อาชญากรรม

คุม 'ทอย' ฆ่า 'นุ่น' ทำแผน เจ้าตัวเผยนั่งขอโทษศพนานนับชม. ลั่นยินดีชดใช้ตามที่เคยบอก

โดย panwilai_c

21 ก.พ. 2567

167 views

ตำรวจ สภ.ปากเกร็ดคุมตัว นาย ทอยไป ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 4 จุด ตั้งแต่จุดที่ซ้อมริมถนน ที่บ้านที่ฆ่ายัดกระเป๋า และที่ปราจีนจุดเผาศพ ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดปากบอกว่า "สำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป"



การทำแผนเริ่มต้นขึ้น เมื่อเวลา 9 โมง ครึ่งตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.ปากเกร็ด คุมตัวนาย ทอย ออกจากสถานีตำรวจหลังนั่งสอบปากคำมาตลอดทั้งคืน โดยนาย ทอย สวมเสื้อฮู้ดสีเทาเข้ม กางเกงขายาว ชุดเดิมที่ใส่มาตั้งแต่เมื่อคืน



จุดแรกที่มาทำแผน คือ บ้านพักของนาย ทอย และภรรยา ซึ่งอยู่ภายในหมู่บ้านลูกกอล์ฟ ย่านเมืองทองธานี ซึ่งเป็นบ้านของนาย ทอย และภรรยา จากคำให้การของนาย ทอย ระบุว่า หลังจากทำร้ายร่างกายภรรยาที่บริเวณริมถนนแจ้งวัฒนะมาแล้ว ก็ขับรถเข้ามาจอดที่บ้าน แล้วลากตัวภรรยาลงมาจากรถเข้าทางประตูหลัง แล้วใช้อิฐบล็อกทุบซ้ำจนเลือดกระเด็นติดกำแพง ก่อนจะลากตัวภรรยาไปนอนบนที่นอน แล้วมาทำความสะอาดคราบเลือด



กระทั่งเช้าไปดูภรรยาที่เตียงพบว่าไม่หายใจแล้ว จึงตัดสินใจเอาขึ้นไปเอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาใส่ศพ แล้วลากกระเป๋าออกจากประตูหลังบ้านเพื่อขึ้นรถที่ประตูด้านหลังฝั่งซ้าย ในช่วงเช้าของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ทีมขาวพบว่าภายในบ้านยังมีรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูสีขาว ที่ใช้ก่อเหตุจอดอยู่ด้วย



การชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดนี้ ตำรวจให้สื่อมวลชนรออยู่ที่บริเวณด้านนอกของตัวบ้าน แต่ได้เปิดหน้าต่างเพื่อให้เห็นการทำแผนทั้งหมด เพื่อความโปร่งใสในการทำงาน โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที



จังหวะที่ตำรวจคุมตัวนาย ทอย กลับขึ้นรถตู้ ทีมข่าวสอบถามว่า รู้สึกผิดกับเหตุการณ์นี้หรือไม่ นาย ทอย บอกว่า อยากขอโทษกับสิ่งที่ทำไป ตอนนี้เป็นห่วงลูกอย่างมาก เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรอยากจะบอกกับนุ่นหรือไม่ นาย ทอย ระบุเพียงสั้นๆ ว่า ถ้านุ่นรับรู้ เขาจะขอชดใช้ทุกอย่างให้ตามที่สัญญากับนุ่นไว้ ก่อนที่จะพานุ่นไปเผา



จุดที่ 2 คือ ปั๊มน้ำมันปตท. ริมถนนแจ้งวัฒนะขาเข้าใกล้เคียงแจ้งวัฒนะปากเกร็ดซอย 15 ซึ่งเป็นจุดที่นาย ทอย ขับรถออกจากบ้านพักแวะซื้อน้ำมันน้ำมัน 2 แกลลอน แกลลอนละ 5 ลิตร เป็นเงิน 1420 บาท เพื่อใช้เผาอำพรางร่างของภรรยา จุดนี้ทำแผนบนรถเลย เพราะวันเกิดเหตุ นาย ทอยก็ไม่ได้ลงจากรถ และให้พนักงานปั๊มนำแกลลอนมาใส่ให้เบาะหลัง โดยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที



ทีมข่าวสอบถามกับพนักงานของปั๊มคนที่เติมน้ำมันใส่แกลลอนให้กับนาย ทอย บอกว่า นาย ทอย มาสั่งซื้อน้ำมันใส่แกลลอนตามปกติเหมือนลูกค้าทั่วไป ตอนนั้นยังเข้าใจว่า คงสั่งเผื่อไว้กลัวน้ำมันจะหมด เพราะนาย ทอย สั่งถึง 2 แกลลอน และตอนที่นำแกลลอนน้ำมันใส่เบาะหลังรถ ก็ไม่ทันได้สังเกตว่ามีกระเป๋าเดินทางอยู่ในรถหรือไม่ เห็นแต่เด็กเล็กที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับเท่านั้น



และจุดที่ 3 เป็นจุดที่ นาย ทอย ลงมือทำร้ายร่างกายภรรยาที่ริมถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นจุดที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด โดยจุดนี้นายทอยบอกว่า นุ่นหนีลงจากรถ จึงเดินตามมาเพื่อพากลับขึ้นรถ แต่ว่ามีปากเสียงทะเลาะกัน นุ่นปาหินใส่เขาก่อน พอเขาคว้าหินได้ก็กะจะทุบคืนที่แขน แต่พลาดไปโดนตรงท้ายทอย จากนั้นก็ฉุดกระชากกันไปประมาณ 10 เมตร เขาจึงเตะไปที่หน้านุ่นหลายทีด้วยความโมโห และพากลับบ้านพัก แม้จะผ่านมา 3 วันแล้ว แต่วันนี้ตอนที่ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่ายังมีคราบเลือดของนุ่นอยู่ตรงนี้ จากนั้นตำรวจนำตัวนาย ทอย ไปที่จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นจุดที่เผาอำพรางศพ



จากนั้นราวบ่ายโมง ตำรวจคุมตัว นาย ทอย มาถึงที่ สวนยางในพื้นที่หมู่ 10 ตำบลหนองโพรง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นจุดเผาอำพรางร่างของนุ่น ท่ามกลางชาวบ้านที่มามุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก



เมื่อมาถึง ตำรวจได้คุมตัวนาย ทอย ลงมาจากรถตู้ และให้นาย ทอย จำลองเหตุการณ์ในวันก่อเหตุ โดยนำกระเป๋าเดินทางลงมาพร้อมกับแกลลอนน้ำมัน



นาย ทอย ให้การว่า ได้นำกระเป๋าใบใหญ่ที่ยัดศพภรรยามาที่จุดนี้ ก่อนเปิดกระเป๋า ใช้น้ำมันที่ซื้อมาราดลงบนร่าง และราดเป็นทางออกมาให้ไฟลุกตามทาง ก่อนใช้ไฟแช็คจุดไฟเผา และโยนแกลลอนน้ำมันเข้าไปในกองเพลิง เขาสารภาพว่าใช้เวลาอยู่ที่จุดนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยได้นั่งขอโทษขอขมาภรรยาก่อนเดินทางกลับ ไปดูบรรยากาศช่วงนี้



ภายหลังทำแผน ตำรวจได้คุมตัวนาย ทอย กลับไปยัง สภ.ปากเกร็ด ทันที และไม่ได้ตอบคำถามอะไรของนักข่าวอีก



สำหรับจุดที่เผาศพนั้นลักษณะเป็นพื้นที่ในสวนยาง ซึ่งหากมาจากถนนเส้น 359 จะพบว่า บริเวณสองข้างทางเป็นสวนยางและสวนยูคาลิปตัสทั้งหมด ระยะทางมากกว่า 10 กิโลเมตร ไม่มีร้านค้า ไม่มีบ้านคน ซึ่งจุดที่พบศพห่างจากถนนเส้น 359 ราว 1 กิโลเมตร ต้องเลี้ยวเข้าไปในสวนยางที่เป็นถนนลูกรัง ไม่ใช่ถนนหลัก และไม่มีปรากฎในแผนที่ เพราะเป็นถนนที่คนในชุมชนใช้กันแค่บางส่วน หากจะเข้าหมู่บ้านต้องใช้ถนนอีกเส้นหนึ่งที่เป็นถนนคอนกรีต



ทีมข่าวได้ข้อมูลจากการสืบสวนว่า ปกติแล้ว นายศิริชัยจะใช้เส้นทางนี้ขับรถเพื่อไปรับส่งภรรยา ที่ด่านชายแดนอรัญประเทศเป็นประจำ เพื่อข้ามไปบ่อนการพนันที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา จึงมีความคุ้นชินเส้นทางนี้



นาย ยุทธภูมิ นวลสมศรี คนดูแลสวนยาง บอกว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ เขาขี่มอเตอร์ไซต์เข้ามาจากถนนเส้นหลัก ตอนประมาณ 8 โมงเช้า ผ่านจุดเกิดเหตุ เห็นกองไฟที่เพิ่งมอดแต่ไม่ได้หยุดดู เพราะปกติตรงจุดนี้ก็มักจะมีการเผาเศษใบไม้กิ่งไม้อยู่แล้ว แต่พอผ่านมารอบที่สอง ประมาณ 10 โมง เลยจอดดูแต่ไม่กล้าเข้าใกล้ ลักษณะที่เห็นเป็นก้อนดำ ๆ ก็คิดว่าเป็น "ตอไม้" จึงไม่ได้เข้าไปดู กระทั่งมารู้ข่าว ว่าเป็นศพคน



ทีมข่าวสำรวจบริเวณจุดทิ้งศพเพิ่มเติม พบว่าใกล้กัน ห่างจากจุดเผาประมาณ 20 เมตร พบหลักฐานต้องสงสัยคือไฟแช็กที่ตกอยู่ที่พื้นดิน ลักษณะเป็นไฟแช็กใหม่ น่าจะเพิ่งผ่านการใช้งานไม่น่าจะเกินประมาณ 1-2 ครั้ง เนื่องจากแก๊สที่อยู่ในไฟแช็กยังเต็มอยู่ ซึ่งตำรวจจะเข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อไปพิสูจน์ว่าเกี่ยวข้องกับนายศิริชัย ผู้ก่อเหตุหรือไม่


https://youtu.be/RHJCDu82D7A

คุณอาจสนใจ

Related News