ขวบอีกสองคนที่อยู่ในกุฎิก่อนหน้านี้ ซึ่งคลิปนี้แสดงให้เห็นว่า ตัวกุฎิไม่ได้มีการล็อคกลอนจากทางด้านในและด้านนอก

คลิปเหตุการณ์กล้องวงจรปิด วงจรปิดช่วงเวลา 23.29 น. ทางด้านขวา จะเริ่มเห็นแสงไฟสีส้มๆ ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของกุฏิ

จากนั้นมีพระลูกวัดวิ่ง ถือไฟฉายมาที่กุฏิ ก่อนจะวิ่งไปตามเจ้าหน้าที่ รปภ. โดยจะสังเกตเห็นว่าในแสงไฟตรงกุฏิเริ่มรุนแรงขึ้นก่อนที่จะมีพระลูกวัดอีกรูป วิ่งเข้ามาตักน้ำในถังพยายามดับไฟ

จากนั้นในเวลา 23.31 น. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั่งรถกอล์ฟมา และพยายามช่วยกันดับไฟ เอาถังดับเพลิงมาดับไฟ

จากการสังเกตในกล้องวงจรปิด แสงไฟจะดับลงในเวลา 23.32 น. ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ และพระลูกวัดที่ช่วยกันดับไฟ

ในขณะเกิดเหตุ มีคลิปเหตุการณ์บางช่วงบางตอน ขณะที่เพลิงกำลังลุกไหม้ ได้มีเจ้าหน้าที่ตะโกนถามว่ามีใครอยู่ไหมๆ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ

โดยในคลิปจะเห็นได้ว่าขณะเกิดเหตุยังมีฝนตกโปรยปรายลงมา ก่อนจะมีเสียงคนพูดว่า "เฮ้ย! มีคนอยู่" หลังเกิดเหตุก็เข้าไปสำรวจด้านใน ก็พบว่าสภาพในเหลือแต่ขี้เถ้า เหลือเพียงโครงเหล็กของตัวกุฏิ และพบร่างของเด็กทั้ง 3 อยู่ในกุฏิ

ทีมข่าวสอบถาม พระชินชนัตถ์ ปัญญาวโร พระลูกวัดสวนแก้ว ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อคืนนี้ ราว 5 ทุ่มกว่า ขณะจำวัดอยู่ภายในกุฏิ แล้วได้ยินเสียงเด็กกรี๊ดจากภายในกุฏิที่เกิดเหตุ เสียงเหมือนแม่หมูกำลังคลอดลูก ก็เลยลุกออกมาดู จากนั้นตนก็เห็นแสงไฟ เหมือนไฟฉาย ผ่านช่องหน้าต่างภายในกุฏิ ในตอนนั้นยังไม่มีประกายไฟเกิดขึ้น ตนก็เลยลุกขึ้นมาห่มจีวรจนเรียบร้อย แล้วหยิบไฟฉายออกมาจากห้องพัก เพื่อจะไปเตือนกลุ่มเด็กๆ ว่าอย่าเล่นกันเสียงดัง

พอออกมา กำลังจะข้ามสะพานไปฝั่งกุฏิ ก็หันไปมองเห็นไฟกำลังลุกไหม้กุฏิอย่างรุนแรง ตนก็ตกใจรีบวิ่งไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของวัด และตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนในวัดก็รีบพากันมาช่วยดับไฟ

พระชินชนัตถ์ ยังสันนิษฐานว่า ตอนที่เด็กกรี๊ด อาจเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากไฟดูด ที่เกิดจากไฟรั่ว เพราะกุฏิที่เกิดเหตุเป็นโครงเหล็ก ทำให้เด็กไม่สามารถออกจากกุฏิได้ เด็กก็เลยกรี๊ดเพื่อขอความช่วยเหลือ เช่นเดียวกับ นายสุริยาทิตย์ ทองเสมอ อายุ 42 ปี

หัวหน้า รปภ.กะกลางคืน ซึ่งเข้าไปช่วยดับไฟ เล่าว่า หลังได้รับแจ้งจากพระลูกวัด ตนเองจึงนั่งรถกอล์ฟไป และรีบนำถังดับเพลิงมา 2 ถังฉีดเข้าไปที่กุฏิ ยอมรับว่าใช้ถังดับเพลิงทั้งหมด 2 ถังเพลิงไฟถึงมอดลง

จากนั้น ตนเองได้พยายามเปิดประตูกุฏิ่และก็พยายามสาดน้ำเข้าไป ในระหว่างนั้นเอง ตนเองก็สังเกตเห็นว่ามีอะไรบางอย่างคล้าย ตุ๊กตาอยู่ในกุฏิ ตอนแรกก็ไม่เอะใจ ก็รีบดับเพลิงและสาดน้ำให้เสร็จ เมื่อทุกอย่างสงบลง เข้ามาตรวจสอบ ดูจนกระทั่ง ทราบว่า ไม่ใช่ตุ๊กตาแต่เป็น เด็ก 3 คน ยืนยันว่า กุฏิไม่ได้มีการล็อกกุญแจใดๆ ทั้งสิ้น ตนเองยังเป็นคนใช้มือเปิดประตูเพื่อสาดน้ำเข้าไปดับไฟ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/DV6CxjySZBs