อาชญากรรม

ญาติรับศพแม่บ้าน เหยื่อชายอินเดียฆ่าหมกห้องรร. ชี้ กรรมใดใครก่อ คนนั้นก็รับไป

โดย attayuth_b

17 เม.ย. 2567

105 views

คืบหน้ากรณีแม่บ้านวัย 51 ปี โดนชายชาวอินเดียวัย 31 ปี ใช้มีดแทง 31 แผล เสียชีวิตในห้องพักของโรงแรมแล้วหนี จนตำรวจไปตามจับตัวมาได้


เหตุฆาตกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (16เม.ย.67) ที่ห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งในซอยวุฒากาศ 14 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ภายในห้องพบศพนางสาว สุกัญญา ดิษยบุตร อายุ 51 ปี เป็นแม่บ้าน โดนแทงเสียชีวิตอยู่ภายในห้อง สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงยีนส์ขาสั้น ตามร่างกายมีบาดแผลโดนแทงถึง 31 แห่ง ข้างตัวผู้ตายพบโทรศัพท์มือถือแต่บตหมด และมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุตตกอยู่ 1 เล่ม

ที่หน้าห้องน้ำพบโทรศัพท์มือถือที่กำลังชาร์ตแบตวางอยู่อีก 1 เครื่อง ภายในห้องข้าวของกระจายเกลื่อนกลาด มีคราบเลือดกระจายไปทั่วห้อง รวมถึงในห้องน้ำและห้องแต่งตัว

จากการสืบสวนทราบว่าผู้ตายมาเปิดห้องตั้งแต่วันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมกับชายชาวอินเดีย 1 คน ชื่อ นาย ยาเดฟ อายุ 32 ปี ทุกวันผู้ตายจะมาที่ห้องตอนเช้าและกลับไปช่วงค่ำ ก่อนเกิดเหตุพนักงานโรงแรมได้ยินเสียงคนทะเลาะกันภายในห้อง จึงโทรศัพท์ไปสอบถาม แต่เป็นเสียงผู้ชายรับแล้ววางสายใส่ถึง 2 ครั้ง สักพักเสียงก็เงียบไป คิดว่าน่าจะเคลียร์กันแล้ว กระทั่งบ่ายโมงกว่าชายชาวอินเดีย เดินเล่นโทรศัพท์ลงมาแล้วเดินออกจากโรงแรมไปอย่างใจเย็นแล้วไม่กลับมาอีก

ตำรวจตรวจสอบพบว่า นาย ยาเดฟ มีอาชีพขายถั่ว และเคยถูกผลักดันออกนอกประเทศ เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา คาดว่าน่าจะลักลอบเข้าไทยทางเส้นทางธรรมชาติ ก่อนจะไปเช่ามอเตอร์ไซต์ที่อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี แล้วมาเช่าห้องพักอยู่กับผู้ตาย กระทั่งเกิดเหตุสลดขึ้น

สำหรับเส้นทางหลบหนีนาย ยาเดฟ เดินออกจากโรงแรมแล้วนั่งวินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง เพื่อไปต่อรถตู้ย่านปิ่นเกล้า เดินทางไปจังหวัดนครปฐมเพื่อไปหากลุ่มเพื่อนอินเดียที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง ก่อนจะหลบหนีต่อไปที่อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี และถูกจับกุมได้เมื่อคืนนี้ (16เม.ย.67)

เมื่อเช้าลูกชายผู้ตายเดินทางมาที่ สน.ตลาดพลู เพราะต้องการสอบถามผู้ต้องหาว่าทำไมต้องฆ่าแม่เขาอย่างโหดเหี้ยม ส่วนชนวนเหตุเชื่อว่า มาจากเรื่องความหึงหวงมากกว่าเป็นเรื่องเงิน

เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ลูกชายของผู้เสียชีวิตพร้อมญาตินิมนต์พระสงฆ์ มาประกอบพิธีอัญเชิญวิญญาณ บนห้องที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ20นาทีโดยน้องสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผย เพียงสั้นๆว่า ในระหว่างที่ทำพิธีอัญเชิญวิญญาณ ได้บอกกับพี่สาวว่า ขอให้อโหสิกรรม กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นส่วนตัวเองอยากจะบอก ผู้ก่อเหตุว่า "กรรมใดใครก่อ คนนั้นก็รับไป"

จากนั้นเดินทางไปรับศพที่ภาควิชานิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช แล้วจะนำร่างไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดสารอด ย่านราษฎร์บูรณะ


https://youtu.be/exEZa2gUl-A

คุณอาจสนใจ